พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 7/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 16-22 ม.ค.49
ในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในตอนเช้า สำหรับภาคใต้มีฝนน้อยและคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ในช่วงวันที่ 21-22 ม.ค. จะมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมี ลมแรงและอุณหภูมิลดลง
ข้อควรระวัง
ระยะนี้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นหลายพื้นที่ในตอนเช้า ดังนั้นจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
ในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. ในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศา เซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-6 องศาเซลเซียส วันที่ 22 ม.ค. อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. ในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศา เซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-6 องศาเซลเซียส วันที่ 22 ม.ค. อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืนดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหาร เนื่องจากอุณหภูมิต่ำสัตว์น้ำกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย สัตว์น้ำจะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ในตอนเช้ามีหมอกหนาหลายพื้นที่และอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงวันที่ 21-22 ม.ค. ลมแรง และอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและมีฝนบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ในตอนเช้ามีหมอกหนาหลายพื้นที่และอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงวันที่ 21-22 ม.ค. ลมแรง และอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและมีฝนบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรัง ในช่วงวันที่ 21-22 ม.ค. จะมีฝนบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายของผลผลิตการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้ง
กลาง
ในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่และอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ในวันที่ 22 ม.ค. อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่และอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ในวันที่ 22 ม.ค. อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้งดังนั้นจึงควรระวังการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า โดยดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากจุดไฟเพื่อใช้งานแล้ว นอกจากนี้ควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอโดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกหากขาดน้ำจะทำให้การติดผลลดลง
ตะวันออก
ในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่และมีอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่และมีอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อากาศแห้ง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชและคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าวและหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นดิน รวมทั้งระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกในตอนเช้าอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลาเกือบตลอด ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต ตรัง และสตูลเกือบตลอดสัปดาห์ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทางฝั่งตะวันออกในตอนเช้าอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลาเกือบตลอด ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต ตรัง และสตูลเกือบตลอดสัปดาห์ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ระยะนี้มีฝนตกน้อย สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ในพืชไร่ พืชผักและไม้ผล นอกจากนี้ควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-