วันนี้(2พ.ค.49) เวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานด้านการศึกษา ได้แถลงถึงผลกระทบจากการประกาศผล O-NET , A-NET เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมาว่า คณะทำงานด้านการศึกษาของพรรคประชาธิปัตย์ ได้คัดค้านการเปลี่ยนระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจากระบบเอนทรานซ์ เป็นระบบแอดมิสชั่นส์ ของกระทรวงศึกษาธิการ มาตามลำดับ โดยเฉพาะการดำเนินการภายใต้ความรับผิดของสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาและสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ มีความผิดพลาดทั้งที่เกิดจากระบบและตัวบุคคล ตลอดถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการอันเป็นผลที่ทำลายความน่าเชื่อถือในระบบการสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีความถูกต้องเป็นธรรมและมีความเชื่อมั่นลงอย่างสิ้นเชิง จึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบและดำเนินการดังนี้
1. เพื่อความเป็นธรรมกับเด็กนักเรียนที่สอบ O-NET , A-NET ทั้งหมด ควรสรุปข้อยุติของปัญหาทั้งหมดให้ชัดเจนโดยเร็ว และไม่ควรใช้ผลจากการประกาศ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ประกอบการตัดสินการสมัครระบบกลางจนกว่าจะมีข้อยุติดังกล่าว
2. ควรมีการสอบสวนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากระบบและ ตัวบุคคล ไม่ใช่โยนความผิดพลาดและภาระไปให้เด็กนักเรียนผู้เข้าสอบ
3. ตามที่เลขาธิการ สกอ.นายภาวิช ทองโรจน์ ได้แถลงว่าการประกาศผลครั้งนี้ถูกต้อง คะแนนส่วนใหม่ตรงกัน ต่างกันแค่ 2-3 คะแนน กลุ่มที่มีปัญหาน่าจะไม่เกิน 23,000 ราย เป็นการแถลงที่ขาดความรับผิดขอบ เพราะความแตกต่างด้านคะแนนและรายชื่อกลุ่มที่มีปัญหา มีผลต่อการเลือกคณะวิชาในการสมัครสอบระบบกลางของเด็กต่อไป
4. ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้นโยบายว่าจะแก้ปัญหาให้ทันปิดรับสมัครแอดมิสชั่นส์ในวันที่ 7 พฤษภาคม โดยให้ สกอ.ประสานกับที่ประชุมอธิการบดี ให้รับเด็กที่มีข้อมูลคะแนนในภายหลัง เป็นการยอมรับความผิดพลาด และเป็นการแก้ปัญหาพอพ้นตัว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเป็นการทำลายมาตรฐานการศึกษาของชาติในระยะยาว
5. ขอเรียกร้องให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และทบทวนระบบการดำเนินการทั้งระบบ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับเด็กนักเรียนที่จะต้องสอบโดยระบบนี้ในปีต่อไปด้วย
6. นอกจากความรับผิดชอบดังกล่าวแล้ว กระทรวงศึกษาธิการควรอำนวยความสะดวกให้กับเด็กนักเรียนที่จะต้องการตรวจสอบกระดาษคำตอบที่ศูนย์รับสมัคร และหากเด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองคนใดยังไม่พอใจในการรักษาสิทธิ์ให้กับตนเอง ควรยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ปัญหาให้กับกลุ่มเด็กที่มีปัญหาต่อไป และหากว่ายังไม่ชัดเจนผู้เสียหายคือเด็กนักเรียน หรือผู้ปกครอง ควรจะต้องฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อจะได้ระงับคำสั่งชั่วคราวในการนำผล O-NET , A-NET ไปประกอบการรับสมัครระบบกลาง และพิพากษาวินิจฉัยปัญหาทางปกครองที่เกิดขึ้นจากระบบดังกล่าวให้เป็นบรรทัดฐานในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีต่อไปด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 พ.ค. 2549--จบ--
1. เพื่อความเป็นธรรมกับเด็กนักเรียนที่สอบ O-NET , A-NET ทั้งหมด ควรสรุปข้อยุติของปัญหาทั้งหมดให้ชัดเจนโดยเร็ว และไม่ควรใช้ผลจากการประกาศ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ประกอบการตัดสินการสมัครระบบกลางจนกว่าจะมีข้อยุติดังกล่าว
2. ควรมีการสอบสวนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากระบบและ ตัวบุคคล ไม่ใช่โยนความผิดพลาดและภาระไปให้เด็กนักเรียนผู้เข้าสอบ
3. ตามที่เลขาธิการ สกอ.นายภาวิช ทองโรจน์ ได้แถลงว่าการประกาศผลครั้งนี้ถูกต้อง คะแนนส่วนใหม่ตรงกัน ต่างกันแค่ 2-3 คะแนน กลุ่มที่มีปัญหาน่าจะไม่เกิน 23,000 ราย เป็นการแถลงที่ขาดความรับผิดขอบ เพราะความแตกต่างด้านคะแนนและรายชื่อกลุ่มที่มีปัญหา มีผลต่อการเลือกคณะวิชาในการสมัครสอบระบบกลางของเด็กต่อไป
4. ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้นโยบายว่าจะแก้ปัญหาให้ทันปิดรับสมัครแอดมิสชั่นส์ในวันที่ 7 พฤษภาคม โดยให้ สกอ.ประสานกับที่ประชุมอธิการบดี ให้รับเด็กที่มีข้อมูลคะแนนในภายหลัง เป็นการยอมรับความผิดพลาด และเป็นการแก้ปัญหาพอพ้นตัว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเป็นการทำลายมาตรฐานการศึกษาของชาติในระยะยาว
5. ขอเรียกร้องให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และทบทวนระบบการดำเนินการทั้งระบบ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับเด็กนักเรียนที่จะต้องสอบโดยระบบนี้ในปีต่อไปด้วย
6. นอกจากความรับผิดชอบดังกล่าวแล้ว กระทรวงศึกษาธิการควรอำนวยความสะดวกให้กับเด็กนักเรียนที่จะต้องการตรวจสอบกระดาษคำตอบที่ศูนย์รับสมัคร และหากเด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองคนใดยังไม่พอใจในการรักษาสิทธิ์ให้กับตนเอง ควรยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ปัญหาให้กับกลุ่มเด็กที่มีปัญหาต่อไป และหากว่ายังไม่ชัดเจนผู้เสียหายคือเด็กนักเรียน หรือผู้ปกครอง ควรจะต้องฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อจะได้ระงับคำสั่งชั่วคราวในการนำผล O-NET , A-NET ไปประกอบการรับสมัครระบบกลาง และพิพากษาวินิจฉัยปัญหาทางปกครองที่เกิดขึ้นจากระบบดังกล่าวให้เป็นบรรทัดฐานในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีต่อไปด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 พ.ค. 2549--จบ--