ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. คาดว่าการสรรหาผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่จะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง
เปิดเผยว่า การสรรหาผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่นั้น จะดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะทราบผล ซึ่งผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ต้อง
เป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความรู้เรื่องนโยบายการเงินและดูแลสถาบันการเงินได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลสถาบันการเงิน สำหรับ
แนวทางการบริหารงานของ ธปท.จะยังคงยึดนโยบายเดิม โดยกำหนดเป้าหมายลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้เหลือ 2% ภายใน
ปี 50 รวมทั้งดูแลเรื่องบัตรเครดิตไม่ให้เร่งตัวมากจนเกินไป ซึ่งขณะนี้อัตราการขยายตัวของธุรกิจบัตรเครดิตอยู่ที่ 19% จากเดิมที่ 40% โดยจะ
ดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น ด้านนโยบายสถาบันการเงิน ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะปรับปรุงให้ใช้เกณฑ์เดียวกับ ธพ. รวมไปถึงการจัดชั้น
ลูกหนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเพื่อเป็นการรองรับการประเมินด้านการเงินภายใต้ FSAP
(Financial Sector Assessment Program) ซึ่งเป็นมาตรฐานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาตรวจ
สอบสถาบันการเงินเฉพาะกิจด้วย (โลกวันนี้, มติชน, ผู้จัดการรายวัน)
2. คาดว่าการส่งออกในช่วงไตรมาส 4/49 จะขยายตัว 14.1% เทียบต่อปี ขณะที่ลดลง 5.7% เทียบต่อไตรมาส ผอ.ศูนย์ศึกษา
การค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า คาดการณ์การส่งออกไตรมาส 4 ปี 49 จะมีมูลค่า 32,922 ล.ดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว
14.1% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 5.7% จากไตรมาส 3 เนื่องจากตลาดหลักอย่าง สรอ.ชะลอตัวลง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
เงินบาทซึ่งมีทิศทางแข็งค่าขึ้น และมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีจากประเทศคู่ค้า ส่วนการนำเข้าจะมีมูลค่า 34,037 ล.ดอลลาร์ สรอ.
ขยายตัว 16.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.2% จากไตรมาส 3 โดยมูลค่านำเข้าชะลอตัวลงในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิง สินค้าทุน
สินค้าวัตถุดิบ เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกมีทิศทางขาลง ในส่วนประมาณการทั้งปี 49 การส่งออกจะมีมูลค่า 128,396 ล.ดอลลาร์
สรอ. ขยายตัว 15.8% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 130,577 ล.ดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 10.4% ทำให้ดุลการค้าทั้งปีจะขาดดุล
2,262 ล.ดอลลาร์ สรอ. และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3,190 ล.ดอลลาร์ สรอ. และเชื่อว่าจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 49
ขยายตัว 4.3% ลดลงจากปีก่อน 0.2% จากการลงทุนและการบริโภคที่ลดลง ขณะที่ปี 50 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวประมาณ 11.5-13.5%
การนำเข้าขยายตัว 8.0-10.0% ดุลการค้าเกินดุล 2 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ทำให้จีดีพีขยายตัว 4.3-4.8% (ไทยโพสต์, กรุงเทพธุรกิจ,
โพสต์ทูเดย์)
3. ธ.กสิกรไทยและ ธ.ไทยพาณิชย์ ครองตำแหน่งธนาคารแห่งปี 2549 ร่วมกัน วารสารการเงินธนาคาร ประกาศผลการจัดอันดับ
ธนาคารแห่งปีประจำปี 2549 หรือ Bank of The Year 2006 ปรากฎว่า ธ.กสิกรไทย และ ธ.ไทยพาณิชย์ ครองตำแหน่งร่วมกัน โดย
ธ.ไทยพาณิชย์มีกำไรสุทธิต่อรายได้รวมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ถึง 33.41% ส่วน ธ.กสิกรไทย มีอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมอันดับ 2 ที่ 24.07%
สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณาอันดับธนาคารแห่งปี ยังคงใช้เกณฑ์การพิจารณาที่เป็นมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยนำผลประกอบการของ
ธพ.ในช่วง 1 ก.ค.48 — 30 มิ.ย.49 มาคำนวณหาอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของ
ธพ.แต่ละแห่ง (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
4. คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปสูตรการขายเอ็นพีแอลให้กับ บสก. คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานสมาคมธนาคารไทย
กล่าวว่า ในสิ้นปีนี้อาจได้ข้อสรุปถึงสูตรการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) โดยจะ
อิงกับสูตรการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีเอเป็นหลัก แต่ประเด็นที่กำลังหารือกันอยู่คือเรื่องภาษี เพราะภาษีการโอนจากการปรับ
โครงสร้างหนี้จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ ซึ่งสมาคมฯได้ชี้แจงให้ทางการเข้ามาดูแลแล้วและเห็นว่าควรที่จะมีการต่ออายุแบบถาวร โดยอาศัยหลักการที่ว่า
ถ้ามีการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เจ้าหนี้และลูกหนี้ให้การยอมรับ ก็คงคิดภาษีตามกฎเกณฑ์เดิม เพื่อเป็นการจูงใจลูกหนี้และเจ้าหนี้ในการ
ปรับโครงสร้างหนี้ (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. รมว.คลังของเขตยูโรมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ รายงานกรุงลักเซมเบอร์ก ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่
10 ต.ค.49 รมว.คลังส่วนใหญ่ของประเทศในสหภาพยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโรมีมุมมองในด้านดีเกี่ยวกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตยูโร
หลังจากที่เศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยการส่งออกกำลังขยายตัว การลงทุนขยายตัวได้ดี มีเพียงการบริโภคของ
ภาคเอกชนที่จะต้องกระตุ้นอยู่บ้างแต่ก็กำลังเติบโตได้ดีเช่นกัน ในขณะที่มีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตรา
เงินเฟ้อ ส่วนการที่ในระยะนี้ค่าเงินเยนลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินยูโรก็จำเป็นจะต้องติดตามเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดรวมทั้งอีกหลายเรื่อง
เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่าง ๆ ของ ธ.กลางสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกจะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
(รอยเตอร์)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือน ส.ค.49 ขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ
9 ต.ค.49 ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีหลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วขยายตัวร้อยละ 1.9 ในเดือน ส.ค.49 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีนับตั้งแต่เดือน ต.ค.46 หลังจากขยายตัวร้อยละ 0.8 ต่อเดือนในเดือน ก.ค.49 และขยายตัวดีกว่าที่
ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ที่ร้อยละ 0.2 ต่อเดือนมาก ทั้งนี้เป็นผลมาจากคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมที่พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 3.7 ในเดือนเดียวกัน
ในขณะที่ยอดเกินดุลการค้าก็ขยายตัวเกินกว่าที่คาดไว้ โดยหากแจกแจงตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นจะพบว่าผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรม
เพิ่มขึ้นมากสุดคือร้อยละ 2.3 ต่อเดือน และผลผลิตภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ต่อเดือน ในขณะที่ผลผลิตด้านพลังงานลดลงร้อยละ
1.9 ต่อเดือน จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจเยอรมนียังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ปี 49 หลังจากขยายตัวร้อยละ
0.9 ในไตรมาสที่ 2 ปี 49 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี (รอยเตอร์)
3. ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากกลุ่ม OPEC เตรียมที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่
9 ต.ค. 49 รอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันเมื่อวันจันทร์เพิ่มสูงขึ้นโดยน้ำมันดิบของสรอ. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์อยู่ที่บาร์เรลละ 59.96 ดอลลาร์
สรอ. ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ของอังกฤษเพิ่มขึ้น 71 เซนต์อยู่ที่ บาร์เรลละ 60.54 ดอลลาร์ สรอ. การทำกำไรดังกล่าวเนื่องจากยังมีความ
ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (OPEC) ทั้งนี้ปัจจุบันราคาน้ำมันลดลงมากกว่าร้อยละ
20 จากที่เคยทำสถิติสูงสุดที่บาร์เรลละ 78.40 ดอลลาร์ สรอ.ในช่วงกลางเดือน ก.ค. ทำให้นาย Edmund Daukoru ประธานกลุ่ม OPEC
ได้มีจดหมายถึงสมาชิกกลุ่ม OPEC เพื่อเสนอให้ลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลจากปริมาณการผลิตวันละประมาณ
27.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามคูเวตเสนอให้ปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงวันละประมาณ 700,000 — 1 ล้านบาร์เรล โดยกลุ่ม OPEC
มีกำหนดที่จะประชุมกันในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ แต่สมาชิกบางส่วนต้องการที่จะประชุมเร่งด่วนในเดือนนี้ ส่วนสมาชิกที่เหลือต้องการลดปริมาณการผลิต
โดยไม่ต้องมีการเผชิญหน้าในการประชุม (รอยเตอร์)
4. เศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวร้อยละ 7.1 ต่อปีในไตรมาสที่ 3 ปี 49 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 10 ต.ค.49 เมื่อ 10 ต.ค.49
จากตัวเลขประมาณการล่วงหน้าโดย ก.การค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัวร้อยละ 7.1 ต่อปีในไตรมาสที่ 3 ปี 49
ดีกว่าที่รอยเตอร์คาดไว้ที่ร้อยละ 2.0 ต่อปีมาก และดีกว่าไตรมาสที่ 2 ปี 49 ซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อปี ทั้งนี้ตัวเลขประมาณการ
ล่วงหน้าดังกล่าวข้างต้นได้มาจากการคำนวณตัวเลขของเดือน ก.ค.และ ส.ค.49 โดย Economic Survey of Singapore มีกำหนดจะ
รายงานตัวเลข GDP เบื้องต้นของไตรมาสที่ 3 ปี 49 ในเดือน พ.ย.49 นี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 10 ต.ค. 49 9 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.581 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.3720/37.6683 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12438 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 692.26/8.68 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,250/10,350 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 55.64 55.84 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. คาดว่าการสรรหาผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่จะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง
เปิดเผยว่า การสรรหาผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่นั้น จะดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะทราบผล ซึ่งผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ต้อง
เป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความรู้เรื่องนโยบายการเงินและดูแลสถาบันการเงินได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลสถาบันการเงิน สำหรับ
แนวทางการบริหารงานของ ธปท.จะยังคงยึดนโยบายเดิม โดยกำหนดเป้าหมายลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้เหลือ 2% ภายใน
ปี 50 รวมทั้งดูแลเรื่องบัตรเครดิตไม่ให้เร่งตัวมากจนเกินไป ซึ่งขณะนี้อัตราการขยายตัวของธุรกิจบัตรเครดิตอยู่ที่ 19% จากเดิมที่ 40% โดยจะ
ดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น ด้านนโยบายสถาบันการเงิน ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะปรับปรุงให้ใช้เกณฑ์เดียวกับ ธพ. รวมไปถึงการจัดชั้น
ลูกหนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเพื่อเป็นการรองรับการประเมินด้านการเงินภายใต้ FSAP
(Financial Sector Assessment Program) ซึ่งเป็นมาตรฐานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาตรวจ
สอบสถาบันการเงินเฉพาะกิจด้วย (โลกวันนี้, มติชน, ผู้จัดการรายวัน)
2. คาดว่าการส่งออกในช่วงไตรมาส 4/49 จะขยายตัว 14.1% เทียบต่อปี ขณะที่ลดลง 5.7% เทียบต่อไตรมาส ผอ.ศูนย์ศึกษา
การค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า คาดการณ์การส่งออกไตรมาส 4 ปี 49 จะมีมูลค่า 32,922 ล.ดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว
14.1% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 5.7% จากไตรมาส 3 เนื่องจากตลาดหลักอย่าง สรอ.ชะลอตัวลง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
เงินบาทซึ่งมีทิศทางแข็งค่าขึ้น และมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีจากประเทศคู่ค้า ส่วนการนำเข้าจะมีมูลค่า 34,037 ล.ดอลลาร์ สรอ.
ขยายตัว 16.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.2% จากไตรมาส 3 โดยมูลค่านำเข้าชะลอตัวลงในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิง สินค้าทุน
สินค้าวัตถุดิบ เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกมีทิศทางขาลง ในส่วนประมาณการทั้งปี 49 การส่งออกจะมีมูลค่า 128,396 ล.ดอลลาร์
สรอ. ขยายตัว 15.8% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 130,577 ล.ดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 10.4% ทำให้ดุลการค้าทั้งปีจะขาดดุล
2,262 ล.ดอลลาร์ สรอ. และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3,190 ล.ดอลลาร์ สรอ. และเชื่อว่าจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 49
ขยายตัว 4.3% ลดลงจากปีก่อน 0.2% จากการลงทุนและการบริโภคที่ลดลง ขณะที่ปี 50 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวประมาณ 11.5-13.5%
การนำเข้าขยายตัว 8.0-10.0% ดุลการค้าเกินดุล 2 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ทำให้จีดีพีขยายตัว 4.3-4.8% (ไทยโพสต์, กรุงเทพธุรกิจ,
โพสต์ทูเดย์)
3. ธ.กสิกรไทยและ ธ.ไทยพาณิชย์ ครองตำแหน่งธนาคารแห่งปี 2549 ร่วมกัน วารสารการเงินธนาคาร ประกาศผลการจัดอันดับ
ธนาคารแห่งปีประจำปี 2549 หรือ Bank of The Year 2006 ปรากฎว่า ธ.กสิกรไทย และ ธ.ไทยพาณิชย์ ครองตำแหน่งร่วมกัน โดย
ธ.ไทยพาณิชย์มีกำไรสุทธิต่อรายได้รวมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ถึง 33.41% ส่วน ธ.กสิกรไทย มีอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมอันดับ 2 ที่ 24.07%
สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณาอันดับธนาคารแห่งปี ยังคงใช้เกณฑ์การพิจารณาที่เป็นมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยนำผลประกอบการของ
ธพ.ในช่วง 1 ก.ค.48 — 30 มิ.ย.49 มาคำนวณหาอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของ
ธพ.แต่ละแห่ง (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
4. คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปสูตรการขายเอ็นพีแอลให้กับ บสก. คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานสมาคมธนาคารไทย
กล่าวว่า ในสิ้นปีนี้อาจได้ข้อสรุปถึงสูตรการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) โดยจะ
อิงกับสูตรการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีเอเป็นหลัก แต่ประเด็นที่กำลังหารือกันอยู่คือเรื่องภาษี เพราะภาษีการโอนจากการปรับ
โครงสร้างหนี้จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ ซึ่งสมาคมฯได้ชี้แจงให้ทางการเข้ามาดูแลแล้วและเห็นว่าควรที่จะมีการต่ออายุแบบถาวร โดยอาศัยหลักการที่ว่า
ถ้ามีการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เจ้าหนี้และลูกหนี้ให้การยอมรับ ก็คงคิดภาษีตามกฎเกณฑ์เดิม เพื่อเป็นการจูงใจลูกหนี้และเจ้าหนี้ในการ
ปรับโครงสร้างหนี้ (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. รมว.คลังของเขตยูโรมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ รายงานกรุงลักเซมเบอร์ก ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่
10 ต.ค.49 รมว.คลังส่วนใหญ่ของประเทศในสหภาพยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโรมีมุมมองในด้านดีเกี่ยวกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตยูโร
หลังจากที่เศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยการส่งออกกำลังขยายตัว การลงทุนขยายตัวได้ดี มีเพียงการบริโภคของ
ภาคเอกชนที่จะต้องกระตุ้นอยู่บ้างแต่ก็กำลังเติบโตได้ดีเช่นกัน ในขณะที่มีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตรา
เงินเฟ้อ ส่วนการที่ในระยะนี้ค่าเงินเยนลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินยูโรก็จำเป็นจะต้องติดตามเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดรวมทั้งอีกหลายเรื่อง
เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่าง ๆ ของ ธ.กลางสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกจะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
(รอยเตอร์)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือน ส.ค.49 ขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ
9 ต.ค.49 ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีหลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วขยายตัวร้อยละ 1.9 ในเดือน ส.ค.49 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีนับตั้งแต่เดือน ต.ค.46 หลังจากขยายตัวร้อยละ 0.8 ต่อเดือนในเดือน ก.ค.49 และขยายตัวดีกว่าที่
ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ที่ร้อยละ 0.2 ต่อเดือนมาก ทั้งนี้เป็นผลมาจากคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมที่พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 3.7 ในเดือนเดียวกัน
ในขณะที่ยอดเกินดุลการค้าก็ขยายตัวเกินกว่าที่คาดไว้ โดยหากแจกแจงตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นจะพบว่าผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรม
เพิ่มขึ้นมากสุดคือร้อยละ 2.3 ต่อเดือน และผลผลิตภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ต่อเดือน ในขณะที่ผลผลิตด้านพลังงานลดลงร้อยละ
1.9 ต่อเดือน จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจเยอรมนียังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ปี 49 หลังจากขยายตัวร้อยละ
0.9 ในไตรมาสที่ 2 ปี 49 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี (รอยเตอร์)
3. ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากกลุ่ม OPEC เตรียมที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่
9 ต.ค. 49 รอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันเมื่อวันจันทร์เพิ่มสูงขึ้นโดยน้ำมันดิบของสรอ. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์อยู่ที่บาร์เรลละ 59.96 ดอลลาร์
สรอ. ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ของอังกฤษเพิ่มขึ้น 71 เซนต์อยู่ที่ บาร์เรลละ 60.54 ดอลลาร์ สรอ. การทำกำไรดังกล่าวเนื่องจากยังมีความ
ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (OPEC) ทั้งนี้ปัจจุบันราคาน้ำมันลดลงมากกว่าร้อยละ
20 จากที่เคยทำสถิติสูงสุดที่บาร์เรลละ 78.40 ดอลลาร์ สรอ.ในช่วงกลางเดือน ก.ค. ทำให้นาย Edmund Daukoru ประธานกลุ่ม OPEC
ได้มีจดหมายถึงสมาชิกกลุ่ม OPEC เพื่อเสนอให้ลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลจากปริมาณการผลิตวันละประมาณ
27.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามคูเวตเสนอให้ปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงวันละประมาณ 700,000 — 1 ล้านบาร์เรล โดยกลุ่ม OPEC
มีกำหนดที่จะประชุมกันในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ แต่สมาชิกบางส่วนต้องการที่จะประชุมเร่งด่วนในเดือนนี้ ส่วนสมาชิกที่เหลือต้องการลดปริมาณการผลิต
โดยไม่ต้องมีการเผชิญหน้าในการประชุม (รอยเตอร์)
4. เศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวร้อยละ 7.1 ต่อปีในไตรมาสที่ 3 ปี 49 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 10 ต.ค.49 เมื่อ 10 ต.ค.49
จากตัวเลขประมาณการล่วงหน้าโดย ก.การค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัวร้อยละ 7.1 ต่อปีในไตรมาสที่ 3 ปี 49
ดีกว่าที่รอยเตอร์คาดไว้ที่ร้อยละ 2.0 ต่อปีมาก และดีกว่าไตรมาสที่ 2 ปี 49 ซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อปี ทั้งนี้ตัวเลขประมาณการ
ล่วงหน้าดังกล่าวข้างต้นได้มาจากการคำนวณตัวเลขของเดือน ก.ค.และ ส.ค.49 โดย Economic Survey of Singapore มีกำหนดจะ
รายงานตัวเลข GDP เบื้องต้นของไตรมาสที่ 3 ปี 49 ในเดือน พ.ย.49 นี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 10 ต.ค. 49 9 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.581 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.3720/37.6683 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12438 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 692.26/8.68 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,250/10,350 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 55.64 55.84 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--