นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาได้รับรายงานจากสำนักงานประกันภัยจังหวัดศรีสะเกษว่าได้เกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ที่ จ.ศรีสะเกษ 2 ครั้งเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2548 มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 2 ราย และวันที่ 3 มกราคม 2549 มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 5 ราย โดยมีรายละเอียดดังนี้
อุบัติเหตุครั้งแรกวันที่ 30 ธันวาคม 2548 เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.45 น. บนถนนพยุห์—ขุนหาญ หมู่ที่ 20 ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง รถยนต์บรรทุกสิบล้อหมายเลขทะเบียน 81-3691 ศรีสะเกษ ซึ่งได้ทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) กับบริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด เฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บธ-184 อุบลราชธานี ซึ่งได้ทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. กับบริษัท แอลเอ็มจีประกันภัย จำกัด เบื้องต้นทราบว่ารถยนต์บรรทุกสิบล้อเป็นฝ่ายผิด ทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จากบริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด ดังนี้
1. ทายาทของผู้เสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 100,000 บาท
2. ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงและค่าอนามัยตามความเหมาะสมรายละไม่เกิน 50,000 บาท
อุบัติเหตุครั้งที่สอง วันที่ 3 มกราคม 2549 เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.45 น.บนถนนโชคชัย-เดชอุดม ระหว่าง กม. 271-272 หมู่ที่ 1 ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ รถยนต์หมายเลขทะเบียน บค-9497 ยโสธร ซึ่งได้ทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. กับบริษัท แอลเอ็มจีประกันภัย จำกัดเฉี่ยวชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ณฮ-7156 กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. และประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 1 ไว้กับบริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด เบื้องต้นทราบว่ารถหมายเลขทะเบียน ณฮ-7156 กรุงเทพมหานคร เป็นฝ่ายผิด ทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จากบริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด ดังนี้
1. ทายาทของผู้โดยสารที่เสียชีวิต สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนรวมทั้งสิ้นรายละไม่เกิน 364,285 บาท โดยจะได้รับจากการประกันภัยตาม พ.ร.บ.รายละ 100,000บาท และจากการประกันภัยประเภท 1 ในส่วนของความคุ้มครองความรับผิคต่อบุคคลภายนอกตามความเหมาะสมหรือตามฐานานุรูปรายละไม่เกิน 250,000 บาท และความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยประเภท 1 ในส่วนของการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลอีกรายละ 14,285 บาท
2. ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ สามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงและค่าอนามัยตามความเหมาะสมจากการประกันภัยตาม พ.ร.บ. รายละไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนเกินสามารถเรียกร้องในส่วนของความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยประเภท 1 การประกันภัยค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 50,000 บาท และในส่วนของความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกอีกรายละไม่เกิน 250,000 บาท รวมทั้งสิ้นรายละไม่เกิน 350,000 บาท ทั้งนี้ กรมการประกันภัย ได้ประสานไปยังบริษัทฯ ให้เร่งดำเนินการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยเร็วแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเอกสารหลักฐานจากผู้ประสบภัยหรือทายาท
นางสาวพจนีย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถิติอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ลดลงจากที่ประมาณการไว้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนก็ไม่ควรประมาท ขับรถด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกำจราจรเสมอ และควรตรวจสอบประกันภัยรถของทานว่ายังมีผลคุ้มครองอยู่ เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วย่อมก่อให้เกิดความสูญเสีย อย่างน้อยการทำประกันภัยรถก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้
หากมีปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับการประกันภัยรถยนต์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กรมการประกันภัย โทร. 0-2547-4524 หรือสายด่วนประกันภัย 1186 กลุ่มคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขตทุกเขต และสำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด
ที่มา: http://www.doi.go.th