กรุงเทพ--20 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิก ITU Executive Council วาระ ค.ศ. 2006-2010 ใน “ภูมิภาค E” (เอเชียและออสเตรเลเชีย) ในระหว่างการประชุมผู้มีอำนาจเต็มของ ITU ณ เมืองอัลตายา ประเทศตุรกี ด้วยคะแนน 125 เสียง เป็นลำดับที่ 4 จากที่ว่างทั้งหมด 12 ที่นั่ง และเป็นลำดับที่ 1 จากประเทศสมาชิกอาเซียนที่ลงสมัครทั้งหมด การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นทุก 4 ปี เพื่อหารือเรื่องกรอบความร่วมมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการโทรคมนาคม และเลือกตั้งประเทศและบุคคลเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ใน ITU โดยไทยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิก ITU Executive Council วาระ ค.ศ. 2006-2010 เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1973 โดยสามารถจำแนกประเทศที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิก ITU Council ใน “ภูมิภาค E” ดังนี้ (1) ญี่ปุ่น 140 เสียง (2) เกาหลีใต้ 133 เสียง (3) จีน 132 เสียง (4) ไทย 125 เสียง (5) มาเลเซีย 122 เสียง (6) สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 119 เสียง (7)อินโดนีเซีย 118 เสียง (8) ปากีสถาน 117 เสียง (9) อินเดีย 113 เสียง (10) ฟิลิปปินส์ 113 เสียง (11) ซาอุดิอาระเบีย 110 เสียง และ (12) ออสเตรเลีย 106 เสียง
ไทยเป็นรัฐภาคีของ ITU ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1885 และมีบทบาทที่แข็งขันใน ITU อาทิ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธาน Executive Council ระหว่างปี ค.ศ. 1994 ถึง 1996 และเข้าร่วมในการประชุม World Summit on the Information Society (WSIS) ครั้งที่ 1 ที่นครเจนีวาเมื่อปี ค.ศ. 2003 และครั้งที่ 2 ที่กรุงตูนิส เมื่อปี ค.ศ. 2005 และได้ให้ความสนับสนุนด้านการเงินแก่กองทุน WSIS เป็นจำนวน 30,000 สวิสฟรังก์ ในปี ค.ศ. 2005
ไทยประสงค์จะใช้ประโยชน์จากการเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาค ITU ในประเทศไทย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1993 และเป็นสำนักงานแห่งเดียวของ ITU นอกเหนือจากที่นครเจนีวา ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างสังคมข้อมูลข่าวสารระดับภูมิภาค และสร้างเสริมศักยภาพด้านโทรคมนาคมในหมู่ประเทศสมาชิก ITU โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ITU Asia-Pacific Centre of Excellence on Business Management Forum ระหว่างปี ค.ศ. 2007-2009
ผลสำเร็จของประเทศไทยในครั้งนี้ มาจากการรณรงค์ร่วมกันระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐสมาชิก ITU จำนวน 191 ประเทศอย่างต่อเนื่อง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิก ITU Executive Council วาระ ค.ศ. 2006-2010 ใน “ภูมิภาค E” (เอเชียและออสเตรเลเชีย) ในระหว่างการประชุมผู้มีอำนาจเต็มของ ITU ณ เมืองอัลตายา ประเทศตุรกี ด้วยคะแนน 125 เสียง เป็นลำดับที่ 4 จากที่ว่างทั้งหมด 12 ที่นั่ง และเป็นลำดับที่ 1 จากประเทศสมาชิกอาเซียนที่ลงสมัครทั้งหมด การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นทุก 4 ปี เพื่อหารือเรื่องกรอบความร่วมมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการโทรคมนาคม และเลือกตั้งประเทศและบุคคลเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ใน ITU โดยไทยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิก ITU Executive Council วาระ ค.ศ. 2006-2010 เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1973 โดยสามารถจำแนกประเทศที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิก ITU Council ใน “ภูมิภาค E” ดังนี้ (1) ญี่ปุ่น 140 เสียง (2) เกาหลีใต้ 133 เสียง (3) จีน 132 เสียง (4) ไทย 125 เสียง (5) มาเลเซีย 122 เสียง (6) สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 119 เสียง (7)อินโดนีเซีย 118 เสียง (8) ปากีสถาน 117 เสียง (9) อินเดีย 113 เสียง (10) ฟิลิปปินส์ 113 เสียง (11) ซาอุดิอาระเบีย 110 เสียง และ (12) ออสเตรเลีย 106 เสียง
ไทยเป็นรัฐภาคีของ ITU ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1885 และมีบทบาทที่แข็งขันใน ITU อาทิ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธาน Executive Council ระหว่างปี ค.ศ. 1994 ถึง 1996 และเข้าร่วมในการประชุม World Summit on the Information Society (WSIS) ครั้งที่ 1 ที่นครเจนีวาเมื่อปี ค.ศ. 2003 และครั้งที่ 2 ที่กรุงตูนิส เมื่อปี ค.ศ. 2005 และได้ให้ความสนับสนุนด้านการเงินแก่กองทุน WSIS เป็นจำนวน 30,000 สวิสฟรังก์ ในปี ค.ศ. 2005
ไทยประสงค์จะใช้ประโยชน์จากการเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาค ITU ในประเทศไทย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1993 และเป็นสำนักงานแห่งเดียวของ ITU นอกเหนือจากที่นครเจนีวา ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างสังคมข้อมูลข่าวสารระดับภูมิภาค และสร้างเสริมศักยภาพด้านโทรคมนาคมในหมู่ประเทศสมาชิก ITU โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ITU Asia-Pacific Centre of Excellence on Business Management Forum ระหว่างปี ค.ศ. 2007-2009
ผลสำเร็จของประเทศไทยในครั้งนี้ มาจากการรณรงค์ร่วมกันระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐสมาชิก ITU จำนวน 191 ประเทศอย่างต่อเนื่อง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-