ส่งออกไก่-ข้าว อ่วมคู่แข่งดั๊มพ์ราคาสู้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 12, 2006 11:58 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          นางอัญชลี อุไรกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่าราคาสินค้าเกษตรปีนี้ทั้งพืชไร่ ปศุสัตว์และประมงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เพราะส่วนหนึ่งผลผลิตมีน้อย ด้านการส่งออกข้าวประสบภาวะแข่งขันค่อนข้างสูงกับเวียดนาม ซึ่งในปีที่ผ่านมาเวียดนามสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดส่งออกข้าวจากไทยไปได้มาก เนื่องจากเวียดนามได้พัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างรวดเร็วโดยภาครัฐให้การสนับสนุนศึกษาวิจัยอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนไทย รัฐบาลสนับสนุนงานวิจัยน้อยมาก ซึ่งในเวลานี้รัฐบาลไทยควรจะต้องเร่งรัดการพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากยิ่งขึ้น
นายนิพนธ์ วงษ์ตะหง่าน คณะทำงานด้านการเกษตรสหกรณ์-อาหาร สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) กล่าวว่าการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้คาดว่าจะมีการส่งออก 7.3 ล้านตันในขณะที่ปีก่อนมีการส่งออกประมาณ 7.2 ล้านตันโดยในปีนี้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น 18 ล้านตัน การที่รัฐบาลแทรกแซงราคาข้าวนับเป็นปัญหาให้แก่ผู้ส่งออกคือตั้งราคาสูงกว่าความเป็นจริง ทำให้ปริมาณข้าวที่อยู่ในมือผู้ส่งออกมีน้อย
นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ในพระราชูปถัมภ์ ได้กล่าวว่าการส่งออกไก่เนื้อของไทยปัจจุบันประสบภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นเพราะประเทศบราซิลได้ขยายกำลังการผลิตถึง 120 ล้านตัวต่อสัปดาห์โดยไก่ของบราซิลมีต้นทุนต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2 บาทจะเป็นเหตุให้ไทยสูญเสียตลาดเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ไก่แปรรูปของไทยยังสามารถแข่งขันได้เนื่องจากคุณภาพของสินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้โดยในปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้ตามเป้าหมายที่ 3.5 แสนตัน
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย ได้กล่าวถึงราคากุ้งในประเทศว่าขณะนี้ราคาเริ่มลดลงโดยเหลือเพียงกิโลกรัมละ 80 บาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์ ลานิญา ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักสภาพน้ำในบ่อมีความเค็มต่ำทำให้อัตราการเลี้ยงกุ้งมีอัตราการรอดต่ำ ทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งต้องเร่งจับกุ้งก่อนกำหนดในเวลาที่พร้อมกันเป็นเหตุให้กุ้งออกสู่ตลาดมากขึ้นและมีขนาดที่เล็กทำให้ราคาลดลง ด้านการส่งออกกุ้งในปีนี้มีราคาดีขึ้นเป็นเพราะสามารถส่งออกไปยังสหภาพยุโรป(อียู)ได้มากขึ้นประกอบกับการเลี้ยงกุ้งในช่วงต้นปีเป็นไปตามเป้าหมาย สำหรับในปี 2550 คาดว่าการส่งออกกุ้งจะดีขึ้นมากเพราะคาดว่าภูมิอากาศจะเข้าสู่ภาวะปกติ การเลี้ยงกุ้งของไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายและมีการพัฒนามากขึ้นและคาดว่าอียูจะนำเข้ากุ้งจากไทยถึง 20,000 ตัน และได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ถึง 50,000 ตันสำหรับตลาดอียูในระยะต่อไป
สำหรับยางพารา ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่มีราคาสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ในขณะนี้ราคาเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อยสาเหตุของการปรับตัวขึ้นของราคายางพาราเนื่องจากเกิดความต้องการที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์และมีความเป็นไปได้ว่าอีก 7 ปีข้างหน้าราคาอาจจะผันผวนกลับมาลดลงได้อีกเพราะปัจจุบันการปลูกยางพาราในประเทศเพื่อนบ้านขยายตัวสูงขึ้นมากซึ่งรัฐบาลจึงมีหน้าที่จะต้องมีแผนเตรียมรับสถานการณ์ต่อไป
ประเด็นวิเคราะห์:
โดยภาพรวมของสินค้าเกษตรไม่ว่าจะเป็นข้าว ไก่ กุ้ง และยางพารา มีแนวโน้มการส่งออกอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ข้าว ประเทศเวียดนามซึ่งไทยเสียส่วนแบ่งตลาดให้แก่เวียดนามไปบ้างแล้วในหลายตลาด รัฐบาลไทยควรสนับสนุนการวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าวต่างๆ และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากยิ่งขึ้น สำหรับแนวโน้มราคาปศุสัตว์ เช่น ไก่เนื้อ โดยเฉพาะการส่งออกไก่แปรรูปและไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง ซึ่งมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องซึ่งจะมีการผลิตเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นเหตุให้ราคาปรับตัวลดลง
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ