วันนี้(11พย.49) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริตพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันจันทร์ที่ 13 พ.ย. นี้ ตนจะไปยื่นหนังสือให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย ว่ามีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ เนื่องจากนางเยาวภา เป็นบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา 4 ของพ.ร.บ.ป.ป.ช. และน่าเชื่อว่ามีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 66 ของพ.ร.บ.เดียวกัน โดยได้ซุกทรัพย์สินไว้กับลูกทั้ง 3 คน คือ 1.นายยศชนันท์ 2.น.ส.ชิณนิชา 3.น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ รวมทั้งนางสุนิสา ปฐมพฤกษ์ (นามสกุลเดิมคือ เวชชัย) ใน 3 ประเด็น คือ 1. การถือหุ้นในโครงการหมู่บ้านชินณิชา วิลล์ 2. การซื้อที่ดินจำนวน 8 ไร่ มูลค่า 256 ล้านบาท ในหมู่บ้านชินณิชา วิลล์ และ 3. การซื้อซื้อหุ้นของบริษัท 4 แห่ง เป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ดำเนินการให้เกิดความคลางแคลงใจกับสังคมอย่างมาก เพราะไม่ยอมใช้อำนาจตามกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่สามารถสั่งอายัดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งครอบครัวและอดีตครม. ที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณ ซึ่งถือเป็นมาตรการแรกของการดำเนินการในการปราบปรามการทุจริต จึงทำให้สังคมคลางแคลงใจ และคตส.ควรจะตอบคำถามของสังคมให้ได้ ซึ่งตนสังเกตว่าทั้งป.ป.ช.และคตส. ยังคงใช้มาตรฐานของกฎหมายอาญา ที่ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน ถึงจะดำเนินการได้ ซึ่งไม่เหมาะสมกับการตรวจสอบการทุจริต เพราะเหมือนกับการเรียกหาใบเสร็จ ทั้งที่ในกฎหมายป.ป.ช.ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า เพียงแค่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการทุจริตก็เพียงพอแล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 พ.ย. 2549--จบ--
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ดำเนินการให้เกิดความคลางแคลงใจกับสังคมอย่างมาก เพราะไม่ยอมใช้อำนาจตามกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่สามารถสั่งอายัดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งครอบครัวและอดีตครม. ที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณ ซึ่งถือเป็นมาตรการแรกของการดำเนินการในการปราบปรามการทุจริต จึงทำให้สังคมคลางแคลงใจ และคตส.ควรจะตอบคำถามของสังคมให้ได้ ซึ่งตนสังเกตว่าทั้งป.ป.ช.และคตส. ยังคงใช้มาตรฐานของกฎหมายอาญา ที่ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน ถึงจะดำเนินการได้ ซึ่งไม่เหมาะสมกับการตรวจสอบการทุจริต เพราะเหมือนกับการเรียกหาใบเสร็จ ทั้งที่ในกฎหมายป.ป.ช.ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า เพียงแค่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการทุจริตก็เพียงพอแล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 พ.ย. 2549--จบ--