เผยสถิติอุตฯไทยสุดเนี๊ยบในอาเซียน เดินสายให้ความช่วยเหลือ เพื่อนบ้าน หวังวางรากฐานระบบสถิติอุตฯอาเซียนแกร่ง จับมือญี่ปุ่น-มาเลย์ ลุยให้ความรู้เพื่อนบ้านลาว
ดร.อรรชกา บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สศอ. ได้ส่งบุคลากรเป็นตัวแทนของประเทศไทย ร่วมกับตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น และมาเลเซีย ภายใต้คณะทำงานด้านสถิติอุตสาหกรรมอาเซียน-ญี่ปุ่น (AEM-MITI Economic and Industrial Cooperation Committee : AMEICC) เข้าไปให้ความรู้และวางระบบฐานข้อมูลอุตสาหกรรมให้กับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยจัดสัมมนาใหญ่ที่โรงแรมลาวพลาซ่า นครหลวงเวียงจันทร์ ซึ่งเนื้อหาในการจัดประชุมครั้งนี้จะเป็นการหารือ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในด้านการจัดทำสถิติอุตสาหกรรม สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และการพาณิชย์ โดยที่ประชุมได้เปิดเวทีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้าร่วมซักถามถึงการใช้งานจากระบบสถิติอุตสาหกรรมอย่างเปิดกว้าง ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานระบบอุตสาหกรรมของประเทศให้ดำเนินสู่เป้าหมายอย่างเป็นระบบต่อไป
“ในแถบภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างมาก ในเรื่องของการจัดทำสถิติอุตสาหกรรมและการทำดัชนีอุตสาหกรรมที่มีความแม่นยำสูง และสามารถส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการได้รับรู้ถึงทิศทางของภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นฐานข้อมูลร่วมในการประกอบการตัดสินใจในเชิงธุรกิจได้อย่างแม่นยำ ซึ่งที่ผ่านมามีหลายประเทศให้ความสนใจเข้ามาศึกษาดูงานด้านการจัดทำระบบสถิติอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง นับเป็นความภูมิใจของ สศอ. ที่การจัดทำสถิติอุตสาหกรรมของ สศอ. เป็นที่ยอมรับโดยกว้างขวางและสามารถเป็นแม่แบบให้กับอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้” ดร.อรรชกา กล่าว
ดร.อรรชกา เปิดเผยอีกว่า ในที่ประชุมได้รับความสนใจจากทั้งหน่วยงานราชการและภาคเอกชนของลาวเป็นอย่างมากเข้าร่วมรับฟังคำชี้แจง โดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทั้งของไทย ญี่ปุ่นและมาเลเซีย เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมถือเป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาประเทศให้รุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยประเทศลาววางแนวทางพัฒนาประเทศด้วยอุตสาหกรรมเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันได้เกิดอุตสาหกรรมที่หลากหลายสาขา ทั้งเป็นการลงทุนในประเทศและการลงทุนข้ามชาติหลายโครงการ ดังนั้นระบบสถิติอุตสาหกรรมจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว การริเริ่มที่จะวางระบบสถิติอุตสาหกรรมที่ดีไม่เพียงแต่ได้ประโยชน์ต่อประเทศลาวเท่านั้น แต่ในอนาคตจะทำให้ระบบสถิติของอาเซียนจะมีความเชื่อมโยงและสามารถดึงข้อมูลมาใช้ร่วมกันได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศสมาชิกทั่วทั้งภูมิภาคต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ดร.อรรชกา บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สศอ. ได้ส่งบุคลากรเป็นตัวแทนของประเทศไทย ร่วมกับตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น และมาเลเซีย ภายใต้คณะทำงานด้านสถิติอุตสาหกรรมอาเซียน-ญี่ปุ่น (AEM-MITI Economic and Industrial Cooperation Committee : AMEICC) เข้าไปให้ความรู้และวางระบบฐานข้อมูลอุตสาหกรรมให้กับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยจัดสัมมนาใหญ่ที่โรงแรมลาวพลาซ่า นครหลวงเวียงจันทร์ ซึ่งเนื้อหาในการจัดประชุมครั้งนี้จะเป็นการหารือ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในด้านการจัดทำสถิติอุตสาหกรรม สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และการพาณิชย์ โดยที่ประชุมได้เปิดเวทีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้าร่วมซักถามถึงการใช้งานจากระบบสถิติอุตสาหกรรมอย่างเปิดกว้าง ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานระบบอุตสาหกรรมของประเทศให้ดำเนินสู่เป้าหมายอย่างเป็นระบบต่อไป
“ในแถบภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างมาก ในเรื่องของการจัดทำสถิติอุตสาหกรรมและการทำดัชนีอุตสาหกรรมที่มีความแม่นยำสูง และสามารถส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการได้รับรู้ถึงทิศทางของภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นฐานข้อมูลร่วมในการประกอบการตัดสินใจในเชิงธุรกิจได้อย่างแม่นยำ ซึ่งที่ผ่านมามีหลายประเทศให้ความสนใจเข้ามาศึกษาดูงานด้านการจัดทำระบบสถิติอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง นับเป็นความภูมิใจของ สศอ. ที่การจัดทำสถิติอุตสาหกรรมของ สศอ. เป็นที่ยอมรับโดยกว้างขวางและสามารถเป็นแม่แบบให้กับอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้” ดร.อรรชกา กล่าว
ดร.อรรชกา เปิดเผยอีกว่า ในที่ประชุมได้รับความสนใจจากทั้งหน่วยงานราชการและภาคเอกชนของลาวเป็นอย่างมากเข้าร่วมรับฟังคำชี้แจง โดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทั้งของไทย ญี่ปุ่นและมาเลเซีย เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมถือเป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาประเทศให้รุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยประเทศลาววางแนวทางพัฒนาประเทศด้วยอุตสาหกรรมเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันได้เกิดอุตสาหกรรมที่หลากหลายสาขา ทั้งเป็นการลงทุนในประเทศและการลงทุนข้ามชาติหลายโครงการ ดังนั้นระบบสถิติอุตสาหกรรมจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว การริเริ่มที่จะวางระบบสถิติอุตสาหกรรมที่ดีไม่เพียงแต่ได้ประโยชน์ต่อประเทศลาวเท่านั้น แต่ในอนาคตจะทำให้ระบบสถิติของอาเซียนจะมีความเชื่อมโยงและสามารถดึงข้อมูลมาใช้ร่วมกันได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศสมาชิกทั่วทั้งภูมิภาคต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-