สศอ.จับมือสถาบันสิ่งทอเร่งสร้างฐานข้อมูลเชิงลึกอุตฯ สิ่งทอ หวังเป็นคลังสมองหลักช่วยวางนโยบายพัฒนาตรงจุดยิ่งขึ้น และช่วยเสริมความแข็งแกร่งของการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ชิงแต้มต่อเหนือคู่แข่งอย่างมีเชิง
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศอ.ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเร่งจัดทำ “โครงการศูนย์สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอ (Intelligence Unit)” โดยจะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลในเชิงลึกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยทั้งระบบ เพื่อให้มีระบบสารสนเทศสิ่งทอที่เป็นประโยชน์ต่อการค้าการลงทุน รวมถึงเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ อันจะเป็นเสมือนคู่มือเชิงกลยุทธ์อีกอย่างหนึ่งให้กับผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมพร้อมรับทุกความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ โดยหน่วยงานราชการที่ดูแลภาพรวมของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สามารถนำข้อมูลเชิงลึกที่จัดทำขึ้นมาประกอบการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน เพื่อวางนโยบายการพัฒนาทั้งระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาวได้อย่างเหมาะสม และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันแก่ผู้ประกอบการได้ในทุกเวทีการค้า เนื่องจากอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างระบบฐานข้อมูลเชิงลึกมารองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
“อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการเชื่อมโยงอย่างครบวงจรตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยมีการจ้างงานทั้งระบบกว่า 1 ล้านคน จากผู้ประกอบการกว่า 4 พันโรงงาน และสามารถส่งออกปีหนึ่งๆ ประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งตลาดส่งออกสิ่งทอที่สำคัญคือ กลุ่มประเทศอาเซียน และจีน ส่วนตลาดที่สำคัญของเครื่องนุ่งห่ม คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และตะวันออกกลาง ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีมาตรการกีดกันทางการค้าหลายอย่างที่ส่งผลให้ขีดความสามารถการแข่งขันลดลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งจัดทำระบบฐานข้อมูลเชิงลึกให้แข็งแกร่ง เพื่อเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ และนำมาสู่การจัดทำนโยบายการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพต่อไป”
นอกจากนี้ ดร.อรรชกา ยังได้กล่าวอีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้โลกของการแข่งขันทางด้านธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอุตสาหกรรมจะต่อสู้กันที่ฐานข้อมูล และแข่งขันกันในเชิงความรู้อย่างเข้มข้น ซึ่งหากประเทศใดไม่มีการปรับตัวด้านฐานข้อมูล หรือมีข้อมูลที่ล้าสมัยจะเป็นจุดอ่อน และเสียเปรียบคู่แข่งในที่สุด แต่ในทางกลับกันหากประเทศใดเร่งสร้างฐานความรู้ โดยมีข้อมูลเชิงลึกและเผยแพร่การรับรู้ได้อย่างทั่วถึงก็สามารถจะรู้ทิศทางในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเตรียมตัวเพื่อวางแผนทางธุรกิจเชิงรุก เพื่อหนีคู่แข่งอย่างมีชั้นเชิงและจะมีความได้เปรียบสำหรับการแข่งขันทั้งในตลาดระดับภูมิภาคและเวทีโลก สศอ. จึงเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างฐานความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในครั้งนี้ และจะได้ขยายให้ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมโดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะสร้างความเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลอุตสาหกรรม เพื่อประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบาย รวมทั้งแผนงานทางธุรกิจให้สอดคล้องต่อความเปลี่ยนแปลงที่มีขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศอ.ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเร่งจัดทำ “โครงการศูนย์สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอ (Intelligence Unit)” โดยจะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลในเชิงลึกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยทั้งระบบ เพื่อให้มีระบบสารสนเทศสิ่งทอที่เป็นประโยชน์ต่อการค้าการลงทุน รวมถึงเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ อันจะเป็นเสมือนคู่มือเชิงกลยุทธ์อีกอย่างหนึ่งให้กับผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมพร้อมรับทุกความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ โดยหน่วยงานราชการที่ดูแลภาพรวมของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สามารถนำข้อมูลเชิงลึกที่จัดทำขึ้นมาประกอบการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน เพื่อวางนโยบายการพัฒนาทั้งระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาวได้อย่างเหมาะสม และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันแก่ผู้ประกอบการได้ในทุกเวทีการค้า เนื่องจากอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างระบบฐานข้อมูลเชิงลึกมารองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
“อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการเชื่อมโยงอย่างครบวงจรตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยมีการจ้างงานทั้งระบบกว่า 1 ล้านคน จากผู้ประกอบการกว่า 4 พันโรงงาน และสามารถส่งออกปีหนึ่งๆ ประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งตลาดส่งออกสิ่งทอที่สำคัญคือ กลุ่มประเทศอาเซียน และจีน ส่วนตลาดที่สำคัญของเครื่องนุ่งห่ม คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และตะวันออกกลาง ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีมาตรการกีดกันทางการค้าหลายอย่างที่ส่งผลให้ขีดความสามารถการแข่งขันลดลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งจัดทำระบบฐานข้อมูลเชิงลึกให้แข็งแกร่ง เพื่อเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ และนำมาสู่การจัดทำนโยบายการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพต่อไป”
นอกจากนี้ ดร.อรรชกา ยังได้กล่าวอีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้โลกของการแข่งขันทางด้านธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอุตสาหกรรมจะต่อสู้กันที่ฐานข้อมูล และแข่งขันกันในเชิงความรู้อย่างเข้มข้น ซึ่งหากประเทศใดไม่มีการปรับตัวด้านฐานข้อมูล หรือมีข้อมูลที่ล้าสมัยจะเป็นจุดอ่อน และเสียเปรียบคู่แข่งในที่สุด แต่ในทางกลับกันหากประเทศใดเร่งสร้างฐานความรู้ โดยมีข้อมูลเชิงลึกและเผยแพร่การรับรู้ได้อย่างทั่วถึงก็สามารถจะรู้ทิศทางในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเตรียมตัวเพื่อวางแผนทางธุรกิจเชิงรุก เพื่อหนีคู่แข่งอย่างมีชั้นเชิงและจะมีความได้เปรียบสำหรับการแข่งขันทั้งในตลาดระดับภูมิภาคและเวทีโลก สศอ. จึงเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างฐานความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในครั้งนี้ และจะได้ขยายให้ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมโดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะสร้างความเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลอุตสาหกรรม เพื่อประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบาย รวมทั้งแผนงานทางธุรกิจให้สอดคล้องต่อความเปลี่ยนแปลงที่มีขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-