วันนี้ 2 เม.ย. 2549 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค กล่าวถึงในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าแม้ทางพรรคจะไม่ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเพราะต้องการบอยคอตการเลือกตั้งในครั้งนี้ อย่างไรก็ดีทางพรรคได้ตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นี้ได้พบการทุจริตมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการสมัครรับเลือกตั้ง กล่าวคือมีการทุจริตด้วยการจ้างพรรคเล็กบางพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นนับตั้งแต่มีการสมัครรับเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม หลังจากที่ทางพรรคฯ ได้ตรวจสอบและพบว่า มีการทุจริตเลือกตั้งด้วยการจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ในวันนี้ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งทางพรรคฯ ได้มีการรับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน จากสมาชิกพรรคและจากสาขาพรรคทั่วประเทศ โดยเริ่มรับเรื่องร้องเรียนตั้งแต่เช้าถึง 15.00 น. ได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 523 ราย ซึ่งหลังจากเวลา 15.00 น. ยังคงจะมีการร้องเรียนเข้ามาอีกซึ่งพรรคฯ จะได้รวบรวมข้อมูลตัวเลขทั้งหมดและก็แบ่งเรื่องต่างๆ ออกไปเป็นหมวดหมู่ โดยในขั้นต้นพรรคได้พบว่ามีเรื่องร้องเรียนมาทั้งหมด แบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้ เรื่องแรกเรื่องการซื้อเสียง มีการร้องเรียนเรื่องการซื้อเสียงในหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังไม่สามารถระบุจังหวัด เพราะว่าจะมีผลต่อการดำเนินการร้องเรียนต่อกกต.และผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่ร้องเรียนเข้ามา ทางพรรคจำเป็นต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่ว่ายืนยันได้ว่ามีการร้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับการซื้อเสียงในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่องที่สองเรื่องการจัดบริเวณหน่วยเลือกตั้งรวมทั้งคูหาเลือกตั้ง ในการจัดคูหาเลือกตั้งครั้งนี้ ได้จัดตามรูปแบบการจัดคูหาเลือกตั้งที่มีปัญหา มีคูหาหันออกมา ทำให้คนอื่นที่อยู่บริเวณหน่วยเลือกตั้งสามารถมองเห็นว่าผู้ใช้สิทธิ์นั้นกากบาท หมายเลขอะไรหรือกากบาทตรงไหน โดยประเด็นนี้เป็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดเรื่องหนึ่งจากทั่วประเทศ
นายองอาจกล่าวว่า “ผมคิดว่าหลายๆท่านที่ไปลงคะแนนเสียงหรือแม้แต่ผมไปลงคะแนนเสียงเมื่อเช้านี้ ก็เห็นชัดเจนว่าเราสามารถรู้ได้ทันทีว่าสมมติว่าคนที่เขากากบาทอยู่ตรงนี้ เรายืนอยู่ประมาณห่างไปอีกสัก 10 เมตรนอกหน่วย เราจะรู้ว่าถ้าเขากากบาทช่วงที่ไม่ลงคะแนน เขาก็จะเลื่อนบัตรขึ้นไปข้างบน แล้วเขาก็จะกาข้างล่าง ใครก็ตามที่กากบาทในช่วงเบอร์ เขาก็จะเลื่อนบัตรลงมา แล้วเราก็จะสามารถเห็นได้ว่าเขากาอะไร”
ดังนั้นการดำเนินการในเรื่องการจัดคูหาเลือกตั้งนั้นจึงเป็นการดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่น่าจะขัดกับกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 104 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การเลือกตั้งให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ ปรากฏว่าการเลือกตั้งโดยการจัดหน่วยคูหาเลือกตั้งอย่างที่ระบุจึงถือว่าเป็นการจัดการลงคะแนนที่ไม่เป็นการลับตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดตามมาตรา 104
ข้อที่ 3 ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการร้องเรียนเข้ามามากคือเรื่องการใช้สิทธิ์แทนกัน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเมื่อไปถึงหน่วยเลือกตั้งและจะขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่ปรากฏว่ามีบุคคลอื่นมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้ได้รับการร้องเรียนเข้ามามากเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่นที่ในกรุงเทพมหานคร หน่วยเลือกตั้งที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 23 อย่างนี้ เป็นต้น ซึ่งผู้ร้องเข้ามารวมทั้งสาขาพรรคกำลังรวบรวมข้อมูลตรงนี้ และจะดำเนินการตรวจสอบกันต่อไป ถัดมาก็เรื่องข้อที่4 เป็นเรื่องชื่อที่หาย ผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในที่นั้นๆ มีเอกสารหลักฐานครบเรียบร้อยที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่เมื่อไปถึงหน่วยลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามสิทธิที่ตนเองมีอยู่ได้ เพราะปรากฏว่าชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนั้นๆ ได้หายไปจากหน่วยเลือกตั้งนั้น ข้อที่ 5 คือการร้องเรียนเรื่องเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งชี้นำผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยเฉพาะข้อนี้เกิดขึ้นในต่างจังหวัดเกือบทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ตามลำดับ โดยมีลักษณะที่ให้เจ้าหน้าเข้าไปชี้นำให้เลือกเบอร์นั้นเบอร์นี้ และไม่ให้เลือกในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนเป็นต้น ถัดมาข้อที่ 6 คือเรื่อง ไม่มีปากกาให้ผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนน จากกรณีที่ศาลปกครองได้ตัดสินแล้วว่าให้สามารถใช้ทั้งปากกาและตรายางได้ ปรากฏว่า ในหลายหน่วยเลือกตั้งแม้แต่ในกรุงเทพมหานครไม่มีการจัดปากกาไว้ให้ ซึ่งบางหน่วยมีการจัดแต่อีกหลายหน่วยไม่มีการจัดเตรียมปากกาไว้ เพราะฉะนั้นตรงนี้จึงเป็นการไม่ให้ความสะดวกและไม่เป็นไปตามที่ศาลปกครองได้พิจารณาตัดสิน การที่พี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะใช้ปากกานั้นเพราะว่า มีความกังวลเรื่องการใช้ตรายาง เรื่องการใช้สารเคมีที่จะทำให้เมื่อปั๊มตรายางแล้วหมึกสามารถเลือนหายไป ซึ่งเคยปรากฏเป็นข่าวมา จึงทำให้เกิดความวิตกกังวล เรื่องที่7 คือเรื่องของสีบัตรที่มีความคล้ายคลึงกันทั้งส่วนที่เลือกบัญชีรายชื่อและส่วนที่เลือกจากเขตเลือกตั้ง พบได้ในภาคกลาง บัตรบัญชีรายชื่อเกือบทุกภาคของประเทศไทยจะเป็นบัตรสีแดง แต่กรณีของภาคกลางก็จะเป็นสีชมพูแก่ๆคล้ายสีแดง ทำให้ประชาชนเกิดความระแวงสงสัยว่าเป็นบัตรในลักษณะสีที่ใกล้เคียงกัน
ทั้งหมดนี้เป็นประเด็นหลักๆ ที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามาในวันนี้ (2 เม.ย. 49) และยังคงมีเพิ่มเติมตลอดเวลา หลังจากนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์จะรับเรื่องราวร้องเรียนไปเรื่อยๆ การร้องเรียนในเรื่องต่างๆที่เข้ามา สรุปได้ว่าพี่น้องประชาชนมีความวิตกกังวลและก็สงสัยในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ของคณะกรรมการเลือกตั้งว่าเป็นการจัดการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปโดยบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมเพียงพอ นอกจากนั้นในหลายๆพื้นที่ นอกจากจะได้รับมีลักษณะเจ้าหน้าที่ชี้นำแล้ว ก็มีการร้องเรียนในเรื่องของการใช้อำนาจรัฐของเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปใช้อำนาจในการชักชวนชี้นำและบังคับให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในหลายภูมิภาคต้องไม่มีความเป็นอิสระในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สิ่งที่พรรคและก็ตัวแทนของพรรคกำลังจับตาดูอยู่ในขณะนี้ก็คือการนับคะแนนในคืนวันนี้ เรื่องที่คงจะต้องจับตาดู
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า อยากจะฝากพี่น้องประชาชนให้ช่วยจับตาดูด้วยก็คือ ถ้าท่านทั้งหลายมีเวลาว่างอยากจะให้ไปช่วยดูกันที่บริเวณที่นับคะแนนในเขตเลือกตั้งต่างๆเพราะวันนี้ต้องยอมรับว่าองค์กรกลางก็ดี หน่วยงานต่างๆก็ดี รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ เราคงไม่มีบุคลากรมากพอที่จะไปตรวจดูได้ทุกเขตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงอยากให้พี่น้องประชาชนตรวจดูตามเขตเลือกตั้งต่างๆ จุดที่อยากจะให้สังเกตเป็นพิเศษก็คือ การนับคะแนนที่เขตเลือกตั้งใดก็ตาม ประการแรกเมื่อนำบัตรและหีบบัตรมาที่สถานที่นับคะแนนนั้นๆแล้ว จะต้องเอาบัตรที่มาจากหน่วยเลือกตั้งต่างๆมากองรวมกันและคลุกเคล้า เพื่อไม่ให้สามารถรู้ได้ว่าจากแต่ละหน่วยเลือกตั้ง คะแนนเสียงส่วนมากเลือกใครเพราะขณะนี้มีแนวโน้มว่า ในหลายเขตเลือกตั้งในหลายพื้นที่จะใช้วิธีการเมื่อบัตรมาจากหน่วยเลือกตั้งนั้นแล้ว ก็มานับรวม500 บัตรทีเดียว ซึ่งเมื่อ 500 บัตรนั้นไปนับกระดานใดก็ตามจะสามารถรู้ได้ว่าเลือกหรือไม่เลือกใครอย่างไร ตรงนี้ก็ทำให้การเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนไม่เป็นไปโดยบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนต้องเป็นหูเป็นตาและก็ช่วยกันบอกว่าให้เขาต้องเอาบัตรมากองรวมกันทุกหน่วยเลือกตั้งและก็คลุกเคล้า หลังจากนั้นก็เอาบัตรมานับเป็นมัดๆ มัดละ 500 บัตร ตรงนี้ก็จะต้องระมัดระวังเป็นส่วนแรก ระมัดระวังส่วนที่ 2 ก็คือว่า ในกรณีที่มีการกากบาทไว้เรียบร้อยแล้วไม่ว่าวิธีปั๊มหรือวิธีกากบาทด้วยปากกาก็ตาม แล้วก็ใส่ไว้ในถุงเรียบร้อยแล้ว ถุงหนึ่งก็จะมีประมาณ 5 มัด มัดหนึ่งประมาณ 500 บัตร ประมาณ 2,500 ถึงประมาณ 3,000 บัตร ซึ่งจะมีการเปลี่ยนถุงกัน วิธีการเปลี่ยนถุง จะทำได้ก็ต่อเมื่อการนับบัตรทีละ 500 บัตรไปอยู่ในมุมอับที่ผู้สังเกตการณ์หรือพี่น้องประชาชนไม่สามารถมองเห็นได้ หลายกรณีจะใช้เอาฉากกั้น กระดานที่ใช้ในห้องเรียนเรียนหนังสือเลื่อนมาบังไว้หรือกรณีบางกรณีก็ไปอยู่ในห้องต่างหาก ซึ่งคนอื่นไม่สามารถเข้าไปได้ โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีตัวแทนของพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยทั่วไป เช่น คราวนี้ประชาธิปัตย์ ชาติไทย มหาชน ไม่ส่งก็เราก็ไม่มีตัวแทนที่จะเข้าไปอยู่ข้างในได้ เพราะฉะนั้นขณะนี้ก็จะมีตัวแทนเพียงพรรคการเมืองเดียวหรือพรรคการเมืองเล็กๆอีกไม่กี่คนอีกไม่กี่เขตที่สามารถเข้าไปในนั้นได้ ซึ่งแน่นอนที่สุดตัวแทนของพรรคการเมืองเหล่านั้นก็คงไม่ไปตรวจตราดูตรงนี้ว่าจะมีการทุจริตกันหรือไม่ นี่ก็จะเป็นขั้นตอนที่อาจจะมีการทุจริตกันอีกขั้นตอนหนึ่ง ถัดมาก็คือเมื่อมีการขานคะแนนโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่จะต้องได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ต้องจับตาดูว่าการขานคะแนนนั้นจะขานคะแนนตรงกับที่มีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือไม่ เพราะในหลายกรณีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคราวนี้เมื่อไม่มีผู้สังเกตการณ์จากพรรคการเมืองอื่นๆที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง การขานคะแนนก็จะเป็นการขานคะแนนเพื่อช่วยเหลือผู้สมัครพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งก็จะทำให้ผลการเลือกตั้งถูกบิดเบือนออกไป ทั้งหลายทั้งปวงนี้อยากจะเรียนกับพวกเราว่านับตั้งแต่มีการเลือกตั้งมาหลายครั้งหลายหน ครั้งนี้ต้องถือได้ว่าเป็นการเลือกตั้งที่พรรคได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนมากที่สุดในระยะเวลาเดียวกันคือ ตั้งแต่เช้ามาจนถึงประมาณบ่าย 3 โมงเย็นของวันนี้ เป็นการเลือกตั้งที่รับการร้องเรียนมากที่สุด เป็นการเลือกตั้งที่รับการร้องเรียนที่น่าจะไม่สุจริตและเที่ยงธรรมมากที่สุด เป็นการเลือกตั้งที่พี่น้องประชาชนมีความวิตกกังวลว่าจะมีการเข้าด้วยช่วยกันระหว่างคณะกรรมการ ระหว่างกกต.กับพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 เม.ย. 2549--จบ--
นายองอาจกล่าวว่า “ผมคิดว่าหลายๆท่านที่ไปลงคะแนนเสียงหรือแม้แต่ผมไปลงคะแนนเสียงเมื่อเช้านี้ ก็เห็นชัดเจนว่าเราสามารถรู้ได้ทันทีว่าสมมติว่าคนที่เขากากบาทอยู่ตรงนี้ เรายืนอยู่ประมาณห่างไปอีกสัก 10 เมตรนอกหน่วย เราจะรู้ว่าถ้าเขากากบาทช่วงที่ไม่ลงคะแนน เขาก็จะเลื่อนบัตรขึ้นไปข้างบน แล้วเขาก็จะกาข้างล่าง ใครก็ตามที่กากบาทในช่วงเบอร์ เขาก็จะเลื่อนบัตรลงมา แล้วเราก็จะสามารถเห็นได้ว่าเขากาอะไร”
ดังนั้นการดำเนินการในเรื่องการจัดคูหาเลือกตั้งนั้นจึงเป็นการดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่น่าจะขัดกับกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 104 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การเลือกตั้งให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ ปรากฏว่าการเลือกตั้งโดยการจัดหน่วยคูหาเลือกตั้งอย่างที่ระบุจึงถือว่าเป็นการจัดการลงคะแนนที่ไม่เป็นการลับตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดตามมาตรา 104
ข้อที่ 3 ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการร้องเรียนเข้ามามากคือเรื่องการใช้สิทธิ์แทนกัน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเมื่อไปถึงหน่วยเลือกตั้งและจะขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่ปรากฏว่ามีบุคคลอื่นมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้ได้รับการร้องเรียนเข้ามามากเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่นที่ในกรุงเทพมหานคร หน่วยเลือกตั้งที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 23 อย่างนี้ เป็นต้น ซึ่งผู้ร้องเข้ามารวมทั้งสาขาพรรคกำลังรวบรวมข้อมูลตรงนี้ และจะดำเนินการตรวจสอบกันต่อไป ถัดมาก็เรื่องข้อที่4 เป็นเรื่องชื่อที่หาย ผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในที่นั้นๆ มีเอกสารหลักฐานครบเรียบร้อยที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่เมื่อไปถึงหน่วยลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามสิทธิที่ตนเองมีอยู่ได้ เพราะปรากฏว่าชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนั้นๆ ได้หายไปจากหน่วยเลือกตั้งนั้น ข้อที่ 5 คือการร้องเรียนเรื่องเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งชี้นำผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยเฉพาะข้อนี้เกิดขึ้นในต่างจังหวัดเกือบทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ตามลำดับ โดยมีลักษณะที่ให้เจ้าหน้าเข้าไปชี้นำให้เลือกเบอร์นั้นเบอร์นี้ และไม่ให้เลือกในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนเป็นต้น ถัดมาข้อที่ 6 คือเรื่อง ไม่มีปากกาให้ผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนน จากกรณีที่ศาลปกครองได้ตัดสินแล้วว่าให้สามารถใช้ทั้งปากกาและตรายางได้ ปรากฏว่า ในหลายหน่วยเลือกตั้งแม้แต่ในกรุงเทพมหานครไม่มีการจัดปากกาไว้ให้ ซึ่งบางหน่วยมีการจัดแต่อีกหลายหน่วยไม่มีการจัดเตรียมปากกาไว้ เพราะฉะนั้นตรงนี้จึงเป็นการไม่ให้ความสะดวกและไม่เป็นไปตามที่ศาลปกครองได้พิจารณาตัดสิน การที่พี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะใช้ปากกานั้นเพราะว่า มีความกังวลเรื่องการใช้ตรายาง เรื่องการใช้สารเคมีที่จะทำให้เมื่อปั๊มตรายางแล้วหมึกสามารถเลือนหายไป ซึ่งเคยปรากฏเป็นข่าวมา จึงทำให้เกิดความวิตกกังวล เรื่องที่7 คือเรื่องของสีบัตรที่มีความคล้ายคลึงกันทั้งส่วนที่เลือกบัญชีรายชื่อและส่วนที่เลือกจากเขตเลือกตั้ง พบได้ในภาคกลาง บัตรบัญชีรายชื่อเกือบทุกภาคของประเทศไทยจะเป็นบัตรสีแดง แต่กรณีของภาคกลางก็จะเป็นสีชมพูแก่ๆคล้ายสีแดง ทำให้ประชาชนเกิดความระแวงสงสัยว่าเป็นบัตรในลักษณะสีที่ใกล้เคียงกัน
ทั้งหมดนี้เป็นประเด็นหลักๆ ที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามาในวันนี้ (2 เม.ย. 49) และยังคงมีเพิ่มเติมตลอดเวลา หลังจากนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์จะรับเรื่องราวร้องเรียนไปเรื่อยๆ การร้องเรียนในเรื่องต่างๆที่เข้ามา สรุปได้ว่าพี่น้องประชาชนมีความวิตกกังวลและก็สงสัยในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ของคณะกรรมการเลือกตั้งว่าเป็นการจัดการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปโดยบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมเพียงพอ นอกจากนั้นในหลายๆพื้นที่ นอกจากจะได้รับมีลักษณะเจ้าหน้าที่ชี้นำแล้ว ก็มีการร้องเรียนในเรื่องของการใช้อำนาจรัฐของเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปใช้อำนาจในการชักชวนชี้นำและบังคับให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในหลายภูมิภาคต้องไม่มีความเป็นอิสระในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สิ่งที่พรรคและก็ตัวแทนของพรรคกำลังจับตาดูอยู่ในขณะนี้ก็คือการนับคะแนนในคืนวันนี้ เรื่องที่คงจะต้องจับตาดู
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า อยากจะฝากพี่น้องประชาชนให้ช่วยจับตาดูด้วยก็คือ ถ้าท่านทั้งหลายมีเวลาว่างอยากจะให้ไปช่วยดูกันที่บริเวณที่นับคะแนนในเขตเลือกตั้งต่างๆเพราะวันนี้ต้องยอมรับว่าองค์กรกลางก็ดี หน่วยงานต่างๆก็ดี รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ เราคงไม่มีบุคลากรมากพอที่จะไปตรวจดูได้ทุกเขตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงอยากให้พี่น้องประชาชนตรวจดูตามเขตเลือกตั้งต่างๆ จุดที่อยากจะให้สังเกตเป็นพิเศษก็คือ การนับคะแนนที่เขตเลือกตั้งใดก็ตาม ประการแรกเมื่อนำบัตรและหีบบัตรมาที่สถานที่นับคะแนนนั้นๆแล้ว จะต้องเอาบัตรที่มาจากหน่วยเลือกตั้งต่างๆมากองรวมกันและคลุกเคล้า เพื่อไม่ให้สามารถรู้ได้ว่าจากแต่ละหน่วยเลือกตั้ง คะแนนเสียงส่วนมากเลือกใครเพราะขณะนี้มีแนวโน้มว่า ในหลายเขตเลือกตั้งในหลายพื้นที่จะใช้วิธีการเมื่อบัตรมาจากหน่วยเลือกตั้งนั้นแล้ว ก็มานับรวม500 บัตรทีเดียว ซึ่งเมื่อ 500 บัตรนั้นไปนับกระดานใดก็ตามจะสามารถรู้ได้ว่าเลือกหรือไม่เลือกใครอย่างไร ตรงนี้ก็ทำให้การเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนไม่เป็นไปโดยบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนต้องเป็นหูเป็นตาและก็ช่วยกันบอกว่าให้เขาต้องเอาบัตรมากองรวมกันทุกหน่วยเลือกตั้งและก็คลุกเคล้า หลังจากนั้นก็เอาบัตรมานับเป็นมัดๆ มัดละ 500 บัตร ตรงนี้ก็จะต้องระมัดระวังเป็นส่วนแรก ระมัดระวังส่วนที่ 2 ก็คือว่า ในกรณีที่มีการกากบาทไว้เรียบร้อยแล้วไม่ว่าวิธีปั๊มหรือวิธีกากบาทด้วยปากกาก็ตาม แล้วก็ใส่ไว้ในถุงเรียบร้อยแล้ว ถุงหนึ่งก็จะมีประมาณ 5 มัด มัดหนึ่งประมาณ 500 บัตร ประมาณ 2,500 ถึงประมาณ 3,000 บัตร ซึ่งจะมีการเปลี่ยนถุงกัน วิธีการเปลี่ยนถุง จะทำได้ก็ต่อเมื่อการนับบัตรทีละ 500 บัตรไปอยู่ในมุมอับที่ผู้สังเกตการณ์หรือพี่น้องประชาชนไม่สามารถมองเห็นได้ หลายกรณีจะใช้เอาฉากกั้น กระดานที่ใช้ในห้องเรียนเรียนหนังสือเลื่อนมาบังไว้หรือกรณีบางกรณีก็ไปอยู่ในห้องต่างหาก ซึ่งคนอื่นไม่สามารถเข้าไปได้ โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีตัวแทนของพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยทั่วไป เช่น คราวนี้ประชาธิปัตย์ ชาติไทย มหาชน ไม่ส่งก็เราก็ไม่มีตัวแทนที่จะเข้าไปอยู่ข้างในได้ เพราะฉะนั้นขณะนี้ก็จะมีตัวแทนเพียงพรรคการเมืองเดียวหรือพรรคการเมืองเล็กๆอีกไม่กี่คนอีกไม่กี่เขตที่สามารถเข้าไปในนั้นได้ ซึ่งแน่นอนที่สุดตัวแทนของพรรคการเมืองเหล่านั้นก็คงไม่ไปตรวจตราดูตรงนี้ว่าจะมีการทุจริตกันหรือไม่ นี่ก็จะเป็นขั้นตอนที่อาจจะมีการทุจริตกันอีกขั้นตอนหนึ่ง ถัดมาก็คือเมื่อมีการขานคะแนนโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่จะต้องได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ต้องจับตาดูว่าการขานคะแนนนั้นจะขานคะแนนตรงกับที่มีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือไม่ เพราะในหลายกรณีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคราวนี้เมื่อไม่มีผู้สังเกตการณ์จากพรรคการเมืองอื่นๆที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง การขานคะแนนก็จะเป็นการขานคะแนนเพื่อช่วยเหลือผู้สมัครพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งก็จะทำให้ผลการเลือกตั้งถูกบิดเบือนออกไป ทั้งหลายทั้งปวงนี้อยากจะเรียนกับพวกเราว่านับตั้งแต่มีการเลือกตั้งมาหลายครั้งหลายหน ครั้งนี้ต้องถือได้ว่าเป็นการเลือกตั้งที่พรรคได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนมากที่สุดในระยะเวลาเดียวกันคือ ตั้งแต่เช้ามาจนถึงประมาณบ่าย 3 โมงเย็นของวันนี้ เป็นการเลือกตั้งที่รับการร้องเรียนมากที่สุด เป็นการเลือกตั้งที่รับการร้องเรียนที่น่าจะไม่สุจริตและเที่ยงธรรมมากที่สุด เป็นการเลือกตั้งที่พี่น้องประชาชนมีความวิตกกังวลว่าจะมีการเข้าด้วยช่วยกันระหว่างคณะกรรมการ ระหว่างกกต.กับพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 เม.ย. 2549--จบ--