เอฟตา ผิดหวังไทยไม่เปิดเสรีปลาและการเงิน

          นายเกริกไกร  จีระแพทย์   หัวหน้าคณะเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือเอฟตา (EFTA  —  European Free  Trade  Association  ประกอบด้วยสวิตเซอร์แลนด์  นอร์เวย์   ไอซ์แลนด์  และลิกเตนสไตน์) เปิดเผยว่า ไทยและเอฟตา ได้เจรจาความตกลงการค้าเสรีรอบที่ 2  ระหว่างวันที่ 16-20 มกราคม 2549  ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยการเจรจารอบนี้มีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง  กลุ่มต่างๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพิจารณาหลักการของประเด็น       การเจรจาต่างๆ เช่น สินค้าเกษตร การค้าบริการ การแข่งขัน รวมทั้งได้มีการแลกเปลี่ยนเอกสารระหว่างกัน แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังมีความแตกต่างกันอีกค่อนข้างมาก  
          นายเกริกไกร  กล่าวต่อว่า  ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันที่จะกลับไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องของตนก่อนแจ้งท่าทีให้ทราบต่อไป  โดยการเจรจาสินค้าเอฟตาตกลงลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรมเกือบหมดให้ไทยเป็น 0   ตั้งแต่วันแรกที่ความตกลงมีผลบังคับใช้  ขณะที่ไทยแบ่งการลดภาษีอุตสาหกรรมออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ลดภาษีเป็น 0 ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่ความตกลงมีผลบังคับใช้  กลุ่มที่จะลดภาษีเป็น 0 ภายใน 5 ปี  และกลุ่มที่จะลดภาษีเป็น 0 ภายใน 10 ปี  ทั้งนี้  เอฟตาแสดงความผิดหวังอย่างมากที่ไทยยืนยันจะไม่ลดภาษี  สินค้าปลาให้กับเอฟตา  ทั้งปลาแมคเคอเรลและปลาอื่นๆ  ดังนั้น เอฟตาจึงแสดงท่าทีว่าอาจไม่ลดภาษีสินค้าเกษตรให้ไทยเป็น 0  อย่างไรก็ตามคณะเจรจาจะต้องผลักดันต่อไปอย่างเต็มที่     
          นายเกริกไกร  กล่าวต่ออีกว่า การเจรจาการค้าบริการ เอฟตาแสดงความผิดหวังอย่างชัดเจนที่ไทยแสดงท่าทีว่ายังไม่สามารถเปิดตลาดโทรคมนาคมและการเงินได้ และไม่เปิดตลาดให้มากกว่าที่เปิดอยู่ในกรอบองค์การการค้าโลก  เนื่องจากเอฟตาพร้อมจะมีความยืดหยุ่นให้ไทยในการเปิดตลาดให้พ่อครัว แม่ครัว หมอนวด และผู้ประกอบกิจการสปา  การลงทุน  ถึงแม้ว่าการเจรจาเป็นไปอย่างฉันท์มิตรแต่เกือบจะไม่มีความคืบหน้า  เนื่องจากยังมีความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องท่าทีและมุมมองเรื่องการลงทุนของทั้งสองฝ่าย  สำหรับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา  ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการต่างๆส่วนใหญ่ รวมทั้งหลักการขององค์การการค้าโลกเรื่องการเข้าถึงยาของผู้ติดเชื้อเอชไอวี  ส่วนความแตกต่างที่ยังคงอยู่เป็นเรื่องของแนวปฏิบัติ และการใช้ถ้อยคำในร่างข้อบท ประเด็นที่มีความเห็นค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งสองฝ่ายตกลงจะกลับไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าจะสามารถมีความยืดหยุ่นได้มากน้อยเพียงไร
          จากการเจรจารอบนี้พบว่าเอฟตาจะมีความยืดหยุ่นกับข้อเรียกร้องของไทยในส่วนที่เอฟตาไม่ต้องแก้ไขกฎหมายภายในของตน  โดยการเจรจารอบที่ 3 กำหนดจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 เมษายน 2549 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-