สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่2(เมษายน—มิถุนายน)พ.ศ.2549 อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 13, 2006 14:33 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

1.  ภาวะทั่วไปของอุตสาหกรรม
ภาวะการผลิตในสินค้าอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมของไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ค่อนข้างทรงตัว โดยเมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.13 และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัว
เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.06 เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากของสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮาร์ตดิสไดรฟ์ (HDD) และ IC ในขณะที่
การผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าค่อนข้างทรงตัวร้อยละ 0.88 โดยลดลงในสินค้าในรายการต่างๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว
และเครื่องรับโทรทัศน์สีขนาดเล็ก เป็นต้น โดยในส่วนของเครื่องปรับอากาศยังคงทรงตัวในการผลิตเพื่อส่งออกตลาดสำคัญต่างๆ เช่น ในตลาดยุโรป
จากคำสั่งซื้อที่ชะลอตัว เนื่องจากในปีนี้มีการบังคับใช้กฎระเบียบ RoHS ทำให้ต้องรีบระบายสินค้าเก่าออกขายก่อนจึงมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามา ส่วนกระติก
น้ำร้อน และหม้อหุงข้าว ที่ปรับตัวลดลงเป็นเพราะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากสินค้าจีน โดยพบว่ามูลค่านำเข้าในส่วนเครื่องทำน้ำร้อนด้วยไฟฟ้า
หรือกระติกน้ำร้อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ภาวะการส่งออกไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ปรับตัวดีขึ้น โดยมีมูลค่าการส่งออกรวม 380,342 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11 เทียบกับไตร
มาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 19 ในขณะที่สินค้าไฟฟ้าหลายตัวมีมูลค่าการส่งออกลด
ลง เช่น เครื่องปรับอากาศ เตาอบไมโครเวป หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดเล็ก เป็นต้น ในขณะที่การนำเข้าในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 มีมูลค่า
305,213 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกหมวดสินค้าทั้งสินค้าเครื่องใช้
ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนประกอบเครื่องรับโทรทัศน์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 138 ทั้งนี้เนื่องจากชิ้นส่วนสำคัญในการประกอบ
เครื่องรับโทรทัศน์ในปัจจุบัน เช่น จอ LCD ยังไม่สามารถผลิตได้ในไทยทำให้ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศผู้ผลิตสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ เช่น ประเทศญี่ปุ่นพบว่าภาวะการผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
ยังคงทรงตัวเช่นกัน โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ในกลุ่ม HouseHold
Electrical Machinery ซึ่งรายงานโดย Ministry of Economic, Trade and Industry ประเทศญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเล็กน้อยร้อยละ
1 จากเครื่องปรับอากาศ กล้องวีดีโอ และกล้องถ่ายรูปดิจิทัล เป็นต้น ในขณะที่เมื่อพิจารณามูลค่าการจำหน่าย Semiconductor ของภูมิภาค
ต่างๆ ของโลกพบว่ามีมูลค่าการจำหน่ายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดย Semiconductor Industry Association (SIA) ได้
รายงานการจำหน่าย Semiconductor ของตลาดโลกในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 มีมูลค่าจำหน่ายประมาณ 59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ
9 จากสินค้าในกลุ่มของ Personal Computer และ Cellular Phone ส่วนมูลค่าการจำหน่าย 6 เดือนแรกปี 2549 มีมูลค่าถึง 118 พันล้าน
เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปี 2548 แม้ว่าจะต้องประสบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงขึ้นและภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่าง
รุนแรงในหลายๆภูมิภาคก็ตาม
แนวโน้มภาวะการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 มีโอกาสจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี
2549 เนื่องจากจะเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของการส่งออกโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามการเจริญเติบโตของสินค้า
เทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังคงได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบของอียูซึ่งเป็นตลาดหลักในการส่งออกซึ่งผู้
ประกอบการไทยต้องปรับตัวในการรับมือกับกฎระเบียบดังกล่าว นอกจากนี้ ปัจจัยราคาน้ำมันที่ยังคงผันผวนและอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโต
ของการบริโภคสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมของโลกให้ลดลงได้
2. อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
2.1 การผลิต
ภาวะการผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยดัชนีผลผลิตปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ
6 และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนชะลอตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการผลิตลดลงเกือบทุกประเภทสินค้า โดย
เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน คอนเดนซิ่งยูนิตมีการผลิตลดลงร้อยละ 13 และเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน แฟนคอยด์ยูนิตลดลงร้อยละ 9 เนื่องจาก
คำสั่งซื้อที่ลดลงในตลาดยุโรป เนื่องจากการบังคับของกฎระเบียบอียูที่เริ่มบังคับใช้ในวนที่ 1 ก.ค. 49 ดังนั้นจึงต้องเร่งระบายสินค้าของเดิมก่อนการ
บังคับใช้ จึงมีคำสั่งซื้อเข้ามาใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบการไทยอยู่ในช่วงของการปรับตัวรองรับกฎระเบียบเช่นกัน
สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็ก เช่น กระติกน้ำร้อน และหม้อหุงข้าว มีการผลิตลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ร้อยละ 6 และ 16 ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงในส่วนของการผลิตเพื่อส่งออกและตลาดในประเทศเนื่องจากต้องแข่งขันกับสินค้าจากจีนที่มี
ราคาถูกกว่า ซึ่งพบว่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ไทยมีมูลค่านำเข้ากระติกน้ำร้อนและหม้อหุงข้าวจากจีน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 และ 18
ตามลำดับ และเครื่องรับโทรทัศน์ขนาดเล็กที่มีการผลิตที่ลดลง เนื่องจากความนิยมในตัวสินค้าเครื่องรับโทรทัศน์ขนาดใหญ่ประกอบกับราคาที่ลดลงมาก
ของเครื่องรับโทรทัศน์ขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีการผลิตเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า (Household electrical machinary) ของประเทศญี่ปุ่นไตร
มาสที่ 2 ปี 2549 ซึ่งรายงานโดย Ministry of Economic, Trade and Industry ประเทศญี่ปุ่น พบว่าดัชนีผลผลิตมีการปรับตัวลดลง
เล็กน้อยร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และปรับตัวลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยปรับตัวลดลงจากสินค้าไมโคร
เวปและเครื่องเล่น DVD มีดัชนีผลผลิตปรับตัวลดลงร้อยละ 22 และ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ดัชนีผลผลิตที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นใน
ส่วนของสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูง เช่น จอภาพ LCD มีการผลิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46 และกล้องถ่ายรูปดิจิดตอล ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตารางที่ 1 แสดงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2549
สินค้า ดัชนีผลผลิต การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ
ไตรมาส 2 ปี 2549 ไตรมาส1 ปี 49(ร้อยละ) ไตรมาส 2 ปี 48 (ร้อยละ)
เครื่องใช้ไฟฟ้า 137.89 6.42 0.88
เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน 280.55 9.87 -12.92
คอนเดนซิ่งยูนิตเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน 274.51 14.03 -8.52
แฟนคอยล์ซิ่งยูนิตคอมเพรสเซอร์ 148.95 -2.85 5.33
พัดลม 45.46 8.05 16.39
ตู้เย็น 218.26 2.52 10.08
กระติกน้ำร้อน 119.88 -26.55 -5.69
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า 83.43 -9.88 -16.26
สายไฟฟ้า 140.22 -8.37 13.57
โทรทัศน์สี (ขนาดจอเล็กกว่า 20 นิ้ว) 46.31 -2.26 -27.6
โทรทัศน์สี (ขนาดจอ 21 นิ้ว หรือมากกว่า) 314.26 18.01 31.39
ตารางที่ 2 แสดงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นไตรมาสที่ 2 ปี 2549
ดัชนีผลผลิตไตรมาส 2 การเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลง
ปี 2549 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2
ปี 2549(ร้อยละ) ปี2548(ร้อยละ)
Household electrical machinary 72.8 -1 -4
เครื่องปรับอากาศ 78.5 -6 -2
ไมโครเวป 25.7 25 -22
หม้อหุงข้าว 93.1 11 1
ตู้เย็น 62 -3 -8
พัดลม 82.1 -2 -2
เครื่องซักผ้า 59 2 -10
เครื่องรับโทรทัศน์สี n/a n/a n/a
LCD 732.3 -1 46
เครื่องเล่น DVD 29.3 -5 -24
กล้องวีดีโอ Digital 85.9 -19 -11
กล้องถ่ายรูป Digital 394.4 12 33
ที่มา : Ministry of Economic , Trade and Industry , Japan
2.2 การตลาด
จากรายงานดัชนีการส่งสินค้าของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพบว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ดัชนีการส่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับ
ตัวเพิ่มขึ้น โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นสินค้าปรับ
ตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เนื่องจากการขายในประเทศที่มีการขยายตัวจากกระแสฟุตบอลโลกและพัดลม 17 เมื่อเทียบกับ
ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นต้น
ตารางที่ 3 แสดงดัชนีการส่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2549
สินค้า ดัชนีการส่งสินค้า การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ
ไตรมาส 2 ปี 2549 ไตรมาส 1 ปี 49(ร้อยละ) ไตรมาส 2 ปี 48 (ร้อยละ)
เครื่องใช้ไฟฟ้า 91.95 9 1
เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน คอนเดนซิ่งยูนิต 282.64 8 -14
เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน แฟนคอยล์ซิ่งยูนิต 288.43 21 -9
คอมเพรสเซอร์ 171.89 -3 0
พัดลม 51.49 16 17
ตู้เย็น 218.06 3 9
กระติกน้ำร้อน 120.79 -25 1
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า 83.82 -9 -15
สายไฟฟ้า 133.85 -8 12
โทรทัศน์สี (ขนาดจอเล็กกว่า 20 นิ้ว) 49.38 5 -23
โทรทัศน์สี (ขนาดจอ 21 นิ้ว หรือมากกว่า) 316.04 20 33
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
เปรียบเทียบกับดัชนีส่งสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่น พบว่ายังคงปรับตัวลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
และลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากสินค้าเครื่องปรับอากาศ เครื่องรับโทรทัศน์ และเครื่องเล่น DVDที่มีการส่งสินค้าลดลง
มาก
ตารางที่ 4 แสดงดัชนีส่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่น ไตรมาสที่ 2 ปี 2549
ดัชนีการส่งสินค้า การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ
ไตรมาส 2 ปี 2549 ไตรมาส 1/2549 (ร้อยละ) ไตรมาส 2/2548(ร้อยละ)
Household electrical machinary 91.4 -3 -4
เครื่องปรับอากาศ 80.8 -8 -11
ไมโครเวป 103.1 5 -4
เครื่องซักผ้า 99.6 1 0
หม้อหุงข้าว 103.6 -4 -1
ตู้เย็น 87.9 0 -2
พัดลม 88.2 -6 -2
เครื่องรับโทรทัศน์ 30.9 -11 -38
LCD 654.5 -1 36
เครื่องเล่น DVD 235.9 -1 -9
กล้องวีดีโอ Digital 102.1 -22 -7
กล้องถ่ายรูป Digital 453.9 6 27
ที่มา : Ministry of Economic , Trade and Industry , Japan
ตลาดส่งออก
การส่งออกสินค้าไฟฟ้าของไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 มีมูลค่า 141,639 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาส
ก่อน และลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดหลักของการส่งออกได้แก่ ตลาดสหรัฐอเมริกามีมูลค่าส่งออก 27,614
ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ร้อยละ 15 และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน พบว่าตลาดนี้ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ถึงร้อย
ละ 12 ขณะที่ตลาดส่งออกหลักของไทยอื่นๆ ได้แก่ ตลาดอียู มีมูลค่าส่งออกเพียง 21,078 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
ก่อน อาจเนื่องมาจากสินค้าบางตัว เช่น เครื่องปรับอากาศที่มียอดส่งออกมากที่สุดในสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดมีการส่งออกลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส
เดียวกันของปีก่อน ซึ่งในตลาดอียูนี้เป็นตลาดหลักในการส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทย ประกอบกับกฎระเบียบของอียูที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1
กรกฎาคม 2549 ทำให้ต้องเร่งระบายสินค้าเก่าออกไปก่อนการสั่งซื้อในรอบใหม่ขณะที่ มูลค่าส่งออกเครื่องปรับอากาศลดลงในตลาดจีนเช่นกันซึ่งที่เป็น
ไปได้ว่าจะทำการส่งออกผ่านตลาดกลาง เช่น ฮ่องกง แล้วส่งไปขายต่อยังจีนโดยพบว่า ในตลาดฮ่องกง มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับ
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีก่อน
สินค้าที่มีการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์มีมูลค่า 18,854
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ซึ่งขยายตัวในตลาดสหรัฐอเมริกา และ EU ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 และ 24 ตามลำดับ จากกระแสฟุตบอลโลกที่ผ่านไป
นอกจากนี้ ยังคงขยายตัวในตลาดอินเดียถึงร้อยละ 35 รองลงมาคือ ตู้เย็น มีมูลค่า 6,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ขณะที่สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก
สูงแต่กลับชะลอตัวในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2549ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าส่งออก 22,954 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีก่อน
ตารางที่ 5 มูลค่าสินค้าไฟฟ้าที่มีการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรกของไทย ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2549
รายการสินค้า มูลค่าส่งออกไตรมาส 2 การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ
ปี 2549 (ล้านบาท) กับไตรมาส 1 ปี 2549 ไตรมาส 2 ปี 2548
- เครื่องไฟฟ้ารวม 141,639 2 -1
- เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย โรงงาน 22,954 -7 -15
- เครื่องรับโทรทัศน์สี 18,854 56 26
- เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า
รวมถึงแป้นและแผงควบคุม(ฟิวส์,สวิตช์,ปลั๊ก,socket) 11,452 -10 -15
- ตู้เย็น ใช้ตามบ้านเรือน 6,874 -4 14
- ส่วนประกอบเครื่องรับโทรทัศน์
(สายอากาศ,ตู้วิทยุหรือโทรทัศน์) 6,540 -2 -19
ที่มา: สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
2.3 การนำเข้า
การนำเข้าสินค้าไฟฟ้าของไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 มีมูลค่าทั้งสิ้น 109,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสินค้าที่ไทยมีการนำเข้ามาก ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องรับโทรทัศน์ (สายอากาศ,ตู้
วิทยุหรือโทรทัศน์) มูลค่า 11,969 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 138 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อาจเนื่องมาจากชิ้นส่วนสำคัญในการประกอบ
เครื่องรับโทรทัศน์ในปัจจุบัน เช่น จอ LCD ยังไม่สามารถผลิตได้ในไทยทำให้ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจากตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
จากปีก่อนในช่วง 6 เดือนแรก ถึงร้อยละ 30
รองลงมาคือเทปแม่เหล็กและจานแม่เหล็ก,แผ่น CD สำหรับบันทึกเสียง, ภาพ มูลค่า 16,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ซึ่งการที่
สินค้าเทปแม่เหล็กและจานแม่เหล็ก,แผ่น CD สำหรับบันทึกเสียง ,ภาพ มีมูลค่านำเข้าขยายตัวอย่างมากดังกล่าวเนื่องจากปัจจุบันมีการใช้แผ่น CD
อย่างแพร่หลาย และใช้แทนสื่อบันทึกชนิดอื่นๆ เช่น วีดีโอเทป และเทปคาสเซ็ต รวมถึง Floppy Disk มากขึ้น
ตารางที่ 5 มูลค่าสินค้าไฟฟ้าที่มีการนำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรกของไทย ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2549
รายการสินค้า มูลค่าส่งออกไตรมาส 2 การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ
ปี 2549 (ล้านบาท) ไตรมาส 1 ปี 2549 ไตรมาส 2 ปี 2548
- เครื่องใช้ไฟฟ้ารวม 109,139 3 8
- เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า
รวมถึงแป้นและแผงควบคุม(ฟิวส์,สวิตช์,ปลั๊ก,socket) 19,616 -0.06 -2
- เทปแม่เหล็กและจานแม่เหล็ก,แผ่น CD สำหรับบันทึกเสียง ,ภาพ 16,320 -6 11
- ส่วนประกอบเครื่องรับโทรทัศน์ (สายอากาศ,ตู้วิทยุหรือโทรทัศน์) 11,969 57 138
สายไฟ ชุดสายไฟ 5,439 -11 -3
- หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (เกิน 1KV แต่ไม่เกิน 10,000 KVA) 3,953 29 23
ที่มา: สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
3. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
3.1 การผลิต
ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ขยายตัวเล็กน้อย โดยจากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจ
อุตสาหกรรม พบว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส ที่ 2 ลดลงร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาส
เดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 โดยสินค้าที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก คือ Other IC , HDD และ Monolithic IC เพิ่มขึ้นร้อยละ
39 17 และ 14 ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายคอมพิวเตอร์ในตลาดโลกของไตรมาสที่ 2 ปี 2549 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ความต้องการโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ถึงร้อยละ
10 ส่วนสินค้าที่มีการปรับตัวลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังคงเป็นหลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์ (CRT) ลดลงมากถึงร้อยละ 40 ซึ่ง
เป็นการชะลอการผลิตมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น มีการเข้ามาแทนของเทคโนโลยีอื่นๆทำให้การผลิตลดลง รวมถึงราคาของ
จอประเภท LCD/Plasma ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของจอ CRT ลดลง อย่างไรก็ตามแนวโน้มจะมีการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจาก
ประเทศจีนผลิต CRT ไม่ทันกับความต้องการ ทำให้เริ่มมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามา โดยในในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 มีการส่งออกไปยังตลาดจีน เพิ่ม
สูงขึ้นมากถึงร้อยละ 271 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
3.2 การตลาด
ภาวะตลาดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 2 ปี2549 มีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยจากรายงานดัชนีการส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพบว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนภาวะตลาดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ 2 เนื่องจากไตรมาสที่ผ่าน
มาได้ส่งสินค้าเพื่อป้อนตลาดในช่วงต้นปีแล้วประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้มีวันทำการน้อยกว่าปกติ และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการ
ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16 โดยเป็นผลมาจากการขยายตัวของ Other IC , HDD และ Monolithic IC ร้อยละ 41 18 และ 11
ตามลำดับ
เมื่อพิจารณามูลค่าการจำหน่าย Semiconductor ของตลาดโลกในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 จากการรายงานของ
Semiconductor Industry Association (SIA) พบว่ามีการขยายตัวเล็กน้อย โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 มีมูลค่าการจำหน่าย
ประมาณ 59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเล็กน้อยร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
พบว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9.4 ซึ่งเป็นผลจากความต้องการสินค้าในกลุ่ม Personal Computer , Cell Phone ที่เพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่องและยังมีการนำ Semiconductor ไปใช้ในสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Product) มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ชิ้นส่วน
อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ตลาดส่งออก
จากสถิติการส่งออกซึ่งรวบรวมโดยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พบว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 มีมูลค่า
238,703 ล้านบาท ทรงตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยสินค้าที่มีการปรับลดลงได้แก่ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์
วงจรพิมพ์ (Printed Circuit) ลดลงร้อยละ 4 และ 6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
สำหรับการส่งออกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 โดยสินค้าสำคัญที่ผลักดันให้มีการขยายตัว คือ ส่วน
ประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ วงจรรวมและ ไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) และไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่ง
ตัวนำ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 33 และ 50 ตามลำดับ โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐและอียูที่มีการขยายตัวสูงมากโดยมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงขึ้น
จึงได้รวมไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำไว้ใน IC ด้วยแล้ว
ตลาดส่งออกที่สำคัญของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 ได้แก่ ตลาดอาเซียน มีมูลค่าส่งออก 43,562 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ ร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ตลาดอาเซียนเป็นตลาดสำคัญที่มีสัดส่วน
การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์สูงถึงร้อยละ 18 ของการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนการส่งออกในไตรมาส 2 ปี
2549 ที่ร้อยละ 17 ของการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด
3.3 การนำเข้า
จากรายงานการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 พบว่ามีมูลค่ารวม 196,074 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียง
ร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยสินค้าสำคัญที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก คือ IC วงจรพิมพ์ และ Mobile Phone เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 1
และ 1 ตามลำดับ
สำหรับการนำเข้าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากถึงร้อยละ 7 โดยสินค้าที่มีการนำเข้ามากยังคงเป็น วงจร
พิมพ์ (Printed Circuit) ขยายตัวถึงร้อยละ 14 ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการส่งออกลดลง ขณะที่มีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่ามีการลดการผลิตแผ่น
(ยังมีต่อ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ