กรุงเทพ--12 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุว่า ตามที่ในปัจจุบันได้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองอันเนื่องมาจากการชุมนุมประท้วงของประชาชนในเนปาลและมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมประท้วงนั้น ในชั้นนี้ยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้นักท่องเที่ยวไทยที่ประสงค์เดินทางไปเนปาลในช่วงนี้ เลื่อนการเดินทางออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์การเมืองเนปาลจะคลี่คลาย
สำหรับสถานการณ์การเมืองล่าสุดในเนปาลปรากฏว่าเมื่อวันที่ 6—9 เมษายน 2549 กลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายค้าน 7 พรรคและกลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาได้ร่วมกันนัดหยุดงานทั่วประเทศโดยได้จัดประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงกาฐมาณฑุและตามเมืองต่างๆ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2549 เพื่อเพิ่มความกดดันต่อสมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา บีร์ บีกราม ชาห์เดฟ และรัฐบาลเนปาล รวมทั้งเรียกร้องให้มีการยุติการบริหารประเทศโดยตรงของสมเด็จพระราชาธิบดีฯ และการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
รัฐบาลเนปาลได้ประกาศห้ามการชุมนุมของประชาชน ตลอดจนตัดสัญญานโทรศัพท์ เคลื่อนที่และการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต และออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถใช้อาวุธกับผู้ฝ่าฝืนได้ อย่างไรก็ดี ประชาชนเนปาลยังคงประท้วงต่อไป ซึ่งการประกาศห้ามการชุมนุมของรัฐบาลในครั้งนี้ เป็นผลให้หลายๆ ฝ่ายมีความวิตกกังวลว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม ศกนี้
การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเนปาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 3 รายและมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ รัฐบาลเนปาลได้ประกาศห้ามประชาชนออกนอกสถานที่ในเวลากลางคืนเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2549 และประกาศห้ามประชาชนออกนอกสถานที่ เวลา 11.00 —18.00 น. เมื่อวันที่ 8—9 เมษายน 2549 และขณะนี้ได้ขยายเวลาการห้ามออกนอกสถานที่ออกไปโดยไม่มีกำหนดทั้งในกรุงกาฐมาณฑุและเมืองสำคัญต่างๆ ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุว่า ตามที่ในปัจจุบันได้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองอันเนื่องมาจากการชุมนุมประท้วงของประชาชนในเนปาลและมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมประท้วงนั้น ในชั้นนี้ยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้นักท่องเที่ยวไทยที่ประสงค์เดินทางไปเนปาลในช่วงนี้ เลื่อนการเดินทางออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์การเมืองเนปาลจะคลี่คลาย
สำหรับสถานการณ์การเมืองล่าสุดในเนปาลปรากฏว่าเมื่อวันที่ 6—9 เมษายน 2549 กลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายค้าน 7 พรรคและกลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาได้ร่วมกันนัดหยุดงานทั่วประเทศโดยได้จัดประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงกาฐมาณฑุและตามเมืองต่างๆ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2549 เพื่อเพิ่มความกดดันต่อสมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา บีร์ บีกราม ชาห์เดฟ และรัฐบาลเนปาล รวมทั้งเรียกร้องให้มีการยุติการบริหารประเทศโดยตรงของสมเด็จพระราชาธิบดีฯ และการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
รัฐบาลเนปาลได้ประกาศห้ามการชุมนุมของประชาชน ตลอดจนตัดสัญญานโทรศัพท์ เคลื่อนที่และการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต และออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถใช้อาวุธกับผู้ฝ่าฝืนได้ อย่างไรก็ดี ประชาชนเนปาลยังคงประท้วงต่อไป ซึ่งการประกาศห้ามการชุมนุมของรัฐบาลในครั้งนี้ เป็นผลให้หลายๆ ฝ่ายมีความวิตกกังวลว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม ศกนี้
การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเนปาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 3 รายและมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ รัฐบาลเนปาลได้ประกาศห้ามประชาชนออกนอกสถานที่ในเวลากลางคืนเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2549 และประกาศห้ามประชาชนออกนอกสถานที่ เวลา 11.00 —18.00 น. เมื่อวันที่ 8—9 เมษายน 2549 และขณะนี้ได้ขยายเวลาการห้ามออกนอกสถานที่ออกไปโดยไม่มีกำหนดทั้งในกรุงกาฐมาณฑุและเมืองสำคัญต่างๆ ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-