แท็ก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
พรรคประชาธิปัตย์
วิทยา แก้วภราดัย
วิฑูรย์ นามบุตร
กรณ์ จาติกวนิช
ภาคอีสาน
วันที่ 20-23 มกราคม 2549 พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ นายวิฑูรย์ นามบุตร นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค นายกรณ์ จาติกวนิช รองเลขาธิการพรรค น.ส.ณิรัฐกานต์ ศรีลาภ รองโฆษกพรรค ดร.ผุสดี ตามไท ผู้อำนายการพรรคฯ เป็นต้น ได้ลงพื้นที่พบปะกับสาขาพรรคในภาคอีสาน พร้อมทั้งได้ร่วมสัมมนาใหญ่สามัญประจำปี 2548 กับสาขาพรรค ในจังหวัด นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น และจังหวัดกาฬสินธุ์
พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านใน สภาผู้แทนราษฎรหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในระหว่างการลงพื้นที่พบปะกับสาขาพรรคใน จ.นครราชสีมา วานนี้ ว่า สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่วิกฤตอยู่ในขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่เกิดจากรัฐบาลเอง ทั้งปัญหาข้าวของแพง เศรษฐกิจชะลอตัว ประเทศชาติเริ่มขาดดุลการค้าเป็น ครั้งแรก ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ จนทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลง
“นอกจากนี้ รัฐบาลยังปิดกั้นการนำเสนอของสื่อมวลชนมากเกินไป ห้ามวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบ คิดว่าคนมีอำนาจอยู่ในตำแหน่งทำทุกอย่างถูกต้อง ใครเตือนไม่ได้ ขณะที่คนแวดล้อมผู้มีอำนาจพูดถึงแต่สิ่งที่ดี ในที่สุดจะหลุดลอยไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนหลงอำนาจได้ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายด้านอื่นๆ ตามมา ทั้งมีการทุจริตเกิดขึ้น สังคมเกิดความอึดอัด ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องไปร่วมฟังรายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ”
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่าว่าแต่คนไทยเลย คนต่างชาติก็ตกใจที่เห็นว่ารัฐบาลนี้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนล้นหลาม กลับมีประชาชนเป็นหมื่นไปฟังนายสนธิ และมีม็อบไปที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ขอยืนยันว่าพรรคไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตือนให้ทุกฝ่ายเล่นในระบบนั้น พรรคไม่เคยเล่นนอกระบบอยู่แล้ว และได้ประกาศตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคเลยว่าไม่ได้มีหน้าที่ล้มรัฐบาล ฝ่ายค้านมีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ เตือนรัฐบาลเท่านั้น แต่แปลกใจที่เป็นรัฐบาลจะเล่นในระบบได้หรือไม่ เช่น เรื่องการเจรจาเอฟทีเอระหว่างไทยกับสหรัฐ ต้องนำเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้าไม่นำเข้าจะเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลบริหารประเทศเพิ่มหนี้ให้ประชาชนกันถ้วนหน้า และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ค่าไฟฟ้าก็จะขึ้น เพื่อให้นักลงทุนสนใจมาซื้อหุ้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งผลประโยชน์จะตกแก่คนเฉพาะกลุ่ม แต่ประชาชนเดือดร้อน เนื่องจากราคา สินค้าจะขยับขึ้นตาม เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยสูง กระทบต่อประชาชนที่เป็นหนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 ม.ค. 2549--จบ--
พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านใน สภาผู้แทนราษฎรหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในระหว่างการลงพื้นที่พบปะกับสาขาพรรคใน จ.นครราชสีมา วานนี้ ว่า สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่วิกฤตอยู่ในขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่เกิดจากรัฐบาลเอง ทั้งปัญหาข้าวของแพง เศรษฐกิจชะลอตัว ประเทศชาติเริ่มขาดดุลการค้าเป็น ครั้งแรก ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ จนทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลง
“นอกจากนี้ รัฐบาลยังปิดกั้นการนำเสนอของสื่อมวลชนมากเกินไป ห้ามวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบ คิดว่าคนมีอำนาจอยู่ในตำแหน่งทำทุกอย่างถูกต้อง ใครเตือนไม่ได้ ขณะที่คนแวดล้อมผู้มีอำนาจพูดถึงแต่สิ่งที่ดี ในที่สุดจะหลุดลอยไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนหลงอำนาจได้ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายด้านอื่นๆ ตามมา ทั้งมีการทุจริตเกิดขึ้น สังคมเกิดความอึดอัด ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องไปร่วมฟังรายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ”
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่าว่าแต่คนไทยเลย คนต่างชาติก็ตกใจที่เห็นว่ารัฐบาลนี้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนล้นหลาม กลับมีประชาชนเป็นหมื่นไปฟังนายสนธิ และมีม็อบไปที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ขอยืนยันว่าพรรคไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตือนให้ทุกฝ่ายเล่นในระบบนั้น พรรคไม่เคยเล่นนอกระบบอยู่แล้ว และได้ประกาศตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคเลยว่าไม่ได้มีหน้าที่ล้มรัฐบาล ฝ่ายค้านมีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ เตือนรัฐบาลเท่านั้น แต่แปลกใจที่เป็นรัฐบาลจะเล่นในระบบได้หรือไม่ เช่น เรื่องการเจรจาเอฟทีเอระหว่างไทยกับสหรัฐ ต้องนำเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้าไม่นำเข้าจะเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลบริหารประเทศเพิ่มหนี้ให้ประชาชนกันถ้วนหน้า และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ค่าไฟฟ้าก็จะขึ้น เพื่อให้นักลงทุนสนใจมาซื้อหุ้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งผลประโยชน์จะตกแก่คนเฉพาะกลุ่ม แต่ประชาชนเดือดร้อน เนื่องจากราคา สินค้าจะขยับขึ้นตาม เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยสูง กระทบต่อประชาชนที่เป็นหนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 ม.ค. 2549--จบ--