พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 14-20 เมษายน 2549

ข่าวทั่วไป Monday April 17, 2006 06:33 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 45/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 14 -20 เมษายน 2549
ในวันที่ 14-16 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. ลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนลดลงและอากาศร้อน สำหรับภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย
ข้อควรระวัง
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่งกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 18-20 เม.ย. มีฝนลดลง
อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่งกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 18-20 เม.ย. มีฝนลดลง ในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง รวมทั้งควรระวังความเสียหายของผลผลิตการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าวด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60% ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. มีฝนลดลง
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60% ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. มีฝนลดลง บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่มและรีบรักษาเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
กลาง
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. มีฝน ฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. มีฝน ฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ ในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่น ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะในบ่อซีเมนต์ควรควบคุมอุณหภูมิในบ่ออย่าให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20% ของพื้นที่ # อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20% ของพื้นที่ ในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ชาวสวนผลไม้ควรค้ำยันและผูกยึดกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่นเมื่อลมพัดแรง นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ตลอดช่วง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ตลอดช่วง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ตลอดช่วง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40 % ของพื้นที่ตลอดช่วง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชผัก และไม้ผล ซึ่งจะกัดกินใบและผลทำให้เสียหายได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ