แท็ก
กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรม-สถาบันฯสิ่งทอผนึกกำลังสู้ศึกรอบด้าน หลังเปิดเสรีเต็มรูปแบบ ห่วงบาทแข็ง ผลิตภาพ (Productivity) สิ่งทอต่ำสุดขีด ความสามารถแข่งขันวูบ ดึงผู้ประกอบการถกปัญหา รับทราบทิศทาง และนโยบายขับเคลื่อน อุตสาหกรรมสิ่งทอด่วน
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา “อนาคตสิ่งทอไทย : วิกฤตหรือโอกาส” ว่าขณะนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ได้เดินเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันที่รอบด้านหลังเปิดการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ โดยภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ในส่วนของการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงทำให้ผู้ประกอบการไทยกำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน (Losing Competitiveness) ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นประเด็นสำคัญดังนี้ จึงร่วมกับภาคเอกชนจัดทำแผนแม่บทเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม โดยมีอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นสาขาหนึ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญและได้จัดอยู่ในแผนแม่บทดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะในขณะนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของโลก ได้ยกเลิกระบบโควตา และมีการเปิดเสรีการค้า ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ส่งผลให้รูปแบบการค้าและการแข่งขันของสิ่งทอเปลี่ยนแปลงอย่างมาก อีกทั้งผู้ส่งออกกำลังประสบปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทในปีที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้นร้อยละ 9.3 และใน 10 เดือนแรกของปีนี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นถึงร้อยละ 14.11 ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องรีบหาทางแก้ไข เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด และความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย
ด้าน ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อรับทราบทิศทางและหาทางแก้ไขร่วมกัน โดย สศอ.ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ “อนาคตสิ่งทอไทย : วิกฤตหรือโอกาส” ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งภายใต้โครงการศูนย์สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นโครงการที่ศึกษาข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นศูนย์กลางของแหล่งข้อมูลและเครือข่ายการวิเคราะห์สถานการณ์ของอุตสาหกรรม ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอของประเทศได้อย่างแท้จริง และผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้คาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและสามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
ดร.อรรชกา กล่าวว่า การแข่งขันด้านการตลาดรวมถึงการช่วงชิงฐานลูกค้ายุคใหม่ต้องมีฐานข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน ซึ่งการที่ สศอ.ร่วมมือกับสถาบันสิ่งทอฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนพยายามเก็บข้อมูลในเชิงลึกและมีการเสวนาแลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกฝ่ายได้รับทราบทิศทาง และแนวทางแก้ไข ซึ่งที่สุดแล้วประโยชน์ย่อมอยู่ที่ผู้ประกอบการสิ่งทอฯ ของประเทศผู้เป็นแรงหนุนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่า 300,000 ล้านบาท การจ้างงานกว่า 1 ล้านคน หรือสัดส่วนต่อจีดีพีของประเทศประมาณร้อยละ 6.2
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา “อนาคตสิ่งทอไทย : วิกฤตหรือโอกาส” ว่าขณะนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ได้เดินเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันที่รอบด้านหลังเปิดการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ โดยภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ในส่วนของการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงทำให้ผู้ประกอบการไทยกำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน (Losing Competitiveness) ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นประเด็นสำคัญดังนี้ จึงร่วมกับภาคเอกชนจัดทำแผนแม่บทเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม โดยมีอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นสาขาหนึ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญและได้จัดอยู่ในแผนแม่บทดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะในขณะนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของโลก ได้ยกเลิกระบบโควตา และมีการเปิดเสรีการค้า ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ส่งผลให้รูปแบบการค้าและการแข่งขันของสิ่งทอเปลี่ยนแปลงอย่างมาก อีกทั้งผู้ส่งออกกำลังประสบปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทในปีที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้นร้อยละ 9.3 และใน 10 เดือนแรกของปีนี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นถึงร้อยละ 14.11 ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องรีบหาทางแก้ไข เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด และความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย
ด้าน ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อรับทราบทิศทางและหาทางแก้ไขร่วมกัน โดย สศอ.ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ “อนาคตสิ่งทอไทย : วิกฤตหรือโอกาส” ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งภายใต้โครงการศูนย์สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นโครงการที่ศึกษาข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นศูนย์กลางของแหล่งข้อมูลและเครือข่ายการวิเคราะห์สถานการณ์ของอุตสาหกรรม ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอของประเทศได้อย่างแท้จริง และผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้คาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและสามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
ดร.อรรชกา กล่าวว่า การแข่งขันด้านการตลาดรวมถึงการช่วงชิงฐานลูกค้ายุคใหม่ต้องมีฐานข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน ซึ่งการที่ สศอ.ร่วมมือกับสถาบันสิ่งทอฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนพยายามเก็บข้อมูลในเชิงลึกและมีการเสวนาแลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกฝ่ายได้รับทราบทิศทาง และแนวทางแก้ไข ซึ่งที่สุดแล้วประโยชน์ย่อมอยู่ที่ผู้ประกอบการสิ่งทอฯ ของประเทศผู้เป็นแรงหนุนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่า 300,000 ล้านบาท การจ้างงานกว่า 1 ล้านคน หรือสัดส่วนต่อจีดีพีของประเทศประมาณร้อยละ 6.2
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-