นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง Mr. Daniel A. Witt President, International Tax and Investment Center (ITIC) Professor Dr. Richard M. Bird, University of Toronto, Former Director of Tax Policy of the Fiscal Affairs Department of the IMF และ Mr. Hafiz Choudhury, Director, International Bureau of Fiscal Documentation, Amsterdam and Washington, DC. เปิดเผยความคืบหน้าของการจัดประชุม Asia Tax Forum ครั้งที่ 3 ดังนี้
กระทรวงการคลังได้ร่วมกับ Public Finance Institute of the Philippines Inc. (PFIP) ประเทศ ฟิลิปปินส์ และ International Tax and Investment Center (ITIC) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Asia Tax Forum ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2549 ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพมหานคร โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งจัดขึ้นในปี 2548 ที่ประเทศสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ตามลำดับ
การประชุม Asia Tax Forum เป็นเวทีภาษีในระดับภูมิภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับประเด็นทางภาษีต่างๆ โดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีในแต่ละสาขามานำเสนอบทความ หลังจากนั้นที่ประชุมจะร่วมอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 60 คน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิชาการจากประเทศต่างๆ ในเอเชียรวม 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน ฮ่องกง อินเดีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีประเทศนอกภูมิภาคเอเชียที่สนใจเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้อีก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ
การประชุมครั้งนี้ยังคงเน้นการพิจารณาภาษีทางอ้อมโดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นหลัก โดยวาระของการประชุมในแต่ละ session ประกอบด้วย การนำเสนอบทความของแต่ละประเทศเกี่ยวกับภาพรวมของพัฒนาการการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มในรูปแบบต่างๆ การนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์และผลกระทบของการเจรจาในกรอบองค์การการค้าโลกที่มีต่อภาษีทางอ้อม
การนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดโครงสร้างและอัตราภาษีที่เหมาะสมของภาษีสรรพสามิต การนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมพิเศษต่างๆ และข้อดีข้อเสียของการกันรายได้ภาษีส่วนหนึ่งเพื่อกิจกรรมบางประเภท และการนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับชนิดและประเภทของภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งแนวทางในการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริการด้านการเงินและการธนาคาร
นายนริศ ชัยสูตร มั่นใจว่า การประชุมในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านนวัตกรรมของภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งจะก่อให้เกิดแนวทางและประเด็นด้านภาษีทางอ้อมในมิติต่างๆ ที่กระทรวงการคลังจะสามารถดำเนินการวิจัยและวิเคราะห์ต่อเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มที่เหมาะสมของไทยในอนาคตต่อไป
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 60/2549 22มิถุนายน 49--
กระทรวงการคลังได้ร่วมกับ Public Finance Institute of the Philippines Inc. (PFIP) ประเทศ ฟิลิปปินส์ และ International Tax and Investment Center (ITIC) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Asia Tax Forum ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2549 ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพมหานคร โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งจัดขึ้นในปี 2548 ที่ประเทศสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ตามลำดับ
การประชุม Asia Tax Forum เป็นเวทีภาษีในระดับภูมิภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับประเด็นทางภาษีต่างๆ โดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีในแต่ละสาขามานำเสนอบทความ หลังจากนั้นที่ประชุมจะร่วมอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 60 คน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิชาการจากประเทศต่างๆ ในเอเชียรวม 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน ฮ่องกง อินเดีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีประเทศนอกภูมิภาคเอเชียที่สนใจเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้อีก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ
การประชุมครั้งนี้ยังคงเน้นการพิจารณาภาษีทางอ้อมโดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นหลัก โดยวาระของการประชุมในแต่ละ session ประกอบด้วย การนำเสนอบทความของแต่ละประเทศเกี่ยวกับภาพรวมของพัฒนาการการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มในรูปแบบต่างๆ การนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์และผลกระทบของการเจรจาในกรอบองค์การการค้าโลกที่มีต่อภาษีทางอ้อม
การนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดโครงสร้างและอัตราภาษีที่เหมาะสมของภาษีสรรพสามิต การนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมพิเศษต่างๆ และข้อดีข้อเสียของการกันรายได้ภาษีส่วนหนึ่งเพื่อกิจกรรมบางประเภท และการนำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับชนิดและประเภทของภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งแนวทางในการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริการด้านการเงินและการธนาคาร
นายนริศ ชัยสูตร มั่นใจว่า การประชุมในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านนวัตกรรมของภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งจะก่อให้เกิดแนวทางและประเด็นด้านภาษีทางอ้อมในมิติต่างๆ ที่กระทรวงการคลังจะสามารถดำเนินการวิจัยและวิเคราะห์ต่อเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มที่เหมาะสมของไทยในอนาคตต่อไป
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 60/2549 22มิถุนายน 49--