แท็ก
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
องอาจ คล้ามไพบูลย์
พรรคประชาธิปัตย์
ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
ไทยรักไทย
วันนี้ ( 4 เม.ย.49 ) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยื่นเงื่อนไขให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยุติการชุมนุมและฝ่ายค้านต้องส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งจึงจะยอมเว้นวรรคทางการเมืองว่า วันนี้อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจะหารือกันถึงเรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณเปิดใจเมื่อคืนวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาเพราะมีหลายเรื่องที่จะต้องนำมาพิจารณาเป็นเรื่องๆไป ซึ่งพรรคพร้อมที่จะร่วมมือและเจรจาในทุกองค์กรที่ต้องการประสานงานในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ซึ่งกำลังเป็นวิกฤติอยู่ใน ขณะนี้ ถึงแม้ว่าวิกฤติของปัญหาจะเกิดขึ้นจากปัจจัยสำคัญคือตัวนายกฯก็ตาม ฉะนั้นข้อเสนอของนายกฯเป็นข้อเสนอที่พรรครับฟังและนำมาพิจารณา แต่ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่าคำพูดของนายกฯหลายครั้งเชื่อถือไม่ได้หรือเชื่อถือได้น้อยลงตามลำดับ ในเบื้องต้นจึงไม่แน่ใจว่าสิ่งที่นายกฯพูดเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ในวันนี้ หรือพรุ่งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญและที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือนายกฯมีเงื่อนไขอะไรพิเศษอยู่หรือไม่ ถึงแม้ฟังการเปิดใจแล้วจะไม่มีเงื่อนไขอะไรมาก แต่ก็ต้องมาดูด้วยว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน
“เรายินดีที่จะพบปะพูดคุยเพื่อช่วยให้ปัญหาของประเทศคลี่คลาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องพิจารณาบนพื้นฐานของความจริงใจและแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริงไม่ใช่เฉพาะหน้า ผมไม่แน่ใจว่านายกฯหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพียงเพื่อให้สภาเปิดได้หรือไม่ เพราะให้ความรู้สึกว่าเปิดสภาไปเถอะคนจะครบ 500 หรือไม่ครบ จะเลือกมาครบ 20% หรือไม่ แต่พอเลือกนายกฯไปแล้วท่านอาจเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ ตรงนี้คือปัญหาสำคัญ อีกเรื่องหนึ่งคือคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นมานั้นสามารถสั่งนายกฯได้หรือไม่และเป็นกลางจริงหรือไม่เพราะถ้าไม่เป็นกลางประเทศชาติจะยุ่งเหยิงมาขึ้น เพราะประชาชนจะไม่เชื่อถือ”นายองอาจ กล่าว
กรณีที่นายกฯเสนอให้ 4 พรรคการเมืองพูดคุยกันโดยมีพรรคไทยรักไทยร่วมด้วยนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไม่เคยปฏิเสธการพูดคุยกับใคร แต่ตนฟังจากคำพูดของนายกฯก็ไม่แน่ใจว่าจะพริ้วหรือจะมีลูกเล่นอะไรหรือไม่ หรือพูดลอยๆขึ้นมาในจอโทรทัศน์ ตรงนี้ควรมีความชัดเจน ยืนยันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้ ส่วนนายกฯควรจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่นั้น ตนคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะตัดสินใจได้ว่าจะใช้วิธีการไหนที่ให้คนรู้สึกว่าเชื่อถือ
ต่อข้อถามที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเสนอตั้งกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมา 1 ชุด โดยมีอดีตนายกฯ อดีตประธานรัฐสภา อดีตประธานศาลฎีกา ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ไม่มีความชัดเจนว่าจะให้มาทำหน้าที่อะไร มาตรวจสอบปัญหาค้างคาใจของประชาชนหรือไม่ หรือจะทำหน้าที่พิจารณาปฏิรูปการเมือง อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะฝากไปยังนายกฯว่าผู้นำประเทศไม่ได้อยู่ได้ด้วยเฉพาะการชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น แต่ต้องอยู่ด้วยความชอบธรรมที่ประชาชนมอบให้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 เม.ย. 2549--จบ--
“เรายินดีที่จะพบปะพูดคุยเพื่อช่วยให้ปัญหาของประเทศคลี่คลาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องพิจารณาบนพื้นฐานของความจริงใจและแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริงไม่ใช่เฉพาะหน้า ผมไม่แน่ใจว่านายกฯหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพียงเพื่อให้สภาเปิดได้หรือไม่ เพราะให้ความรู้สึกว่าเปิดสภาไปเถอะคนจะครบ 500 หรือไม่ครบ จะเลือกมาครบ 20% หรือไม่ แต่พอเลือกนายกฯไปแล้วท่านอาจเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ ตรงนี้คือปัญหาสำคัญ อีกเรื่องหนึ่งคือคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นมานั้นสามารถสั่งนายกฯได้หรือไม่และเป็นกลางจริงหรือไม่เพราะถ้าไม่เป็นกลางประเทศชาติจะยุ่งเหยิงมาขึ้น เพราะประชาชนจะไม่เชื่อถือ”นายองอาจ กล่าว
กรณีที่นายกฯเสนอให้ 4 พรรคการเมืองพูดคุยกันโดยมีพรรคไทยรักไทยร่วมด้วยนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไม่เคยปฏิเสธการพูดคุยกับใคร แต่ตนฟังจากคำพูดของนายกฯก็ไม่แน่ใจว่าจะพริ้วหรือจะมีลูกเล่นอะไรหรือไม่ หรือพูดลอยๆขึ้นมาในจอโทรทัศน์ ตรงนี้ควรมีความชัดเจน ยืนยันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้ ส่วนนายกฯควรจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่นั้น ตนคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะตัดสินใจได้ว่าจะใช้วิธีการไหนที่ให้คนรู้สึกว่าเชื่อถือ
ต่อข้อถามที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเสนอตั้งกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมา 1 ชุด โดยมีอดีตนายกฯ อดีตประธานรัฐสภา อดีตประธานศาลฎีกา ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ไม่มีความชัดเจนว่าจะให้มาทำหน้าที่อะไร มาตรวจสอบปัญหาค้างคาใจของประชาชนหรือไม่ หรือจะทำหน้าที่พิจารณาปฏิรูปการเมือง อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะฝากไปยังนายกฯว่าผู้นำประเทศไม่ได้อยู่ได้ด้วยเฉพาะการชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น แต่ต้องอยู่ด้วยความชอบธรรมที่ประชาชนมอบให้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 เม.ย. 2549--จบ--