เอกชนไทยจับมือรัฐบาล ลุยเดินหน้าคดีพิพาทน้ำตาลกับสหภาพยุโรป

          นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  เปิดเผยว่า จากการที่ไทย ออสเตรเลีย และบราซิล ชนะคดีที่ยื่นฟ้องสหภาพยุโรปกรณีให้การอุดหนุนส่งออกน้ำตาลเกินกว่าที่ผูกพันไว้ใน WTO ซึ่งถือเป็นชัยชนะอันสำคัญขั้นแรกของทั้งสามประเทศ ทำให้สหภาพยุโรปต้องลดการอุดหนุนการส่งออกน้ำตาลลงเป็นไม่เกินปริมาณ 1.274 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 499.10 ล้านยูโรต่อปี ภายในวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 แต่สหภาพยุโรปบิดพริ้วที่จะปฏิบัติตามคำตัดสิน โดยอ้างว่าได้แก้ไขกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว และไม่มีการออกใบอนุญาตส่งออกน้ำตาลให้ผู้ประกอบการหลังวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 แต่ใบอนุญาตส่งออกที่ออกให้ก่อนวันดังกล่าว สามารถใช้ได้ต่อไปอีก 3 เดือนนับจากวันที่ออก ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณการอุดหนุนส่งออกน้ำตาลของสหภาพยุโรปสำหรับปี 2548-2549 มีปริมาณสูงถึง 7-8 ล้านตัน ซึ่งเกินกว่าระดับที่ผูกพันไว้กับ WTO ถึงเกือบ 6 เท่าตัว
          ด้วยเหตุนี้ ไทย บราซิล และออสเตรเลีย จึงได้ทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรปเพื่อขอสงวนสิทธิในการเจรจาขอรับการชดเชยและการตอบโต้ โดยในระหว่างนี้ ทั้งสามประเทศจะไม่ดำเนินการตอบโต้ใดๆ กับสหภาพยุโรป จนกว่าคณะผู้พิจารณาของ WTO จะตัดสินว่าสหภาพยุโรปผิดจริงที่ไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินดังกล่าว 
          อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดประชุมหารือกับภาคเอกชนอุตสาหกรรมน้ำตาลซึ่งรับทราบเรื่องมาโดยตลอด เพื่อเตรียมการรองรับในการดำเนินการสำหรับคดีดังกล่าว และผลจากการหารือมีข้อเสนอให้ใช้ช่วงระหว่างที่รอคำตัดสินของคณะผู้พิจารณาของ WTO ขอรับการสนับสนุนจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลในการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบที่อุตสาหกรรมน้ำตาลไทยได้รับจากการอุดหนุนส่งออกน้ำตาลของสหภาพยุโรป เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเจรจาขอรับการชดเชยและตอบโต้สหภาพยุโรปต่อไป
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-