นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าทางการอังกฤษได้ออกกฎระเบียบ ว่าด้วยความปลอดภัยสินค้าอาหาร The Food Hygiene (England) Regulations 2005 เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายและกฎระเบียบการควบคุมความปลอดภัยสินค้าอาหารของสหภาพยุโรป ที่มุ่งเน้นควบคุมความปลอดภัยของสินค้าอาหารอย่างครอบคลุมตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงผู้บริโภค (“Farm to fork approach”) โดยระเบียบ The Food Hygiene (England) 2005 นี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 และมีข้อกำหนดครอบคลุมตั้งแต่หน่วยผลิตขั้นปฐมและผู้จำหน่ายไปจนถึงระดับของผู้บริโภค (Primary food production to sale or supply to consumer) และได้มีการกำหนดมาตรการที่สำคัญเพิ่มเติมจากกฎระเบียบที่มีอยู่เดิม ดังนี้
1. ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสินค้าอาหารทั้งหมด รวมทั้งหน่วยผลิตขั้นปฐม (Primary production) จะต้องยื่นจดทะเบียนสถานที่ประกอบการ (Register of establishment)
2. สถานที่ผลิตสินค้าอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต้องได้รับการตรวจสอบ และอนุญาตจากกรมปศุสัตว์
3. ผู้ประกอบธุรกิจสินค้าอาหารจะต้องจัดให้มีระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหารอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ (Effective food safety management system) โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์พื้นฐานของระบบ HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points)
4. กำหนดบทลงโทษปรับ โทษฝ่าฝืน และเพิ่มอำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบสถานที่ และมาตรการในทางปฏิบัติแก่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
5. ระเบียบนี้มีผลบังคับครอบคลุมถึงสินค้านำเข้าจากประเทศที่สาม (รวมไทย) ไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งผู้นำเข้า/ผู้จัดจำหน่ายจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งจะต้องยื่นจดทะเบียนสถานที่ประกอบการ สถานที่เก็บและจัดจำหน่าย โดยสินค้าอาหารที่นำเข้าต้องมาจากแหล่งผลิตที่มีระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหาร และการตรวจสอบควบคุมความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับของสหภาพยุโรปด้วย
อนึ่ง ประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารไปอังกฤษมีมูลค่าเฉลี่ยปีละประมาณ 12,810 ล้านบาท โดยในปี 2547 มีมูลค่าส่งออก 13,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 6.78 และในปี 2548 (มกราคม-พฤศจิกายน) มีมูลค่าส่งออก 15,739.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 26.37
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-
1. ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสินค้าอาหารทั้งหมด รวมทั้งหน่วยผลิตขั้นปฐม (Primary production) จะต้องยื่นจดทะเบียนสถานที่ประกอบการ (Register of establishment)
2. สถานที่ผลิตสินค้าอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต้องได้รับการตรวจสอบ และอนุญาตจากกรมปศุสัตว์
3. ผู้ประกอบธุรกิจสินค้าอาหารจะต้องจัดให้มีระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหารอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ (Effective food safety management system) โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์พื้นฐานของระบบ HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points)
4. กำหนดบทลงโทษปรับ โทษฝ่าฝืน และเพิ่มอำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบสถานที่ และมาตรการในทางปฏิบัติแก่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
5. ระเบียบนี้มีผลบังคับครอบคลุมถึงสินค้านำเข้าจากประเทศที่สาม (รวมไทย) ไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งผู้นำเข้า/ผู้จัดจำหน่ายจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งจะต้องยื่นจดทะเบียนสถานที่ประกอบการ สถานที่เก็บและจัดจำหน่าย โดยสินค้าอาหารที่นำเข้าต้องมาจากแหล่งผลิตที่มีระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหาร และการตรวจสอบควบคุมความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับของสหภาพยุโรปด้วย
อนึ่ง ประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารไปอังกฤษมีมูลค่าเฉลี่ยปีละประมาณ 12,810 ล้านบาท โดยในปี 2547 มีมูลค่าส่งออก 13,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 6.78 และในปี 2548 (มกราคม-พฤศจิกายน) มีมูลค่าส่งออก 15,739.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 26.37
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-