กรุงเทพ--3 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ประธานาธิบดีวัลดัส อดัมคุส แห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย และนางอัลมา อดัมเคียน ภริยา จะเดินทางมาเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทยระหว่างวันที่ 1-2 มีนาคม 2549
การเยือนครั้งนี้จะเป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกในระดับประมุขรัฐของลิทัวเนีย ตั้งแต่ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสองเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2539
ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานาธิบดีอดัมคุสและภริยา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่วังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จะพบหารือข้อราชการกับประธานาธิบดี และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีอดัมคุสและภริยาด้วย
ในเดือนตุลาคม 2546 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้แทนการค้าไทย ได้นำคณะนักธุรกิจไทยชั้นนำเดินทางไปเยือนลิทัวเนีย และได้เป็นประธานร่วมของการประชุมสภาธุรกิจไทย-ลิทัวเนีย ครั้งแรก ที่กรุงวิลนิอุส หลังจากนั้น นาย Peter Cesna รัฐมนตรีเศรษฐกิจลิทัวเนีย ได้เดินทางมาเยือนไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 เพื่อขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน และได้ร่วมกับ ดร. กันตธีร์ฯ ในการเป็นประธานร่วมในการประชุมสภาธุรกิจไทย-ลิทัวเนีย ครั้งที่ 2 ในกรุงเทพฯ
ปฏิสัมพันธ์ต่างๆ เหล่านี้ได้เป็นแรงผลักดันให้ความสัมพันธ์ไทย-ลิทัวเนีย ก้าวหน้ายิ่งขึ้นสู่ความร่วมมือที่ใกล้ชิดและเป็นรูปธรรม ในเดือนเมษายน 2547 นาย Antanas Valionis รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศไทย และในระหว่างการเยือนครั้งนี้ก็ได้เข้าร่วมการประชุมสภาธุรกิจไทย-ลิทัวเนีย ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดร่วมกันโดยกระทรวงการต่างประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย การเยือนดังกล่าวได้ส่งผลเกื้อกูลอย่างสำคัญยิ่งต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์สองฝ่ายทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความร่วมมือทางวัฒนธรรม
การเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีอดัมคุส และวิสัยทัศน์ที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน จะยิ่งส่งผลอำนวยให้ความสัมพันธ์ไทย-ลิทัวเนียพัฒนามากยิ่งขึ้น การเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้ไม่เพียงแต่จะยิ่งทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองที่มีอยู่เดิมทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี หยั่งรากลึกยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะก่อให้เกิดความเป็นหุ้นส่วนใหม่ระหว่างประเทศทั้งสองอีกด้วย
ปี 2549 นับเป็นปีที่มีความสำคัญยิ่งต่อประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลิทัวเนีย โดยเฉพาะการที่ประธานาธิบดีลิทัวเนียมีกำหนดจะเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสอันเป็นมงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
ฝ่ายลิทัวเนียยังได้แสดงความสนใจที่จะเชิญภาคเอกชนไทยไปเยือนลิทัวเนียเพื่อแสวงหาลู่ทางและโอกาสทางธุรกิจ เฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจสปา ที่มีศักยภาพสูงในลิทัวเนีย ขณะเดียวกันฝ่ายไทยก็เห็นว่า น่าจะเพิ่มพูนความร่วมมือกับลิทัวเนียในด้านการท่องเที่ยว การศึกษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีชีวภาพ
สำหรับในด้านเศรษฐกิจ นั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ควรหาข้อสรุปและลงนามในความตกลงทวิภาคีต่าง ๆ ระหว่างกันโดยเร็ว เช่น ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ นอกจากนี้ ไทยยังต้องการที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับประชาชนกับประชาชนกับลิทัวเนีย เฉพาะอย่างยิ่ง การแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรมและการกีฬา
นอกเหนือจากการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-ลิทัวเนียแล้ว การเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีลิทัวเนียในครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกัน อีกทั้งการส่งเสริมบทบาทซึ่งกันและกันในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งในกรอบภูมิภาค และนานาชาติอีกด้วย อาทิ สหภาพยุโรป องค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) การประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (ASEM) และองค์การสหประชาชาติ
ประธานาธิบดีวัลดัส อดัมคุสนับเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในฐานะที่มีความเป็นผู้นำประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสิทธิ และเสรีภาพ ตลอดจนนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ก้าวหน้าในทุกด้าน ปัจจุบันมีอายุ 80 ปี (เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2469) และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีลิทัวเนียเมื่อปี 2541 และเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2547 ก็ได้รับเลือกตั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกเป็นครั้งที่สอง ส่วนนางอดัมเคียน ผู้เป็นภริยา นั้น มีบทบาทสำคัญในการทำงานเพื่อการกุศล เฉพาะอย่างยิ่งมูลนิธิ Alma Adamkiene Charity และกองทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กพิการในลิทัวเนีย
โดยสรุป การเยือนไทยของประธานาธิบดีลิทัวเนียในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสอง และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ไทยและลิทัวเนีย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ประธานาธิบดีวัลดัส อดัมคุส แห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย และนางอัลมา อดัมเคียน ภริยา จะเดินทางมาเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทยระหว่างวันที่ 1-2 มีนาคม 2549
การเยือนครั้งนี้จะเป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกในระดับประมุขรัฐของลิทัวเนีย ตั้งแต่ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสองเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2539
ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานาธิบดีอดัมคุสและภริยา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่วังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จะพบหารือข้อราชการกับประธานาธิบดี และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีอดัมคุสและภริยาด้วย
ในเดือนตุลาคม 2546 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้แทนการค้าไทย ได้นำคณะนักธุรกิจไทยชั้นนำเดินทางไปเยือนลิทัวเนีย และได้เป็นประธานร่วมของการประชุมสภาธุรกิจไทย-ลิทัวเนีย ครั้งแรก ที่กรุงวิลนิอุส หลังจากนั้น นาย Peter Cesna รัฐมนตรีเศรษฐกิจลิทัวเนีย ได้เดินทางมาเยือนไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 เพื่อขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน และได้ร่วมกับ ดร. กันตธีร์ฯ ในการเป็นประธานร่วมในการประชุมสภาธุรกิจไทย-ลิทัวเนีย ครั้งที่ 2 ในกรุงเทพฯ
ปฏิสัมพันธ์ต่างๆ เหล่านี้ได้เป็นแรงผลักดันให้ความสัมพันธ์ไทย-ลิทัวเนีย ก้าวหน้ายิ่งขึ้นสู่ความร่วมมือที่ใกล้ชิดและเป็นรูปธรรม ในเดือนเมษายน 2547 นาย Antanas Valionis รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศไทย และในระหว่างการเยือนครั้งนี้ก็ได้เข้าร่วมการประชุมสภาธุรกิจไทย-ลิทัวเนีย ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดร่วมกันโดยกระทรวงการต่างประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย การเยือนดังกล่าวได้ส่งผลเกื้อกูลอย่างสำคัญยิ่งต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์สองฝ่ายทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความร่วมมือทางวัฒนธรรม
การเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีอดัมคุส และวิสัยทัศน์ที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน จะยิ่งส่งผลอำนวยให้ความสัมพันธ์ไทย-ลิทัวเนียพัฒนามากยิ่งขึ้น การเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้ไม่เพียงแต่จะยิ่งทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองที่มีอยู่เดิมทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี หยั่งรากลึกยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะก่อให้เกิดความเป็นหุ้นส่วนใหม่ระหว่างประเทศทั้งสองอีกด้วย
ปี 2549 นับเป็นปีที่มีความสำคัญยิ่งต่อประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลิทัวเนีย โดยเฉพาะการที่ประธานาธิบดีลิทัวเนียมีกำหนดจะเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสอันเป็นมงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
ฝ่ายลิทัวเนียยังได้แสดงความสนใจที่จะเชิญภาคเอกชนไทยไปเยือนลิทัวเนียเพื่อแสวงหาลู่ทางและโอกาสทางธุรกิจ เฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจสปา ที่มีศักยภาพสูงในลิทัวเนีย ขณะเดียวกันฝ่ายไทยก็เห็นว่า น่าจะเพิ่มพูนความร่วมมือกับลิทัวเนียในด้านการท่องเที่ยว การศึกษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีชีวภาพ
สำหรับในด้านเศรษฐกิจ นั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ควรหาข้อสรุปและลงนามในความตกลงทวิภาคีต่าง ๆ ระหว่างกันโดยเร็ว เช่น ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ นอกจากนี้ ไทยยังต้องการที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับประชาชนกับประชาชนกับลิทัวเนีย เฉพาะอย่างยิ่ง การแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรมและการกีฬา
นอกเหนือจากการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-ลิทัวเนียแล้ว การเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีลิทัวเนียในครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกัน อีกทั้งการส่งเสริมบทบาทซึ่งกันและกันในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งในกรอบภูมิภาค และนานาชาติอีกด้วย อาทิ สหภาพยุโรป องค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) การประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (ASEM) และองค์การสหประชาชาติ
ประธานาธิบดีวัลดัส อดัมคุสนับเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในฐานะที่มีความเป็นผู้นำประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสิทธิ และเสรีภาพ ตลอดจนนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ก้าวหน้าในทุกด้าน ปัจจุบันมีอายุ 80 ปี (เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2469) และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีลิทัวเนียเมื่อปี 2541 และเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2547 ก็ได้รับเลือกตั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกเป็นครั้งที่สอง ส่วนนางอดัมเคียน ผู้เป็นภริยา นั้น มีบทบาทสำคัญในการทำงานเพื่อการกุศล เฉพาะอย่างยิ่งมูลนิธิ Alma Adamkiene Charity และกองทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กพิการในลิทัวเนีย
โดยสรุป การเยือนไทยของประธานาธิบดีลิทัวเนียในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสอง และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ไทยและลิทัวเนีย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-