กรุงเทพ--24 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2549 ที่สนามกีฬาโอลิมปิค กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้มีการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีมรวมพระราชวงศ์ นักแสดง นักร้อง และนักฟุตบอลของประเทศกัมพูชากับทีมนักแสดงไทย ซึ่งมีสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ประธานรัฐสภาและประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งชาติกัมพูชา เป็นประธานฝ่ายกัมพูชา และร้อยตรีประพาส ลิมปะพันธุ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายไทย
ผลการแข่งขันนั้น ปรากฎว่าทีมกัมพูชาชนะทีมไทย 4-0 โดยผู้ชมชาวกัมพูชามีความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และได้ส่งเสียงเชียร์ทีมจากประเทศไทยไม่น้อยกว่าทีมเจ้าภาพ โดยหลังการแข่งขันผู้ชมกัมพูชาได้เข้ามาขอถ่ายรูปและลายเซ็นจากนักแสดงไทยเป็นจำนวนมาก
การแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 8,000 คน โดยมีพระราชวงศ์กัมพูชาเข้าร่วมชมด้วย อาทิ สมเด็จพระราชบุตรี พระเรียม นโรดม บุปผาเทวี สมเด็จพระมหิศร นโรดม จักรพงศ์ สมเด็จนโรดม สิริวุฒิ ผู้ชมฝ่ายไทยประกอบด้วยนายปิยวัชร นิยมฤกษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต นักธุรกิจและชาวไทยในกัมพูชา ส่วนทางฝ่ายกัมพูชาประกอบด้วยบรรดานักแสดง นักร้อง ผู้อยู่ในวงการบันเทิง บุคคลทั่วไป และนักเรียน
นักศึกษา โดยก่อนการแข่งขัน สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ และร้อยตรีประพาส ลิมประพันธุ์ ได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับนักฟุตบอลของทั้งสองทีม มีการแลกเปลี่ยนของที่ระลึกกันระหว่างทีมนักฟุตบอล และนักแสดงไทยได้เตะลูกบอลจำนวนประมาณ 20 ลูก แจกไปยังผู้ชมบนอัฒจันทร์ด้วย
การแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นอกจาก ชาวกัมพูชาได้เข้าร่วมชมมากกว่า 8,000 คนแล้ว สื่อมวลชนกัมพูชาจากหลายแขนง ทั้งสื่อโทรทัศน์ (อาทิ ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง CTN และช่อง Bayon) สื่อวิทยุ และสื่อหนังสือพิมพ์ (อาทิ The Cambodia Daily เกาะสันติภาพ และรัสมีกัมพูชา) ได้ออกข่าวเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลนี้อย่างกว้างขวาง และที่สำคัญที่สุด การที่นักแสดงไทยเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวกัมพูชาก็ได้สร้างกระแสความสนใจจากประชาชน และความรู้สึกอันดีระหว่างประชาชนสองประเทศ ความสำเร็จดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของกิจกรรมด้านวัฒนธรรมที่สามารถมีส่วนช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ชาวไทยกับประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โครงการนี้ยังมีส่วนช่วยเผยแพร่อุตสาหกรรมบันเทิงของไทยในกัมพูชา โดยอาศัยความร่วมมือด้านกีฬาเป็นสื่ออีกทางหนึ่งด้วย
ในช่วงค่ำหลังการแข่งขัน สถานเอกอัครราชทูตได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ทีมฟุตบอลไทยและกัมพูชาที่สถานเอกอัครราชทูต โดยได้เชิญผู้เล่นทีมฟุตบอลไทยและกัมพูชาเข้าร่วม รวมทั้งพระราชวงศ์ (อาทิ สมเด็จพระมหิศร นโรดม จักรพงศ์ สมเด็จสีสุวัตถ์ ชีวันมณีรักษ์ เจ้าสีสุวัตถ์ ชีวันณฤทธิ์ เจ้านโรดม อำมฤทธิวงศ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประธานสมาคมวัฒนธรรมกัมพูชา-ไทย เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาและการแข่งขันในครั้งนี้ นักแสดง/นักร้อง ผู้สร้างภาพยนตร์ และสื่อมวลชนของกัมพูชาทั้งหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานและภาคเอกชนไทยในกัมพูชาเข้าร่วม ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรภาพและความสมานฉันท์
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2549 ที่สนามกีฬาโอลิมปิค กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้มีการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีมรวมพระราชวงศ์ นักแสดง นักร้อง และนักฟุตบอลของประเทศกัมพูชากับทีมนักแสดงไทย ซึ่งมีสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ประธานรัฐสภาและประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งชาติกัมพูชา เป็นประธานฝ่ายกัมพูชา และร้อยตรีประพาส ลิมปะพันธุ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายไทย
ผลการแข่งขันนั้น ปรากฎว่าทีมกัมพูชาชนะทีมไทย 4-0 โดยผู้ชมชาวกัมพูชามีความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และได้ส่งเสียงเชียร์ทีมจากประเทศไทยไม่น้อยกว่าทีมเจ้าภาพ โดยหลังการแข่งขันผู้ชมกัมพูชาได้เข้ามาขอถ่ายรูปและลายเซ็นจากนักแสดงไทยเป็นจำนวนมาก
การแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 8,000 คน โดยมีพระราชวงศ์กัมพูชาเข้าร่วมชมด้วย อาทิ สมเด็จพระราชบุตรี พระเรียม นโรดม บุปผาเทวี สมเด็จพระมหิศร นโรดม จักรพงศ์ สมเด็จนโรดม สิริวุฒิ ผู้ชมฝ่ายไทยประกอบด้วยนายปิยวัชร นิยมฤกษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต นักธุรกิจและชาวไทยในกัมพูชา ส่วนทางฝ่ายกัมพูชาประกอบด้วยบรรดานักแสดง นักร้อง ผู้อยู่ในวงการบันเทิง บุคคลทั่วไป และนักเรียน
นักศึกษา โดยก่อนการแข่งขัน สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ และร้อยตรีประพาส ลิมประพันธุ์ ได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับนักฟุตบอลของทั้งสองทีม มีการแลกเปลี่ยนของที่ระลึกกันระหว่างทีมนักฟุตบอล และนักแสดงไทยได้เตะลูกบอลจำนวนประมาณ 20 ลูก แจกไปยังผู้ชมบนอัฒจันทร์ด้วย
การแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นอกจาก ชาวกัมพูชาได้เข้าร่วมชมมากกว่า 8,000 คนแล้ว สื่อมวลชนกัมพูชาจากหลายแขนง ทั้งสื่อโทรทัศน์ (อาทิ ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง CTN และช่อง Bayon) สื่อวิทยุ และสื่อหนังสือพิมพ์ (อาทิ The Cambodia Daily เกาะสันติภาพ และรัสมีกัมพูชา) ได้ออกข่าวเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลนี้อย่างกว้างขวาง และที่สำคัญที่สุด การที่นักแสดงไทยเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวกัมพูชาก็ได้สร้างกระแสความสนใจจากประชาชน และความรู้สึกอันดีระหว่างประชาชนสองประเทศ ความสำเร็จดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของกิจกรรมด้านวัฒนธรรมที่สามารถมีส่วนช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ชาวไทยกับประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โครงการนี้ยังมีส่วนช่วยเผยแพร่อุตสาหกรรมบันเทิงของไทยในกัมพูชา โดยอาศัยความร่วมมือด้านกีฬาเป็นสื่ออีกทางหนึ่งด้วย
ในช่วงค่ำหลังการแข่งขัน สถานเอกอัครราชทูตได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ทีมฟุตบอลไทยและกัมพูชาที่สถานเอกอัครราชทูต โดยได้เชิญผู้เล่นทีมฟุตบอลไทยและกัมพูชาเข้าร่วม รวมทั้งพระราชวงศ์ (อาทิ สมเด็จพระมหิศร นโรดม จักรพงศ์ สมเด็จสีสุวัตถ์ ชีวันมณีรักษ์ เจ้าสีสุวัตถ์ ชีวันณฤทธิ์ เจ้านโรดม อำมฤทธิวงศ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประธานสมาคมวัฒนธรรมกัมพูชา-ไทย เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาและการแข่งขันในครั้งนี้ นักแสดง/นักร้อง ผู้สร้างภาพยนตร์ และสื่อมวลชนของกัมพูชาทั้งหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานและภาคเอกชนไทยในกัมพูชาเข้าร่วม ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรภาพและความสมานฉันท์
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-