กรุงเทพ--20 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2549 นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ บรรยายสรุปเกี่ยวกับงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แก่คณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ณ กระทรวงการต่างประเทศ สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ปี 2549 เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลไทยจึงจัดกิจกรรมการเฉลิมฉลองขึ้นตลอดทั้งปีเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์เป็นเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และปัจจุบันยังทรงเป็นพระพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก โอกาสนี้ รัฐบาลได้กราบบังคมทูลเชิญพระประมุขจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติฯ ด้วย
2. อธิบดีกรมสารนิเทศได้กล่าวถึงการตอบรับการเข้าร่วมงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติของประมุข พระสวามีหรือพระราชินี มกุฏราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์จากประเทศต่างๆ ระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายน 2549 ว่ามีประมุข 15 พระองค์จากบรูไนฯ สวีเดน สวาซิแลนด์ ญี่ปุ่น กาตาร์ เลโซโท จอร์แดน บาห์เรน ลักเซมเบิร์ก มาเลเซีย เนปาล กัมพูชา โมนาโก คูเวต และลิกเตนสไตน์เข้าร่วมงาน และมีพระสวามี / พระราชินี 3 พระองค์จากเดนมาร์ก สเปน และโมร็อกโก รวมถึงมกุฏราชกุมาร 6 พระองค์จากตองกา ภูฏาน เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เบลเยียม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และพระราชวงศ์ 3 พระองค์จากสหราชอาณาจักร โอมาน และซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมงานฯ ทั้งนี้ พระประมุขจากซามัวไม่สามารถเข้าร่วมงานพระราชพิธีฯ ได้ เนื่องจากทรงมีพระชนมายุมาก และซามัวก็ไม่มีระบบการตั้งผู้แทนพระประมุข
3. สำหรับกำหนดการงานพระราชพิธีฯ อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวว่าช่วงวันที่ 8 — 10 มิถุนายน 2549 จะเป็นงานพระราชพิธีและงานพระราชพิธีทางศาสนา ณ พระบรมหาราชวัง และพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมจุดเทียนถวายพระพรในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 ณ บริเวณท้องสนามหลวง และในวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2549 พระประมุขและผู้แทนจาก 27 ประเทศ จะร่วมถวายพระพร ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม หลังจากนั้นจะร่วมชมนิทรรศการ “The King and the Development of Thailand” ณ หอประชุมกองทัพเรือ และชมขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา สำหรับวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2549 จะมีงานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่พระประมุขและผู้แทนจาก 27 ประเทศ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
4. คณะทูตานุทูตและผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานพระราช พิธีในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน งานเปิดนิทรรศการ “The King and the Development of Thailand” และการชมขบวนเรือพระราชพิธีในวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2549
5. กระทรวงการต่างประเทศมีบทบาทร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ในการจัดทำเว็บไซต์ทางการ www.60thcelebrations.com (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำเว็บไซต์ www.hmkingofthailand.com (ภาษาอังกฤษ) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อชาวต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดตัวต่อสาธารณชนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2549
นอกจากนี้ สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดการดูงานเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ “Alternative Development: Sufficiency Economy” สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและสื่อมวลชนจาก 22 ประเทศกำลังพัฒนา โดยมีกำหนดการในช่วงเดือนมิถุนายน — กรกฎาคม 2549 ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต คณะทูตถาวรประจำสหประชาชาติ และสถานกงสุลใหญ่ของไทยประจำประเทศต่างๆ จะร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ นิทรรศการทางวัฒนธรรม และงานเลี้ยงรับรองเพื่อเฉลิมฉลองด้วย
6. อธิบดีกรมสารนิเทศได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมของคณะทูตเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสนี้ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2549 นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ บรรยายสรุปเกี่ยวกับงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แก่คณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ณ กระทรวงการต่างประเทศ สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ปี 2549 เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลไทยจึงจัดกิจกรรมการเฉลิมฉลองขึ้นตลอดทั้งปีเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์เป็นเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และปัจจุบันยังทรงเป็นพระพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก โอกาสนี้ รัฐบาลได้กราบบังคมทูลเชิญพระประมุขจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติฯ ด้วย
2. อธิบดีกรมสารนิเทศได้กล่าวถึงการตอบรับการเข้าร่วมงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติของประมุข พระสวามีหรือพระราชินี มกุฏราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์จากประเทศต่างๆ ระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายน 2549 ว่ามีประมุข 15 พระองค์จากบรูไนฯ สวีเดน สวาซิแลนด์ ญี่ปุ่น กาตาร์ เลโซโท จอร์แดน บาห์เรน ลักเซมเบิร์ก มาเลเซีย เนปาล กัมพูชา โมนาโก คูเวต และลิกเตนสไตน์เข้าร่วมงาน และมีพระสวามี / พระราชินี 3 พระองค์จากเดนมาร์ก สเปน และโมร็อกโก รวมถึงมกุฏราชกุมาร 6 พระองค์จากตองกา ภูฏาน เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เบลเยียม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และพระราชวงศ์ 3 พระองค์จากสหราชอาณาจักร โอมาน และซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมงานฯ ทั้งนี้ พระประมุขจากซามัวไม่สามารถเข้าร่วมงานพระราชพิธีฯ ได้ เนื่องจากทรงมีพระชนมายุมาก และซามัวก็ไม่มีระบบการตั้งผู้แทนพระประมุข
3. สำหรับกำหนดการงานพระราชพิธีฯ อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวว่าช่วงวันที่ 8 — 10 มิถุนายน 2549 จะเป็นงานพระราชพิธีและงานพระราชพิธีทางศาสนา ณ พระบรมหาราชวัง และพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมจุดเทียนถวายพระพรในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 ณ บริเวณท้องสนามหลวง และในวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2549 พระประมุขและผู้แทนจาก 27 ประเทศ จะร่วมถวายพระพร ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม หลังจากนั้นจะร่วมชมนิทรรศการ “The King and the Development of Thailand” ณ หอประชุมกองทัพเรือ และชมขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา สำหรับวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2549 จะมีงานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่พระประมุขและผู้แทนจาก 27 ประเทศ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
4. คณะทูตานุทูตและผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานพระราช พิธีในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน งานเปิดนิทรรศการ “The King and the Development of Thailand” และการชมขบวนเรือพระราชพิธีในวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2549
5. กระทรวงการต่างประเทศมีบทบาทร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ในการจัดทำเว็บไซต์ทางการ www.60thcelebrations.com (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำเว็บไซต์ www.hmkingofthailand.com (ภาษาอังกฤษ) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อชาวต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดตัวต่อสาธารณชนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2549
นอกจากนี้ สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดการดูงานเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ “Alternative Development: Sufficiency Economy” สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและสื่อมวลชนจาก 22 ประเทศกำลังพัฒนา โดยมีกำหนดการในช่วงเดือนมิถุนายน — กรกฎาคม 2549 ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต คณะทูตถาวรประจำสหประชาชาติ และสถานกงสุลใหญ่ของไทยประจำประเทศต่างๆ จะร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ นิทรรศการทางวัฒนธรรม และงานเลี้ยงรับรองเพื่อเฉลิมฉลองด้วย
6. อธิบดีกรมสารนิเทศได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมของคณะทูตเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสนี้ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-