ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.เผยเข้าแทรกแซงเงินบาทจริงแต่ไม่ได้ใช้ทุนสำรองมากอย่างที่ระบุไว้ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ บล.ภัทรได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ว่า ธปท.เข้าแทรกแซงค่าเงินบาทด้วย
การซื้อเงินบาทและเทขายดอลลาร์ สรอ.ในตลาดล่วงหน้า (Forward) โดยใช้ทุนสำรองประมาณ 3-4 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ.แทรกแซงตลาดเงินไปแล้ว และจะแทรกแซงต่อเนื่องตลอด 2-3 เดือนข้างหน้าว่า ธปท.เข้าแทรก
แซงค่าเงินบาทด้วยวิธีดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้ใช้ทุนสำรองมากอย่างที่ระบุไว้ในบทวิเคราะห์ และขณะนี้ค่าเงินบาทก็
กลับมามีเสถียรภาพ ไม่ได้ถูกโจมตีค่าเงินแต่อย่างใด ดังนั้น ขณะนี้ ธปท.จึงไม่ได้เข้าแทรกแซง ส่วนทุนสำรองที่ลด
ลงส่วนหนึ่งเกิดจากการอ่อนค่าของเงินสกุลหลักที่อยู่ในทุนสำรอง ไม่ใช่จากการใช้เงินทุนสำรองเพียงอย่างเดียว
(สยามรัฐ, มติชน, เดลินิวส์, ผู้จัดการรายวัน)
2. ผู้ประกอบการนอนแบงก์ขอให้ ธปท.ประกาศเลื่อนใช้เกณฑ์การควบคุมสินเชื่อส่วนบุคคลออกไป
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่
ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การควบคุมสินเชื่อส่วนบุคคลที่ ธปท.ออก
ประกาศเมื่อ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ร้องขอ ธปท.ว่าไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ได้ทัน
ตามกำหนดวันที่ 1 ก.ค.นี้ แต่ ธปท.ยืนยันในหลักการเดิม ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กเหล่านี้ที่มีทั่วประเทศ
ประมาณ 3,000 รายต้องปิดกิจการลงในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดห่างไกลต้องหันไปพึ่งพาสินเชื่อ
นอกระบบอีกครั้ง (มติชน, เดลินิวส์, ผู้จัดการรายวัน)
3. สศช.ประเมินผลกระทบการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 พบว่าความเข้มแข็งทาง
เศรษฐกิจของไทยดีขึ้น เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า จากการ
ประเมินผลกระทบการพัฒนาประเทศ ในช่วง 3 ปีแรกของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 โดยใช้ดัชนีชี้วัด 3 ชุด คือ ดัชนี
ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ดัชนีความอยู่ดีมีสุข และดัชนีการพัฒนาที่ยังยืน พบว่าความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของ
ไทยดีขึ้น โดยมีค่าดัชนีเพิ่มขึ้นจาก 71.42 ในปี 45 เป็น 73.24 ในปี 46 และลดลงเหลือ 72.46 ในปี 47
เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และของภูมิภาคเริ่มชะลอตัว ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น การเกิดความไม่สงบใน
ตะวันออกกลาง การแพร่ระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนก อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 ปีแรกของแผนพัฒนาฯ ฉบับ
ที่ 9 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.1 ต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาฯ ที่เฉลี่ยร้อยละ 4.0-
5.0 ต่อปี (ข่าวสด, แนวหน้า, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คำสั่งซื้อสินค้าภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเดือน เม.ย.48 เพิ่มขึ้น รายงานจากกรุงบ
รัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.48 สนง.สถิติของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อสินค้าภาค
อุตสาหกรรมของประเทศในเขตยูโร เดือน เม.ย.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 พลิกกลับจากที่ลดลงในช่วง 3 เดือนที่
ผ่านมา โดยคำสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 และสินค้าสิ่งทอเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทำให้
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่การบริโภคในประเทศยังอ่อนตัวอยู่เนื่องจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูง
และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเขตยูโร ทั้งนี้ คณะกรรมการสหภาพยุโรปได้ปรับลดการพยากรณ์
ทางเศรษฐกิจของเขตยูโรในปีนี้เหลือร้อยละ 1.6 จากร้อยละ 2.0 ในปี 47 โดยข้อมูลจาก สนง.สถิติชี้ว่าการ
ส่งออกซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจของเขตยูโรได้อ่อนตัวลง ด้านการได้เปรียบดุลการค้าของเขตยูโร
ในเดือน เม.ย.48 ลดลงเหลือ 1.3 พันล้านยูโร เทียบกับ 4.3 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่ปรับตามฤดูกาล
ของเดือน มี.ค.48 เนื่องจากมูลค่าการส่งออกลดลงเล็กน้อยเหลือ 100 พันล้านยูโร จาก 102.6 พันล้านยูโร ใน
เดือน มี.ค.48 ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 98.7 พันล้านยูโร จาก 98.3 พันล้านยูโร อย่างไรก็
ตาม เขตยูโรยังคงขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นเป็น 16 พันล้านยูโร ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ จาก 10.9 พันล้านยู
โร ในระยะเดียวกันของปีก่อน (รอยเตอร์)
2. ความเชื่อมั่นของธุรกิจญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 สอดคล้องกับดัชนีชี้วัด
ภาคบริการในเดือน เม.ย.48 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 23 มิ.ย.48 ว่า The
Ministry of Finance and the Economic and Social Research Institute เปิดเผยผลการสำรวจ
ความเชื่อมั่นของธุรกิจ (Business survey index : BSI) ในช่วงไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.48) ว่า
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
บรรเทาลง และมีการคาดการณ์ว่า BSI จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.3 และ 11.8 ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของ
ปี อย่างไรก็ตาม บรรดานักเศรษฐศาสตร์ยังไม่คลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเนื่องจากการส่งออกและ
ผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงชะลอตัว นอกจากนี้ The Ministry of Economy, Trade and Industry เปิดเผย
ว่า ดัชนีชี้วัดภาคบริการ (Tertiary sector index) ของญี่ปุ่นในเดือน เม.ย.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เทียบ
ต่อเดือน สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 โดยดัชนีชี้วัดภาคเศรษฐกิจโดย
รวม (The all-industries index) ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด รวมถึง Tertiary
sector index เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 เทียบต่อเดือน สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ
1.3 (รอยเตอร์)
3. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนพ.ค. จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย 48 รอยเตอร์เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price
Index — CPI) ของสิงคโปร์ในเดือนพ.ค.คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.2 (ตัวเลขหลังการปรับฤดูกาล)
ชะลอลงจากร้อยละ 0.5 เมื่อเดือนเม.ย. ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาอาหารสูงขึ้น แต่ได้รับการชดเชยโดยราคารถ
ยนต์ที่ลดลง ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วคาดว่า CPI จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.15 ชะลอตัวจากร้อยละ 0.4
ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้รัฐบาลสิงคโปร์มีกำหนดที่จะเปิดเผยตัวเลข CPI อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้เวลา
5.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สำหรับความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup ในสิงคโปร์ผู้ซึ่งคาดว่า CPI
ของสิงคโปร์จะชะลอลงจากปีก่อนเห็นว่าการชะลอตัวของ CPI ดังกล่าวจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่จะไม่เป็นการเริ่ม
ต้นภาวะเงินฝืด อย่างไรก็ตามการอ่อนตัวลงดังกล่าวอาจจะเริ่มมีการอภิปรายเกี่ยวกับความจำเป็นของธ.กลาง
สิงคโปร์ในการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวต่อไปอีกหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่แนวโน้มการส่งออกใน
เดือนพ.ค. อ่อนตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ (รอยเตอร์)
4. นักวิชาการและผู้บริหารภาคเอกชนแนะให้ ธ.กลางเกาหลีใต้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อ
ไป รายงานจากโซล เมื่อ 22 มิ.ย.48 ผู้บริหารภาคเอกชนและนักวิชาการที่เข้าพบผู้ว่าการ ธ.กลางเกาหลีใต้
เสนอให้ ธ.กลางเกาหลีใต้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป โดยแนะให้ ธ.กลางเกาหลีใต้พิจารณาอย่าง
รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ก่อนหน้านี้
สื่อมวลชนและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้โทษการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำของ ธ.กลางเกาหลีใต้ตั้งแต่ต้นปี
46 เป็นต้นมาว่ามีส่วนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในหลายส่วนของประเทศสูงขึ้น ในขณะที่ รมต.คลังกล่าวว่า
อสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่รอบกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศและสามารถควบคุมได้
โดยใช้มาตรการทางภาษีและการบริหารจัดการโดยไม่ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยและคาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะยังคง
นโยบายอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปจนกว่าจะมีสัญญาณชัดเจนว่าเศรษฐกิจขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพแล้ว โดย ธ.
กลางเกาหลีใต้ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงมาร้อยละ 1.0 ต่อปี โดยทยอยลดรวม 4 ครั้งในช่วงปี 46-47 ทำให้อัตรา
ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 23 มิ.ย. 48 22 มิ.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.122 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40. 9268/41.2080 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.5200-2.53125 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 686.57/19.15 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,400/8,500 8,400/8,500 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 51.79 51.98 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 23.74*/19.79** 23.74*/19.79** 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย. 48
* *ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.เผยเข้าแทรกแซงเงินบาทจริงแต่ไม่ได้ใช้ทุนสำรองมากอย่างที่ระบุไว้ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ บล.ภัทรได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ว่า ธปท.เข้าแทรกแซงค่าเงินบาทด้วย
การซื้อเงินบาทและเทขายดอลลาร์ สรอ.ในตลาดล่วงหน้า (Forward) โดยใช้ทุนสำรองประมาณ 3-4 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ.แทรกแซงตลาดเงินไปแล้ว และจะแทรกแซงต่อเนื่องตลอด 2-3 เดือนข้างหน้าว่า ธปท.เข้าแทรก
แซงค่าเงินบาทด้วยวิธีดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้ใช้ทุนสำรองมากอย่างที่ระบุไว้ในบทวิเคราะห์ และขณะนี้ค่าเงินบาทก็
กลับมามีเสถียรภาพ ไม่ได้ถูกโจมตีค่าเงินแต่อย่างใด ดังนั้น ขณะนี้ ธปท.จึงไม่ได้เข้าแทรกแซง ส่วนทุนสำรองที่ลด
ลงส่วนหนึ่งเกิดจากการอ่อนค่าของเงินสกุลหลักที่อยู่ในทุนสำรอง ไม่ใช่จากการใช้เงินทุนสำรองเพียงอย่างเดียว
(สยามรัฐ, มติชน, เดลินิวส์, ผู้จัดการรายวัน)
2. ผู้ประกอบการนอนแบงก์ขอให้ ธปท.ประกาศเลื่อนใช้เกณฑ์การควบคุมสินเชื่อส่วนบุคคลออกไป
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่
ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การควบคุมสินเชื่อส่วนบุคคลที่ ธปท.ออก
ประกาศเมื่อ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ร้องขอ ธปท.ว่าไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ได้ทัน
ตามกำหนดวันที่ 1 ก.ค.นี้ แต่ ธปท.ยืนยันในหลักการเดิม ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กเหล่านี้ที่มีทั่วประเทศ
ประมาณ 3,000 รายต้องปิดกิจการลงในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดห่างไกลต้องหันไปพึ่งพาสินเชื่อ
นอกระบบอีกครั้ง (มติชน, เดลินิวส์, ผู้จัดการรายวัน)
3. สศช.ประเมินผลกระทบการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 พบว่าความเข้มแข็งทาง
เศรษฐกิจของไทยดีขึ้น เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า จากการ
ประเมินผลกระทบการพัฒนาประเทศ ในช่วง 3 ปีแรกของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 โดยใช้ดัชนีชี้วัด 3 ชุด คือ ดัชนี
ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ดัชนีความอยู่ดีมีสุข และดัชนีการพัฒนาที่ยังยืน พบว่าความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของ
ไทยดีขึ้น โดยมีค่าดัชนีเพิ่มขึ้นจาก 71.42 ในปี 45 เป็น 73.24 ในปี 46 และลดลงเหลือ 72.46 ในปี 47
เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และของภูมิภาคเริ่มชะลอตัว ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น การเกิดความไม่สงบใน
ตะวันออกกลาง การแพร่ระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนก อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 ปีแรกของแผนพัฒนาฯ ฉบับ
ที่ 9 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.1 ต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาฯ ที่เฉลี่ยร้อยละ 4.0-
5.0 ต่อปี (ข่าวสด, แนวหน้า, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คำสั่งซื้อสินค้าภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเดือน เม.ย.48 เพิ่มขึ้น รายงานจากกรุงบ
รัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.48 สนง.สถิติของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อสินค้าภาค
อุตสาหกรรมของประเทศในเขตยูโร เดือน เม.ย.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 พลิกกลับจากที่ลดลงในช่วง 3 เดือนที่
ผ่านมา โดยคำสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 และสินค้าสิ่งทอเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทำให้
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่การบริโภคในประเทศยังอ่อนตัวอยู่เนื่องจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูง
และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเขตยูโร ทั้งนี้ คณะกรรมการสหภาพยุโรปได้ปรับลดการพยากรณ์
ทางเศรษฐกิจของเขตยูโรในปีนี้เหลือร้อยละ 1.6 จากร้อยละ 2.0 ในปี 47 โดยข้อมูลจาก สนง.สถิติชี้ว่าการ
ส่งออกซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจของเขตยูโรได้อ่อนตัวลง ด้านการได้เปรียบดุลการค้าของเขตยูโร
ในเดือน เม.ย.48 ลดลงเหลือ 1.3 พันล้านยูโร เทียบกับ 4.3 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่ปรับตามฤดูกาล
ของเดือน มี.ค.48 เนื่องจากมูลค่าการส่งออกลดลงเล็กน้อยเหลือ 100 พันล้านยูโร จาก 102.6 พันล้านยูโร ใน
เดือน มี.ค.48 ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 98.7 พันล้านยูโร จาก 98.3 พันล้านยูโร อย่างไรก็
ตาม เขตยูโรยังคงขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นเป็น 16 พันล้านยูโร ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ จาก 10.9 พันล้านยู
โร ในระยะเดียวกันของปีก่อน (รอยเตอร์)
2. ความเชื่อมั่นของธุรกิจญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 สอดคล้องกับดัชนีชี้วัด
ภาคบริการในเดือน เม.ย.48 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 23 มิ.ย.48 ว่า The
Ministry of Finance and the Economic and Social Research Institute เปิดเผยผลการสำรวจ
ความเชื่อมั่นของธุรกิจ (Business survey index : BSI) ในช่วงไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.48) ว่า
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
บรรเทาลง และมีการคาดการณ์ว่า BSI จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.3 และ 11.8 ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของ
ปี อย่างไรก็ตาม บรรดานักเศรษฐศาสตร์ยังไม่คลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเนื่องจากการส่งออกและ
ผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงชะลอตัว นอกจากนี้ The Ministry of Economy, Trade and Industry เปิดเผย
ว่า ดัชนีชี้วัดภาคบริการ (Tertiary sector index) ของญี่ปุ่นในเดือน เม.ย.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เทียบ
ต่อเดือน สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 โดยดัชนีชี้วัดภาคเศรษฐกิจโดย
รวม (The all-industries index) ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด รวมถึง Tertiary
sector index เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 เทียบต่อเดือน สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ
1.3 (รอยเตอร์)
3. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนพ.ค. จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย รายงานจาก
สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย 48 รอยเตอร์เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price
Index — CPI) ของสิงคโปร์ในเดือนพ.ค.คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.2 (ตัวเลขหลังการปรับฤดูกาล)
ชะลอลงจากร้อยละ 0.5 เมื่อเดือนเม.ย. ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาอาหารสูงขึ้น แต่ได้รับการชดเชยโดยราคารถ
ยนต์ที่ลดลง ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วคาดว่า CPI จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.15 ชะลอตัวจากร้อยละ 0.4
ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้รัฐบาลสิงคโปร์มีกำหนดที่จะเปิดเผยตัวเลข CPI อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้เวลา
5.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สำหรับความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup ในสิงคโปร์ผู้ซึ่งคาดว่า CPI
ของสิงคโปร์จะชะลอลงจากปีก่อนเห็นว่าการชะลอตัวของ CPI ดังกล่าวจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่จะไม่เป็นการเริ่ม
ต้นภาวะเงินฝืด อย่างไรก็ตามการอ่อนตัวลงดังกล่าวอาจจะเริ่มมีการอภิปรายเกี่ยวกับความจำเป็นของธ.กลาง
สิงคโปร์ในการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวต่อไปอีกหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่แนวโน้มการส่งออกใน
เดือนพ.ค. อ่อนตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ (รอยเตอร์)
4. นักวิชาการและผู้บริหารภาคเอกชนแนะให้ ธ.กลางเกาหลีใต้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อ
ไป รายงานจากโซล เมื่อ 22 มิ.ย.48 ผู้บริหารภาคเอกชนและนักวิชาการที่เข้าพบผู้ว่าการ ธ.กลางเกาหลีใต้
เสนอให้ ธ.กลางเกาหลีใต้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป โดยแนะให้ ธ.กลางเกาหลีใต้พิจารณาอย่าง
รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ก่อนหน้านี้
สื่อมวลชนและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้โทษการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำของ ธ.กลางเกาหลีใต้ตั้งแต่ต้นปี
46 เป็นต้นมาว่ามีส่วนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในหลายส่วนของประเทศสูงขึ้น ในขณะที่ รมต.คลังกล่าวว่า
อสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่รอบกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศและสามารถควบคุมได้
โดยใช้มาตรการทางภาษีและการบริหารจัดการโดยไม่ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยและคาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะยังคง
นโยบายอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปจนกว่าจะมีสัญญาณชัดเจนว่าเศรษฐกิจขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพแล้ว โดย ธ.
กลางเกาหลีใต้ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงมาร้อยละ 1.0 ต่อปี โดยทยอยลดรวม 4 ครั้งในช่วงปี 46-47 ทำให้อัตรา
ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 23 มิ.ย. 48 22 มิ.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.122 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40. 9268/41.2080 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.5200-2.53125 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 686.57/19.15 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,400/8,500 8,400/8,500 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 51.79 51.98 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 23.74*/19.79** 23.74*/19.79** 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย. 48
* *ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--