กรุงเทพ--18 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2549 คณะผู้แทนภาคธุรกิจของเยอรมันนำโดย Dr. Christop Brummer เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยนักธุรกิจเยอรมันที่เข้าร่วมประกอบด้วย Professor Dr. Klaus Wucherer กรรมการบริหารบริษัท Siemens AG และรองประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจร่วมไทย — เยอรมัน (Thai — German Joint Economic Committee — JEC) นาย Lothar Hermann ประธานบริษัท Siemens (ประเทศไทย) และนาย Karl-Heinz Heckhausen ประธานหอการค้าเยอรมัน — ไทย สรุปสาระของการหารือดังนี้
1. ออท. Brummer และนักธุรกิจเยอรมันแสดงความเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และภายหลังจากที่ได้เห็นประชาชนชาวไทยดำเนินวิถีชีวิตอย่างปกติโดยมิได้มีการแทรกแซงใดๆ จากทางการไทยแล้ว คณะนักธุรกิจเยอรมันได้แสดงความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจโดยรวมของไทยและรับรองว่า การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด นอกจากนี้ ออท. Brummer ยังได้แสดงความเห็นว่า ถึงแม้รัฐบาลเยอรมันจะมีข้อสงวนเกี่ยวกับการเปลี่ยนทางการเมืองของไทยในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันว่าการทำธุรกิจระหว่างสองประเทศยังคงดำเนินต่อไป
2. Dr. Wucherer รับที่จะกลับไปอธิบายสถานการณ์ในประเทศไทยให้ภาคธุรกิจของเยอรมันได้รับทราบข้อเท็จจริงและย้ำว่า ธุรกิจระหว่างสองประเทศยังคงดำเนินต่อไปอย่างปกติ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิตย์ฯ ได้ย้ำเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่รักษากำหนดเวลาของการปฏิรูปการเมืองและจะไม่อยู่ในอำนาจเกินเวลาที่จำเป็น
3. ออท. Brummer ยังได้แจ้งต่อรัฐมนตรีต่างประเทศว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 เยอรมันจะเข้ารับตำแหน่งประธานหมุนเวียนของสหภาพยุโรปเป็นเวลา 6 เดือน และเข้ารับตำแหน่งประธานกลุ่ม G-8 เป็นเวลา 1 ปี ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่จะได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางธุรกิจและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไทยขึ้นใหม่ รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะได้รื้อฟื้นคณะกรรมการเศรษฐกิจร่วมไทย — เยอรมัน (JEC) ที่ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2003 โดยมีรองนายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วม เพื่อเป็นกลไกส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งนายนิตย์ฯ ได้ขอบคุณในความตั้งใจของฝ่ายเยอรมันและแสดงความความพร้อมของไทยที่จะแสวงหาวิถีทางที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายเยอรมันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจต่อไป
4. นาย Karl-Heinz Heckhausen ได้แจ้งให้นายนิตย์ฯ ทราบว่า หอการค้าเยอรมัน — ไทย จะจัดการประชุมใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 โดยจะมีผู้แทนภาคธุรกิจของเยอรมันที่ทำธุรกิจกับประเทศไทยประมาณ 300-400 ราย เข้าร่วมการประชุม ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลไทยจะใช้กิจกรรมนี้สะท้อนเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย ทั้งนี้ หอการค้าเยอรมัน — ไทย จะได้เรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นแขกพิเศษเข้าร่วมการประชุมต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2549 คณะผู้แทนภาคธุรกิจของเยอรมันนำโดย Dr. Christop Brummer เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยนักธุรกิจเยอรมันที่เข้าร่วมประกอบด้วย Professor Dr. Klaus Wucherer กรรมการบริหารบริษัท Siemens AG และรองประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจร่วมไทย — เยอรมัน (Thai — German Joint Economic Committee — JEC) นาย Lothar Hermann ประธานบริษัท Siemens (ประเทศไทย) และนาย Karl-Heinz Heckhausen ประธานหอการค้าเยอรมัน — ไทย สรุปสาระของการหารือดังนี้
1. ออท. Brummer และนักธุรกิจเยอรมันแสดงความเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และภายหลังจากที่ได้เห็นประชาชนชาวไทยดำเนินวิถีชีวิตอย่างปกติโดยมิได้มีการแทรกแซงใดๆ จากทางการไทยแล้ว คณะนักธุรกิจเยอรมันได้แสดงความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจโดยรวมของไทยและรับรองว่า การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด นอกจากนี้ ออท. Brummer ยังได้แสดงความเห็นว่า ถึงแม้รัฐบาลเยอรมันจะมีข้อสงวนเกี่ยวกับการเปลี่ยนทางการเมืองของไทยในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันว่าการทำธุรกิจระหว่างสองประเทศยังคงดำเนินต่อไป
2. Dr. Wucherer รับที่จะกลับไปอธิบายสถานการณ์ในประเทศไทยให้ภาคธุรกิจของเยอรมันได้รับทราบข้อเท็จจริงและย้ำว่า ธุรกิจระหว่างสองประเทศยังคงดำเนินต่อไปอย่างปกติ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิตย์ฯ ได้ย้ำเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่รักษากำหนดเวลาของการปฏิรูปการเมืองและจะไม่อยู่ในอำนาจเกินเวลาที่จำเป็น
3. ออท. Brummer ยังได้แจ้งต่อรัฐมนตรีต่างประเทศว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 เยอรมันจะเข้ารับตำแหน่งประธานหมุนเวียนของสหภาพยุโรปเป็นเวลา 6 เดือน และเข้ารับตำแหน่งประธานกลุ่ม G-8 เป็นเวลา 1 ปี ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่จะได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางธุรกิจและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไทยขึ้นใหม่ รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะได้รื้อฟื้นคณะกรรมการเศรษฐกิจร่วมไทย — เยอรมัน (JEC) ที่ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2003 โดยมีรองนายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วม เพื่อเป็นกลไกส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งนายนิตย์ฯ ได้ขอบคุณในความตั้งใจของฝ่ายเยอรมันและแสดงความความพร้อมของไทยที่จะแสวงหาวิถีทางที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายเยอรมันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจต่อไป
4. นาย Karl-Heinz Heckhausen ได้แจ้งให้นายนิตย์ฯ ทราบว่า หอการค้าเยอรมัน — ไทย จะจัดการประชุมใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 โดยจะมีผู้แทนภาคธุรกิจของเยอรมันที่ทำธุรกิจกับประเทศไทยประมาณ 300-400 ราย เข้าร่วมการประชุม ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลไทยจะใช้กิจกรรมนี้สะท้อนเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย ทั้งนี้ หอการค้าเยอรมัน — ไทย จะได้เรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นแขกพิเศษเข้าร่วมการประชุมต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-