คำถาม : คลองสุเอซมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกอย่างไร
คำตอบ : คลองสุเอซเป็นคลองขุดที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมการเดินเรือระหว่างทวีปเอเชียและ
ทวีปยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอียิปต์ เริ่มจากท่าเรือซาอิดซึ่งเป็นทางเข้าด้านฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปสิ้นสุดที่ท่าเรือสุเอซที่
ปากอ่าวสุเอซซึ่งเป็นทางเข้าจากฝั่งทะเลแดง มีความยาวทั้งสิ้น 193 กิโลเมตรความกว้าง 300-350 เมตร และมีความลึก 19.5-20 เมตร ขุดขึ้น
ตั้งแต่ปี 2402 ปัจจุบันกรรมสิทธิ์เหนือคลองสุเอซเป็น ของประเทศอียิปต์ ซึ่งล่าสุดอียิปต์มีแผนขุดคลองเพิ่มระดับความลึกเป็น 22 เมตร ภายในปี
2553 เพื่อรองรับ เรือขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้คลองสุเอซมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและการค้าของโลกตั้งแต่ยุคล่า
อาณานิคม จวบจนถึงยุคโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบัน มีดังนี้
* คลองสุเอซเป็นเส้นทางเดินเรือที่สั้นที่สุดจากทวีปยุโรปไปยังทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันออก จากเดิมที่การเดินเรือเพื่อขนส่ง
สินค้าจากทวีปยุโรปสู่ทวีปเอเชียต้องเดินทางอ้อมแหลมกูดโฮปทางใต้สุดของทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ใช้เวลาเดินทางนาน และเสีย
ค่าใช้จ่ายมาก ทั้งนี้ ตัวอย่างระยะทางการเดินเรือจากท่าเรือต้นทางไปยังท่าเรือปลายทางต่าง ๆ มีดังนี้
ระยะทาง (ไมล์ทะเล) ระยะทางที่ประหยัดได้
ท่าเรือต้นทาง ท่าเรือปลายทาง ผ่านคลองสุเอซ ผ่านแหลมกูดโฮป (ร้อยละ)
เจดดาห์ ปิอารุส 1,320 11,207 88
(ซาอุดีอาระเบีย) (กรีซ)
บอมเบย์ รอทเทอร์ดัม 6,337 10,743 41
(อินเดีย) (เนเธอร์แลนด์)
เซี่ยงไฮ้ เจนัว 8,670 13,619 36
(จีน) (อิตาลี)
ที่มา : www.rafimar.com
ทั้งนี้ การเดินเรือในคลองสุเอซเป็นการเดินเรือเพียงทางเดียว ดังนั้นเรือที่จะผ่านคลองสุเอซ จึงต้องเดินเรือเป็นขบวนในช่วงเวลาที่
กำหนดไว้ ซึ่งมี 3 ขบวนต่อวัน ประกอบด้วยการเดินเรือขึ้นเหนือจากท่าเรือสุเอซไปยังท่าเรือซาอิด 1 ขบวน ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง และการ
เดินเรือลงใต้จากท่าเรือซาอิดไปยังท่าเรือสุเอซ 2 ขบวนใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง
* คลองสุเอซเป็นคลองที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดในโลก โดยเฉพาะการเดินเรือเพื่อขนส่งสินค้าระหว่างทวีปเอเชียและทวีปยุโรป
เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในปี 2548 มีเรือล่องผ่านคลองสุเอซราว 18,700 ลำ เฉลี่ย 51 ลำต่อวัน (เทียบ
กับความสามารถในการรองรับเรือได้สูงสุด 25,000 ลำต่อปี) ในจำนวนดังกล่าวเป็นเรือขนส่งสินค้าราวร้อยละ 58 คิดเป็นปริมาณการขนส่งสินค้าสูง
ถึง 665 ล้านตัน (หรือราวร้อยละ 14 ของปริมาณการค้าทั้งหมดของโลก) โดยเป็นปริมาณการขนส่งสินค้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้
คิดเป็นร้อยละ 20 ของปริมาณสินค้าทั้งหมดที่ขนส่งผ่านคลองสุเอซ
* คลองสุเอซเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันในแถบตะวันออกกลางใช้ขนส่ง
น้ำมันไปยังภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป และสหรัฐฯ ทั้งนี้ เรือบรรทุกน้ำมันที่เดินทางผ่านคลองสุเอซ มีสัดส่วนราวร้อยละ 22 ของจำนวนเรือทั้ง
หมด นอกจากนี้ กลุ่มประเทศในแถบตะวันออกกลางขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซคิดเป็นร้อยละ 35 ของปริมาณสินค้าทั้งหมดที่ขนส่งผ่านคลองสุเอซ
ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้น ญี่ปุ่น) ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึงร้อย
ละ 6.2 ในปี 2549 รวมถึงเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรปที่คาดว่าจะขยายตัวราวร้อยละ 2 ในปี 2549 ต่างต้องพึ่งพิงการขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซ
เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทย ที่มี EU เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ด้วยมูลค่าส่งออกไป EU กว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 การพัฒนา
ความสามารถในการรองรับเรือขนส่งสินค้าของคลองสุเอซ จึงช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและเศรษฐกิจของโลกมากยิ่งขึ้น
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2549--
-พห-
คำตอบ : คลองสุเอซเป็นคลองขุดที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมการเดินเรือระหว่างทวีปเอเชียและ
ทวีปยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอียิปต์ เริ่มจากท่าเรือซาอิดซึ่งเป็นทางเข้าด้านฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปสิ้นสุดที่ท่าเรือสุเอซที่
ปากอ่าวสุเอซซึ่งเป็นทางเข้าจากฝั่งทะเลแดง มีความยาวทั้งสิ้น 193 กิโลเมตรความกว้าง 300-350 เมตร และมีความลึก 19.5-20 เมตร ขุดขึ้น
ตั้งแต่ปี 2402 ปัจจุบันกรรมสิทธิ์เหนือคลองสุเอซเป็น ของประเทศอียิปต์ ซึ่งล่าสุดอียิปต์มีแผนขุดคลองเพิ่มระดับความลึกเป็น 22 เมตร ภายในปี
2553 เพื่อรองรับ เรือขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้คลองสุเอซมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและการค้าของโลกตั้งแต่ยุคล่า
อาณานิคม จวบจนถึงยุคโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบัน มีดังนี้
* คลองสุเอซเป็นเส้นทางเดินเรือที่สั้นที่สุดจากทวีปยุโรปไปยังทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันออก จากเดิมที่การเดินเรือเพื่อขนส่ง
สินค้าจากทวีปยุโรปสู่ทวีปเอเชียต้องเดินทางอ้อมแหลมกูดโฮปทางใต้สุดของทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ใช้เวลาเดินทางนาน และเสีย
ค่าใช้จ่ายมาก ทั้งนี้ ตัวอย่างระยะทางการเดินเรือจากท่าเรือต้นทางไปยังท่าเรือปลายทางต่าง ๆ มีดังนี้
ระยะทาง (ไมล์ทะเล) ระยะทางที่ประหยัดได้
ท่าเรือต้นทาง ท่าเรือปลายทาง ผ่านคลองสุเอซ ผ่านแหลมกูดโฮป (ร้อยละ)
เจดดาห์ ปิอารุส 1,320 11,207 88
(ซาอุดีอาระเบีย) (กรีซ)
บอมเบย์ รอทเทอร์ดัม 6,337 10,743 41
(อินเดีย) (เนเธอร์แลนด์)
เซี่ยงไฮ้ เจนัว 8,670 13,619 36
(จีน) (อิตาลี)
ที่มา : www.rafimar.com
ทั้งนี้ การเดินเรือในคลองสุเอซเป็นการเดินเรือเพียงทางเดียว ดังนั้นเรือที่จะผ่านคลองสุเอซ จึงต้องเดินเรือเป็นขบวนในช่วงเวลาที่
กำหนดไว้ ซึ่งมี 3 ขบวนต่อวัน ประกอบด้วยการเดินเรือขึ้นเหนือจากท่าเรือสุเอซไปยังท่าเรือซาอิด 1 ขบวน ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง และการ
เดินเรือลงใต้จากท่าเรือซาอิดไปยังท่าเรือสุเอซ 2 ขบวนใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง
* คลองสุเอซเป็นคลองที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดในโลก โดยเฉพาะการเดินเรือเพื่อขนส่งสินค้าระหว่างทวีปเอเชียและทวีปยุโรป
เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในปี 2548 มีเรือล่องผ่านคลองสุเอซราว 18,700 ลำ เฉลี่ย 51 ลำต่อวัน (เทียบ
กับความสามารถในการรองรับเรือได้สูงสุด 25,000 ลำต่อปี) ในจำนวนดังกล่าวเป็นเรือขนส่งสินค้าราวร้อยละ 58 คิดเป็นปริมาณการขนส่งสินค้าสูง
ถึง 665 ล้านตัน (หรือราวร้อยละ 14 ของปริมาณการค้าทั้งหมดของโลก) โดยเป็นปริมาณการขนส่งสินค้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้
คิดเป็นร้อยละ 20 ของปริมาณสินค้าทั้งหมดที่ขนส่งผ่านคลองสุเอซ
* คลองสุเอซเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันในแถบตะวันออกกลางใช้ขนส่ง
น้ำมันไปยังภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป และสหรัฐฯ ทั้งนี้ เรือบรรทุกน้ำมันที่เดินทางผ่านคลองสุเอซ มีสัดส่วนราวร้อยละ 22 ของจำนวนเรือทั้ง
หมด นอกจากนี้ กลุ่มประเทศในแถบตะวันออกกลางขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซคิดเป็นร้อยละ 35 ของปริมาณสินค้าทั้งหมดที่ขนส่งผ่านคลองสุเอซ
ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้น ญี่ปุ่น) ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึงร้อย
ละ 6.2 ในปี 2549 รวมถึงเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรปที่คาดว่าจะขยายตัวราวร้อยละ 2 ในปี 2549 ต่างต้องพึ่งพิงการขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซ
เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทย ที่มี EU เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ด้วยมูลค่าส่งออกไป EU กว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 การพัฒนา
ความสามารถในการรองรับเรือขนส่งสินค้าของคลองสุเอซ จึงช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและเศรษฐกิจของโลกมากยิ่งขึ้น
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2549--
-พห-