กรุงเทพ--20 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันที่ 5-10 กรกฎาคม 2549 นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะผู้แทนจากจากหน่วยงานต่างๆ เดินทางเยือนแอฟริกาใต้ เพื่อให้คำแนะนำและความช่วยเหลือด้านกฎหมายและการเตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจแก่เหยื่อการค้ามนุษย์ และเพื่อหารือกับฝ่ายต่างๆ เพื่อปราบปรามเครือข่ายการค้ามนุษย์
ในการเยือนครั้งนี้ ฝ่ายไทยและฝ่ายแอฟริกาใต้ ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศได้ร่วมพิจารณาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมหลายประการ ทั้งในเรื่องการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือทางกฎหมายระหว่างกันในคดีอาญา และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้แม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานและประชาสัมพันธ์ข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในแอฟริกาใต้มาเป็นระยะๆ แล้ว แต่พบว่าสถานการณ์การค้ามนุษย์ในแอฟริกาใต้ ยังมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2549 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ได้ช่วยเหลือหญิงไทย 4 คน จากสถานบริการในเมืองเดอร์บัน และอีก 2 คนจากสถานบริการในนครโจฮันเนสเบิร์ก
หญิงไทยที่ทำงานในสถานบริการในเมืองเดอร์บันเปิดเผยว่า หญิงไทยทุกคนทราบดีก่อนจะเดินทางไปแอฟริกาใต้ว่า ต้องไปทำงานประเภทใด แต่เมื่อไปทำงานจริงแล้ว สภาพการทำงานต่างกับที่นายหน้าที่ประเทศไทยสัญญาไว้ โดยหญิงบริการจะถูกกักขังไว้ในสถานบริการ และต้องทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุดตั้งแต่ 19.00 — 02.00 น. วันเสาร์ทำงานถึง 05.00 น. โดยต้องรับแขก 3-10 คนต่อวัน และในการรับแขก 1 ครั้ง สถานบริการจะหักเงินเกือบครึ่งหนึ่งไว้เป็นค่าสถานที่ และริบเงินจำนวนที่เหลือไว้ใช้หักหนี้ค่าเดินทาง จนกว่าจะหนี้หมด ซึ่งหญิงในสถานบริการเหล่านี้ต้องทำงาน โดยไม่ได้รับเงินถึง 5-6 เดือน สำหรับการโอนเงินกลับประเทศไทย จะต้องโอนผ่านสถานบริการเท่านั้น โดยจะต้องเสียเงินให้กับสถานบริการอีกร้อยละ 20 ของจำนวนเงินโอน นอกจากนี้ เมื่อวีซ่าของหญิงบริการหมดอายุ สถานบริการจะไม่ต่ออายุการพำนักให้ ทำให้หญิงไทยทั้งหมดต้องอยู่อย่างผิดกฎหมาย และยังพบว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดภายในสถานบริการเหล่านี้ด้วย
กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเตือนหญิงไทยที่ได้รับการติดต่อให้ไปทำงานในแอฟริกาใต้ ทั้งกลุ่มที่เข้าใจว่าจะมาทำงานอย่างสุจริต ประเภทร้านอาหารหรือสปา แต่นายหน้าไม่มีสัญญาจ้างงานให้ และกลุ่มที่ตั้งใจจะไปขายบริการ ให้พิจารณาให้รอบคอบก่อนการเดินทาง เนื่องจากขณะนี้ กระบวนการค้ามนุษย์ได้ล่อลวงหญิงไทยไปขายบริการที่แอฟริกาใต้จำนวนมาก โดยหากหลงเชื่อและไปทำงานดังกล่าวแล้ว นอกจากต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และไม่ได้เงินมากอย่างที่เข้าใจแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเอดส์สายพันธุ์แอฟริกาอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
วันที่ 5-10 กรกฎาคม 2549 นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะผู้แทนจากจากหน่วยงานต่างๆ เดินทางเยือนแอฟริกาใต้ เพื่อให้คำแนะนำและความช่วยเหลือด้านกฎหมายและการเตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจแก่เหยื่อการค้ามนุษย์ และเพื่อหารือกับฝ่ายต่างๆ เพื่อปราบปรามเครือข่ายการค้ามนุษย์
ในการเยือนครั้งนี้ ฝ่ายไทยและฝ่ายแอฟริกาใต้ ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศได้ร่วมพิจารณาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมหลายประการ ทั้งในเรื่องการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือทางกฎหมายระหว่างกันในคดีอาญา และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้แม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานและประชาสัมพันธ์ข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในแอฟริกาใต้มาเป็นระยะๆ แล้ว แต่พบว่าสถานการณ์การค้ามนุษย์ในแอฟริกาใต้ ยังมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2549 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ได้ช่วยเหลือหญิงไทย 4 คน จากสถานบริการในเมืองเดอร์บัน และอีก 2 คนจากสถานบริการในนครโจฮันเนสเบิร์ก
หญิงไทยที่ทำงานในสถานบริการในเมืองเดอร์บันเปิดเผยว่า หญิงไทยทุกคนทราบดีก่อนจะเดินทางไปแอฟริกาใต้ว่า ต้องไปทำงานประเภทใด แต่เมื่อไปทำงานจริงแล้ว สภาพการทำงานต่างกับที่นายหน้าที่ประเทศไทยสัญญาไว้ โดยหญิงบริการจะถูกกักขังไว้ในสถานบริการ และต้องทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุดตั้งแต่ 19.00 — 02.00 น. วันเสาร์ทำงานถึง 05.00 น. โดยต้องรับแขก 3-10 คนต่อวัน และในการรับแขก 1 ครั้ง สถานบริการจะหักเงินเกือบครึ่งหนึ่งไว้เป็นค่าสถานที่ และริบเงินจำนวนที่เหลือไว้ใช้หักหนี้ค่าเดินทาง จนกว่าจะหนี้หมด ซึ่งหญิงในสถานบริการเหล่านี้ต้องทำงาน โดยไม่ได้รับเงินถึง 5-6 เดือน สำหรับการโอนเงินกลับประเทศไทย จะต้องโอนผ่านสถานบริการเท่านั้น โดยจะต้องเสียเงินให้กับสถานบริการอีกร้อยละ 20 ของจำนวนเงินโอน นอกจากนี้ เมื่อวีซ่าของหญิงบริการหมดอายุ สถานบริการจะไม่ต่ออายุการพำนักให้ ทำให้หญิงไทยทั้งหมดต้องอยู่อย่างผิดกฎหมาย และยังพบว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดภายในสถานบริการเหล่านี้ด้วย
กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเตือนหญิงไทยที่ได้รับการติดต่อให้ไปทำงานในแอฟริกาใต้ ทั้งกลุ่มที่เข้าใจว่าจะมาทำงานอย่างสุจริต ประเภทร้านอาหารหรือสปา แต่นายหน้าไม่มีสัญญาจ้างงานให้ และกลุ่มที่ตั้งใจจะไปขายบริการ ให้พิจารณาให้รอบคอบก่อนการเดินทาง เนื่องจากขณะนี้ กระบวนการค้ามนุษย์ได้ล่อลวงหญิงไทยไปขายบริการที่แอฟริกาใต้จำนวนมาก โดยหากหลงเชื่อและไปทำงานดังกล่าวแล้ว นอกจากต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และไม่ได้เงินมากอย่างที่เข้าใจแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเอดส์สายพันธุ์แอฟริกาอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-