นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนตุลาคม 2549 ว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกที่ขยายตัวในระดับสูง ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกยังอยู่ระดับแข็งแกร่งมาก โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือนตุลาคม 2549 ยังคงได้รับปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการส่งออกที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกยังอยู่ระดับแข็งแกร่งมาก โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจภายนอกในเดือนตุลาคมได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนภาคการส่งออกของไทย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง สำหรับเครื่องชี้ภาคการคลังพบว่าการจัดเก็บรายได้ขยายตัวสูงขึ้น ในขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลหดตัวลง โดยรายได้จัดเก็บสุทธิของรัฐบาลในเดือนตุลาคม 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 106.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ร้อยละ 31.3 ต่อปี ขณะที่ด้านรายจ่ายงบประมาณในเดือนตุลาคม 2549 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 89.5 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ -26.7 ต่อปี เนื่องจากการเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบประมาณ 2550 อยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 5,732 ล้านบาท
เครื่องชี้ในด้านอุปทานพบว่า การผลิตภาคเกษตรในเดือนตุลาคมหดตัวลงจากเดือนก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ -9.0 ต่อปี เนื่องมาจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางส่งผลให้ผลผลิตการเกษตรโดยเฉพาะข้าวนาปีได้รับความเสียหายมาก ส่วนดัชนีราคาสินค้าเกษตรหดตัวลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ -5.8 เนื่องจากราคายางพาราที่สูงขึ้นตามอุปสงค์จากต่างประเทศ และราคาสินค้าในหมวดพืชผักที่มีราคาสูงขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ ขณะที่เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรมบ่งชี้ถึงสภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยมูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในเดือนตุลาคมขยายตัวร้อยละ 13.9 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.6 ต่อปี ในเดือนก่อน และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคมขยายตัวร้อยละ 5.7 ต่อปีขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.3 ต่อปีในเดือน
ก่อน สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวพบว่าขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี ชะลอลงจากร้อยละ 13.5 ต่อปีในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงกลางเดือนกันยายน
เครื่องชี้การใช้จ่ายภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนจากรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวที่ร้อยละ 8.5 ต่อปี ในเดือนตุลาคม สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ตามมูลค่าการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในสกุลเงินเหรียญสหรัฐขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปีในเดือนตุลาคม ลดลงจากร้อยละ 12.9 ต่อปีในเดือนกันยายน การลงทุนภาคเอกชนในด้านก่อสร้างปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชนในภาคก่อสร้าง จากภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมในเดือนตุลาคมขยายตัวร้อยละ 9.7
ต่อปีเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 1 ต่อปี อย่างไรก็ตามเครื่องชี้การลงทุนด้านเครื่องมือเครื่องจักร โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนมีแนวโน้มชะลอลง โดยหดตัวที่ร้อยละ - 2.7 ต่อปีในเดือนตุลาคม
มูลค่าการส่งออกเดือนตุลาคมยังคงขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 11,500.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.1 ต่อปี สำหรับมูลค่าการนำเข้ามูลค่าการนำเข้ายังคงขยายตัวในอัตราที่ทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการนำเข้าเดือนตุลาคมมีมูลค่าทั้งสิ้น 10,690 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปี ทำให้ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จำนวน 810.4 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากมูลค่าการส่งออกที่สูงกว่ามูลค่าการนำเข้าในเดือนตุลาคม
เสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยทั้งภายในและภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคงดี โดยในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศพบว่าทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 61.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 62.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนตุลาคม ในขณะที่เสถียรภาพภายในประเทศ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคมปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ซึ่งไม่รวมดัชนีราคาอาหารสดและพลังงาน ในเดือนตุลาคม 2548 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 1.8 ต่อปี
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 27/2549 29 พฤศจิกายน 2549--
ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือนตุลาคม 2549 ยังคงได้รับปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการส่งออกที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกยังอยู่ระดับแข็งแกร่งมาก โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจภายนอกในเดือนตุลาคมได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนภาคการส่งออกของไทย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง สำหรับเครื่องชี้ภาคการคลังพบว่าการจัดเก็บรายได้ขยายตัวสูงขึ้น ในขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลหดตัวลง โดยรายได้จัดเก็บสุทธิของรัฐบาลในเดือนตุลาคม 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 106.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ร้อยละ 31.3 ต่อปี ขณะที่ด้านรายจ่ายงบประมาณในเดือนตุลาคม 2549 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 89.5 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ -26.7 ต่อปี เนื่องจากการเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบประมาณ 2550 อยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 5,732 ล้านบาท
เครื่องชี้ในด้านอุปทานพบว่า การผลิตภาคเกษตรในเดือนตุลาคมหดตัวลงจากเดือนก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ -9.0 ต่อปี เนื่องมาจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางส่งผลให้ผลผลิตการเกษตรโดยเฉพาะข้าวนาปีได้รับความเสียหายมาก ส่วนดัชนีราคาสินค้าเกษตรหดตัวลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ -5.8 เนื่องจากราคายางพาราที่สูงขึ้นตามอุปสงค์จากต่างประเทศ และราคาสินค้าในหมวดพืชผักที่มีราคาสูงขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ ขณะที่เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรมบ่งชี้ถึงสภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยมูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในเดือนตุลาคมขยายตัวร้อยละ 13.9 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.6 ต่อปี ในเดือนก่อน และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคมขยายตัวร้อยละ 5.7 ต่อปีขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.3 ต่อปีในเดือน
ก่อน สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวพบว่าขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี ชะลอลงจากร้อยละ 13.5 ต่อปีในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงกลางเดือนกันยายน
เครื่องชี้การใช้จ่ายภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนจากรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวที่ร้อยละ 8.5 ต่อปี ในเดือนตุลาคม สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ตามมูลค่าการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในสกุลเงินเหรียญสหรัฐขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปีในเดือนตุลาคม ลดลงจากร้อยละ 12.9 ต่อปีในเดือนกันยายน การลงทุนภาคเอกชนในด้านก่อสร้างปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชนในภาคก่อสร้าง จากภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมในเดือนตุลาคมขยายตัวร้อยละ 9.7
ต่อปีเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 1 ต่อปี อย่างไรก็ตามเครื่องชี้การลงทุนด้านเครื่องมือเครื่องจักร โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนมีแนวโน้มชะลอลง โดยหดตัวที่ร้อยละ - 2.7 ต่อปีในเดือนตุลาคม
มูลค่าการส่งออกเดือนตุลาคมยังคงขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 11,500.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.1 ต่อปี สำหรับมูลค่าการนำเข้ามูลค่าการนำเข้ายังคงขยายตัวในอัตราที่ทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการนำเข้าเดือนตุลาคมมีมูลค่าทั้งสิ้น 10,690 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปี ทำให้ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จำนวน 810.4 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากมูลค่าการส่งออกที่สูงกว่ามูลค่าการนำเข้าในเดือนตุลาคม
เสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยทั้งภายในและภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคงดี โดยในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศพบว่าทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 61.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 62.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนตุลาคม ในขณะที่เสถียรภาพภายในประเทศ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคมปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ซึ่งไม่รวมดัชนีราคาอาหารสดและพลังงาน ในเดือนตุลาคม 2548 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 1.8 ต่อปี
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 27/2549 29 พฤศจิกายน 2549--