นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกพิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยการลดและเลิกใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2532 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดและเลิกการใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนภายในสิ้นปี 2552 กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) จึงได้ออกประกาศ ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 120) พ.ศ. 2540 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2540 กำหนดให้ตู้เย็นสำเร็จรูปประเภทที่ใช้ในบ้านเรือนที่มีการใช้สาร ซี เอฟ ซี (CFCs) ในกระบวนการผลิต เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยของสาธารณชน และเป็นไปตามพิธีสารมอนทรีออลฯ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้พิธีสารมอนทรีออลฉบับนี้ ประเทศไทยได้รับเงินช่วยเหลือภายใต้พิธีสารมอนทรีออลฯ เพื่อช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในการเลิกใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน โดยมีเงื่อนไขว่า ประเทศไทยต้องออกกฎหมายห้ามใช้สาร ซี เอฟ ซี (CFCs) ในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว เพื่อปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนไปใช้สารหรือเทคโนโลยี ทดแทน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 101 โครงการ เป็นเงิน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถลดการใช้และการนำเข้าสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนในปี 2546 ได้ประมาณร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปี 2535 ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547 อนุมัติหลักการให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศห้ามนำเข้าตู้ทำน้ำเย็น ตู้แช่ และตู้แช่แข็ง ที่มีการใช้สาร ซี เอฟ ซี (CFCs) ในกระบวนการผลิตเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ เพื่อให้เป็นไปตามความตกลง ภายใต้พิธีสารมอนทรีออลฯ
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การห้ามนำตู้เย็น ตู้ทำน้ำเย็น ตู้แช่ หรือตู้แช่แข็ง ที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความเย็น หรือทำให้เย็นจนแข็ง ที่ใช้สาร ซี เอฟ ซี (Chlorofluorocarbons (CFCs)) เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2549 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2549 เป็นต้นไป ปี 2548 ไทยนำเข้าตู้เย็น ตู้แช่ และผลิตภัณฑ์ทำความเย็น มูลค่า 5,967.71 ล้านบาท
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้พิธีสารมอนทรีออลฉบับนี้ ประเทศไทยได้รับเงินช่วยเหลือภายใต้พิธีสารมอนทรีออลฯ เพื่อช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในการเลิกใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน โดยมีเงื่อนไขว่า ประเทศไทยต้องออกกฎหมายห้ามใช้สาร ซี เอฟ ซี (CFCs) ในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว เพื่อปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนไปใช้สารหรือเทคโนโลยี ทดแทน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 101 โครงการ เป็นเงิน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถลดการใช้และการนำเข้าสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนในปี 2546 ได้ประมาณร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปี 2535 ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547 อนุมัติหลักการให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศห้ามนำเข้าตู้ทำน้ำเย็น ตู้แช่ และตู้แช่แข็ง ที่มีการใช้สาร ซี เอฟ ซี (CFCs) ในกระบวนการผลิตเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ เพื่อให้เป็นไปตามความตกลง ภายใต้พิธีสารมอนทรีออลฯ
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การห้ามนำตู้เย็น ตู้ทำน้ำเย็น ตู้แช่ หรือตู้แช่แข็ง ที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความเย็น หรือทำให้เย็นจนแข็ง ที่ใช้สาร ซี เอฟ ซี (Chlorofluorocarbons (CFCs)) เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2549 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2549 เป็นต้นไป ปี 2548 ไทยนำเข้าตู้เย็น ตู้แช่ และผลิตภัณฑ์ทำความเย็น มูลค่า 5,967.71 ล้านบาท
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-