นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศ เชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอราคาซื้อข้าวสารเพื่อส่งออกต่างประเทศ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2549 ปริมาณรวม 706,985.564 ตัน เป็นข้าวขาวชนิด 5% ปริมาณ 623,712.737 ตัน ข้าวขาวชนิด 15% ปริมาณ 782.53 ตัน และข้าวขาวชนิด 25% เลิศ ปริมาณ 82,490.30 ตัน กำหนดยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 31 มกราคม 2549 เวลา10.00 -12.00 น. และกำหนดเปิดซองเวลา 14.00 น. ของวันเดียวกัน
เมื่อสิ้นสุดกำหนดเวลาเสนอราคาปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นซองเสนอราคารวม 8 ราย ปริมาณข้าวที่เสนอซื้อรวม 1,267,773.52 ตัน โดยผู้เสนอราคาส่วนใหญ่เสนอซื้อในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด ณ วันที่เปิดประมูล (ข้าวขาวชนิด 5% ราคาตันละ 294 เหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้มีผู้เสนอราคาเท่ากับราคาตลาดและสูงกว่าราคาตลาด 4 ราย คือ บจก. แคปปิตัลซีเรียลส์ (ตันละ 297 และ 300 เหรียญสหรัฐฯ) บจก.ไทยฟ้า (2511) (ตันละ 296.50 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง (ตันละ 295 เหรียญสหรัฐฯ) และ บจก. พงษ์ลาภ (ตันละ 294 เหรียญสหรัฐฯ) ส่วนอีก 4 รายเสนอซื้อต่ำกว่าราคาตลาดคือ บจก. เจียเม้ง (ตันละ 292.60 และ 293.70 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. ข้าวไชยพร (ตันละ 293 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. ซี.พี.อินเตอร์เทรด (ตันละ 292.50 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. แฟนซีไรซ์อินเตอร์เทรด (ตันละ 290 เหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งในจำนวนผู้เสนอซื้อทั้งหมดมีรายเดียวที่เสนอซื้อข้าวทุกชนิดและทุกคลังสินค้า คือ บจก. เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง นอกจากนั้นเสนอซื้อข้าวขาวชนิด 5% ชนิดเดียวและเสนอซื้อเป็นบางคลังสินค้าแยกเป็นรายคลัง
คณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสารได้ประชุมพิจารณาข้อเสนอของผู้เสนอซื้อทุกรายแล้วและได้วางหลักเกณฑ์ตลอดจนแนวทางการต่อรองก่อนการเจรจากับผู้เสนอราคาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ ดังนี้
1. เนื่องจากราคาของผู้เสนอซื้อทุกรายใกล้เคียงกับราคาตลาดจึงให้เจรจาต่อรองกับทุกราย โดยให้ต่อรองจากผู้ที่เสนอราคาต่ำไปหาผู้เสนอราคาสูงและต่อรองให้สูงกว่าราคาตลาด ทั้งนี้ให้ผู้เสนอราคาต่ำกว่ารายอื่นมีโอกาสเสนอเพิ่มราคาใหม่ให้สูงสุดได้เพียงครั้งเดียว
2. พิจารณาขายให้กับผู้เสนอซื้อหลายรายที่เสนอราคาสูงกว่าราคาตลาด
3. กรณีเสนอซื้อซ้ำคลังให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุดในคลังนั้น
4. กรณีเสนอซื้อซ้ำคลังแต่เสนอราคาเท่ากันให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงกว่าในครั้งแรก
5. เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อสูงกว่าราคาตลาดและเป็นการเสนอซื้อที่มีการเจรจาต่อรองเป็นรายคลังสินค้า ราคาที่ขายจะเป็นราคาที่เสนอซื้อสูงสุดในแต่ละคลัง ดังนั้นราคาขายของข้าวชนิดเดียวกันจึงไม่จำเป็นต้องเท่ากันหมด
คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการเจรจาตามหลักเกณฑ์และแนวทางดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รองประธาน กนข.) โดยเห็นสมควรจำหน่ายข้าวสารชนิดข้าวขาว 5% ปริมาณ 623,712.73 ตัน ให้กับผู้เสนอซื้อ 5 ราย เนื่องจากเป็นผู้เสนอราคาและเงื่อนไขดีที่สุด โดยเป็นผู้ที่เสนอราคาสูงสุดตามหลักเกณฑ์การเจรจาต่อรองในแต่ละคลังและในคลังที่มีการเสนอซื้อซ้ำคลังกับรายอื่น อีกทั้งราคาเสนอซื้อสูงกว่าราคาตลาด คือ
- บจก. แคปปิตัลซีเรียลส์ ปริมาณ 39,199.799 ตัน ราคาตันละ 300 และ 297 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. ไทยฟ้า (2511) ปริมาณ 53,723.121 ตัน ราคาตันละ 297 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. เจียเม้ง ปริมาณ 40,487.180 ตัน ราคาตันละ 297 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. ซี.พี. อินเตอร์เทรด ปริมาณ 23,672.562 ตัน ราคาตันละ 295.50 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง ปริมาณ 466,630.073 ตัน ราคาตันละ 295 เหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข) ได้อนุมัติตามที่คณะทำงานฯ เสนอ และให้องค์การคลังสินค้า (อคส) ทำสัญญาจำหน่ายข้าวสารให้กับผู้เสนอซื้อ 5 รายดังกล่าวต่อไป
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายข้าวในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้สามารถขายข้าวสารได้ในราคาสูงกว่าราคาตลาดที่เอกชนซื้อขายกันทั่วไปและสะท้อนให้เห็นว่าตลาดมีความต้องการข้าวสูงและราคาข้าวไทยเป็นไปตามภาวะที่แท้จริงของตลาดโลกโดยรัฐบาลได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายข้าว คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 184.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7,371.66 ล้านบาท อีกทั้งการระบายข้าวครั้งนี้ยังจะช่วยลดปริมาณข้าวในสต๊อกรัฐบาลซึ่งจะทำให้ภาระต้นทุนการเก็บรักษาข้าวของรัฐบาลลดลงได้อีกทางหนึ่งด้วย
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
เมื่อสิ้นสุดกำหนดเวลาเสนอราคาปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นซองเสนอราคารวม 8 ราย ปริมาณข้าวที่เสนอซื้อรวม 1,267,773.52 ตัน โดยผู้เสนอราคาส่วนใหญ่เสนอซื้อในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด ณ วันที่เปิดประมูล (ข้าวขาวชนิด 5% ราคาตันละ 294 เหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้มีผู้เสนอราคาเท่ากับราคาตลาดและสูงกว่าราคาตลาด 4 ราย คือ บจก. แคปปิตัลซีเรียลส์ (ตันละ 297 และ 300 เหรียญสหรัฐฯ) บจก.ไทยฟ้า (2511) (ตันละ 296.50 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง (ตันละ 295 เหรียญสหรัฐฯ) และ บจก. พงษ์ลาภ (ตันละ 294 เหรียญสหรัฐฯ) ส่วนอีก 4 รายเสนอซื้อต่ำกว่าราคาตลาดคือ บจก. เจียเม้ง (ตันละ 292.60 และ 293.70 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. ข้าวไชยพร (ตันละ 293 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. ซี.พี.อินเตอร์เทรด (ตันละ 292.50 เหรียญสหรัฐฯ) บจก. แฟนซีไรซ์อินเตอร์เทรด (ตันละ 290 เหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งในจำนวนผู้เสนอซื้อทั้งหมดมีรายเดียวที่เสนอซื้อข้าวทุกชนิดและทุกคลังสินค้า คือ บจก. เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง นอกจากนั้นเสนอซื้อข้าวขาวชนิด 5% ชนิดเดียวและเสนอซื้อเป็นบางคลังสินค้าแยกเป็นรายคลัง
คณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสารได้ประชุมพิจารณาข้อเสนอของผู้เสนอซื้อทุกรายแล้วและได้วางหลักเกณฑ์ตลอดจนแนวทางการต่อรองก่อนการเจรจากับผู้เสนอราคาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ ดังนี้
1. เนื่องจากราคาของผู้เสนอซื้อทุกรายใกล้เคียงกับราคาตลาดจึงให้เจรจาต่อรองกับทุกราย โดยให้ต่อรองจากผู้ที่เสนอราคาต่ำไปหาผู้เสนอราคาสูงและต่อรองให้สูงกว่าราคาตลาด ทั้งนี้ให้ผู้เสนอราคาต่ำกว่ารายอื่นมีโอกาสเสนอเพิ่มราคาใหม่ให้สูงสุดได้เพียงครั้งเดียว
2. พิจารณาขายให้กับผู้เสนอซื้อหลายรายที่เสนอราคาสูงกว่าราคาตลาด
3. กรณีเสนอซื้อซ้ำคลังให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุดในคลังนั้น
4. กรณีเสนอซื้อซ้ำคลังแต่เสนอราคาเท่ากันให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงกว่าในครั้งแรก
5. เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อสูงกว่าราคาตลาดและเป็นการเสนอซื้อที่มีการเจรจาต่อรองเป็นรายคลังสินค้า ราคาที่ขายจะเป็นราคาที่เสนอซื้อสูงสุดในแต่ละคลัง ดังนั้นราคาขายของข้าวชนิดเดียวกันจึงไม่จำเป็นต้องเท่ากันหมด
คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการเจรจาตามหลักเกณฑ์และแนวทางดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รองประธาน กนข.) โดยเห็นสมควรจำหน่ายข้าวสารชนิดข้าวขาว 5% ปริมาณ 623,712.73 ตัน ให้กับผู้เสนอซื้อ 5 ราย เนื่องจากเป็นผู้เสนอราคาและเงื่อนไขดีที่สุด โดยเป็นผู้ที่เสนอราคาสูงสุดตามหลักเกณฑ์การเจรจาต่อรองในแต่ละคลังและในคลังที่มีการเสนอซื้อซ้ำคลังกับรายอื่น อีกทั้งราคาเสนอซื้อสูงกว่าราคาตลาด คือ
- บจก. แคปปิตัลซีเรียลส์ ปริมาณ 39,199.799 ตัน ราคาตันละ 300 และ 297 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. ไทยฟ้า (2511) ปริมาณ 53,723.121 ตัน ราคาตันละ 297 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. เจียเม้ง ปริมาณ 40,487.180 ตัน ราคาตันละ 297 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. ซี.พี. อินเตอร์เทรด ปริมาณ 23,672.562 ตัน ราคาตันละ 295.50 เหรียญสหรัฐฯ
- บจก. เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง ปริมาณ 466,630.073 ตัน ราคาตันละ 295 เหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข) ได้อนุมัติตามที่คณะทำงานฯ เสนอ และให้องค์การคลังสินค้า (อคส) ทำสัญญาจำหน่ายข้าวสารให้กับผู้เสนอซื้อ 5 รายดังกล่าวต่อไป
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายข้าวในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้สามารถขายข้าวสารได้ในราคาสูงกว่าราคาตลาดที่เอกชนซื้อขายกันทั่วไปและสะท้อนให้เห็นว่าตลาดมีความต้องการข้าวสูงและราคาข้าวไทยเป็นไปตามภาวะที่แท้จริงของตลาดโลกโดยรัฐบาลได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายข้าว คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 184.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7,371.66 ล้านบาท อีกทั้งการระบายข้าวครั้งนี้ยังจะช่วยลดปริมาณข้าวในสต๊อกรัฐบาลซึ่งจะทำให้ภาระต้นทุนการเก็บรักษาข้าวของรัฐบาลลดลงได้อีกทางหนึ่งด้วย
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-