กรุงเทพ--15 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2549 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพรเสก กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศและคณะได้เริ่มการเยือนไอร์แลนด์ (working visit) โดย ดร. กันตธีร์ ฯ ได้หารือกับนายโนเอล เดมพ์ซีย์ (Mr. Noel Dempsey) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสาร ทรัพยากรทางทะเลและทรัพยากรธรรมชาติ (Ministry of Communications, Marine and Natural Resources) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือกันสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
การเพิ่มทางเลือกด้านการศึกษาแก่เยาวชนไทยโดยเฉพาะด้าน ICT
ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่า ไอร์แลนด์ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงด้านเทคโนโลยีของยุโรป และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดของโลก ซึ่งระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาของไอร์แลนด์มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในฐานะเป็นปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังมีระบบการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่ำกว่าอีกหลายประเทศ อีกทั้งสภาพแวดล้อมมีความปลอดภัย และไอร์แลนด์มีนโยบายสนับสนุนให้นักศึกษาต่างชาติเข้ามาศึกษาต่อ ดังนั้น ไอร์แลนด์จึงน่าที่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เยาวชนไทยพิจารณาในการหาสถานที่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาโดยเฉพาะด้าน ICT นอกจากนี้ ดร. กันตธีร์ฯ ได้พยายามผลักดันให้ไทยและไอร์แลนด์ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันด้านการศึกษามากขึ้น
การแสวงหาความร่วมมือด้านพลังงานทดแทนกับไอร์แลนด์
ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่า โดยที่ไอร์แลนด์มีนโยบายและประสบความสำเร็จในการแสวงหาแนวทางในการใช้พลังงานทดแทน (renewable energy) จากธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้า อาทิ พลังลม (wind power and wind turbines) พลังน้ำจากเขื่อน (hydroelectric station) พลังเชื้อเพลิงชีวภาพ (biofuel) พลังคลื่นและกระแสน้ำ (tidal and wave power) ดังนั้น ไทยน่าจะมีความร่วมมือกับไอร์แลนด์ในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในการใช้ประโยชน์จากพลังงานธรรมชาติ โดยการส่งนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของไทยเข้าร่วมในโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ของไอร์แลนด์ เพื่อนำความรู้ไปปรับใช้กับประเทศไทยต่อไป
การเยี่ยมชมหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของไอร์แลนด์
ภายหลังการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารฯ ไอร์แลนด์ ดร. กันตธีร์ฯ ได้เยี่ยมชม Enterprise Ireland ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของไอร์แลนด์ทั้งในการเชิญชวนบริษัทจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาลงทุนในไอร์แลนด์ และให้คำแนะนำแก่บริษัทของไอร์แลนด์ไปลงทุนในต่างประเทศ โดย ดร. กันตธีร์ฯ ได้หารือกับนายแพท ซิงเกิลตัน (Mr. Pat Singleton) และได้กล่าวเชิญชวนนักลงทุนชาวไอริช โดยเฉพาะนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไปลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยนักลงทุนจะสามารถใช้ไทยเป็นประตูไปสู่ภูมิภาคเอเชียได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผลจากความตกลงการค้าเสรีที่ไทยได้ทำความตกลงไว้กับประเทศต่างๆ จะเอื้อให้บริษัทของไอร์แลนด์สามารถแสวงประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุนจากไทยเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
การเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี (NOVA -University College of Dublin)
ดร. กันตธีร์ฯ ได้เข้าเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารของศูนย์นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี (NOVA UCD-The Innovation and Technology Transfer Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับฝึกอบรมแก่ผู้ประกอบการบริษัทต่างๆ และพนักงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาระบบธุรกิจ ซึ่ง ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่า ศูนย์พร้อมที่จะให้บริษัทต่างชาติเข้าใช้ประโยชน์ได้
หลังจากการหารือ ดร. ไมเคิล วู้ด (Mr. Michael Woods) ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของรัฐสภาไอร์แลนด์ (Chairman of Foreign Affairs Committee of the Parliament) ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.กันตธีร์ฯ และคณะผู้แทนไทยในโอกาสเยือนไอร์แลนด์ครั้งนี้ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2549 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพรเสก กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศและคณะได้เริ่มการเยือนไอร์แลนด์ (working visit) โดย ดร. กันตธีร์ ฯ ได้หารือกับนายโนเอล เดมพ์ซีย์ (Mr. Noel Dempsey) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสาร ทรัพยากรทางทะเลและทรัพยากรธรรมชาติ (Ministry of Communications, Marine and Natural Resources) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือกันสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
การเพิ่มทางเลือกด้านการศึกษาแก่เยาวชนไทยโดยเฉพาะด้าน ICT
ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่า ไอร์แลนด์ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงด้านเทคโนโลยีของยุโรป และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดของโลก ซึ่งระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาของไอร์แลนด์มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในฐานะเป็นปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังมีระบบการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่ำกว่าอีกหลายประเทศ อีกทั้งสภาพแวดล้อมมีความปลอดภัย และไอร์แลนด์มีนโยบายสนับสนุนให้นักศึกษาต่างชาติเข้ามาศึกษาต่อ ดังนั้น ไอร์แลนด์จึงน่าที่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เยาวชนไทยพิจารณาในการหาสถานที่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาโดยเฉพาะด้าน ICT นอกจากนี้ ดร. กันตธีร์ฯ ได้พยายามผลักดันให้ไทยและไอร์แลนด์ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันด้านการศึกษามากขึ้น
การแสวงหาความร่วมมือด้านพลังงานทดแทนกับไอร์แลนด์
ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่า โดยที่ไอร์แลนด์มีนโยบายและประสบความสำเร็จในการแสวงหาแนวทางในการใช้พลังงานทดแทน (renewable energy) จากธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้า อาทิ พลังลม (wind power and wind turbines) พลังน้ำจากเขื่อน (hydroelectric station) พลังเชื้อเพลิงชีวภาพ (biofuel) พลังคลื่นและกระแสน้ำ (tidal and wave power) ดังนั้น ไทยน่าจะมีความร่วมมือกับไอร์แลนด์ในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในการใช้ประโยชน์จากพลังงานธรรมชาติ โดยการส่งนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของไทยเข้าร่วมในโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ของไอร์แลนด์ เพื่อนำความรู้ไปปรับใช้กับประเทศไทยต่อไป
การเยี่ยมชมหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของไอร์แลนด์
ภายหลังการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารฯ ไอร์แลนด์ ดร. กันตธีร์ฯ ได้เยี่ยมชม Enterprise Ireland ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของไอร์แลนด์ทั้งในการเชิญชวนบริษัทจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาลงทุนในไอร์แลนด์ และให้คำแนะนำแก่บริษัทของไอร์แลนด์ไปลงทุนในต่างประเทศ โดย ดร. กันตธีร์ฯ ได้หารือกับนายแพท ซิงเกิลตัน (Mr. Pat Singleton) และได้กล่าวเชิญชวนนักลงทุนชาวไอริช โดยเฉพาะนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไปลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยนักลงทุนจะสามารถใช้ไทยเป็นประตูไปสู่ภูมิภาคเอเชียได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผลจากความตกลงการค้าเสรีที่ไทยได้ทำความตกลงไว้กับประเทศต่างๆ จะเอื้อให้บริษัทของไอร์แลนด์สามารถแสวงประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุนจากไทยเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
การเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี (NOVA -University College of Dublin)
ดร. กันตธีร์ฯ ได้เข้าเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารของศูนย์นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี (NOVA UCD-The Innovation and Technology Transfer Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับฝึกอบรมแก่ผู้ประกอบการบริษัทต่างๆ และพนักงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาระบบธุรกิจ ซึ่ง ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่า ศูนย์พร้อมที่จะให้บริษัทต่างชาติเข้าใช้ประโยชน์ได้
หลังจากการหารือ ดร. ไมเคิล วู้ด (Mr. Michael Woods) ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของรัฐสภาไอร์แลนด์ (Chairman of Foreign Affairs Committee of the Parliament) ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.กันตธีร์ฯ และคณะผู้แทนไทยในโอกาสเยือนไอร์แลนด์ครั้งนี้ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-