กรุงเทพ--31 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศในการช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง (เลบานอนและอิสราเอล) ดังนี้
1. คนไทยในเลบานอน
- จนถึงปัจจุบัน ยอดคนไทยจากเลบานอน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ (คณะเจ้าหน้าที่ภายใต้การนำของอุปทูต ณ กรุงริยาด ไปตั้งศูนย์เฉพาะกิจในซีเรีย) ได้ประสานงานให้เดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว มี 35 คน และมีเจ้าหน้าที่คนไทยที่ทำงานกับ UNIFIL 2 คน ที่กลับมาประเทศไทย
- ยังมีคนไทยอยู่ในเลบานอนอีกจำนวนหนึ่ง กล่าวคือ กลุ่มคนไทย 32 คน ซึ่งได้เดินทางออกจากกรุงเบรุตไปหลบในพื้นที่ปลอดภัยห่างจากกรุงเบรุตไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 25 กม. เจ้าหน้าที่คนไทยประจำสำนักงาน UNIFIL (2 คน คือ คุณประเสริฐ คงรักเกียรติยศ และคุณนิรัตน์ ล้อสกุล) ซึ่งยังมีภารกิจของสหประชาชาติต้องปฏิบัติ และคนไทยที่อยู่กับคนท้องถิ่นรวมทั้งที่แต่งงานกับชาวเลบานอนจำนวนหนึ่งซึ่งต้องการจะอยู่กับครอบครัว
- กระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อกับกลุ่มคนไทย 32 คน ดังกล่าวแล้ว ได้ทราบว่า ขณะนี้ยังปลอดภัยดีและมีที่พักและเครื่องอุปโภคบริโภค จึงยังไม่ประสงค์ที่จะออกมาจากเลบานอนในชั้นนี้ แต่กระทรวงการต่างประเทศได้ขอให้ติดต่อกับคณะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ศูนย์เฉพาะกิจในซีเรีย ทันทีที่สถานการณ์รุนแรงขึ้นและคนไทยต้องการจะอพยพออกมา
ศูนย์เฉพาะกิจของกระทรวงการต่างประเทศดังกล่าวซึ่งมีอุปทูต ณ กรุงริยาดเป็นหัวหน้าศูนย์ มีเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ สอท. ณ กรุงริยาดและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจากกรุงเทพฯ 2 คน รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงดามัสกัสและชุมชนไทยในซีเรีย
อนึ่ง โดยที่สถานการณ์ชายแดนซีเรีย-เลบานอนดูจะมีความตึงเครียดขึ้นโดยมีการวางกำลังทหารซีเรียตรึงตามแนวชายแดน และไม่มีกลุ่มคนไทยกลุ่มใหม่ประสงค์จะอพยพออกมา ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ได้มีการย้ายที่ตั้งเจ้าหน้าที่ไทยจากที่เดิมซึ่งห่างจากชายแดนเพียง 20 กม. เข้ามาในกรุงดามัสกัสห่างจากชายแดน 60 กม.
- เจ้าหน้าที่คนไทยใน UNIFIL ทั้ง 2 คน ยังปลอดภัยดี และไม่ได้รับผลกระทบจากการที่กองกำลังอิสราเอลโจมตีที่ตั้งของสหประชาชาติในเลบานอนเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี สหประชาชาติได้สั่งอพยพ non-essential staff ออกจากเลบานอนแล้ว และหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นก็อาจจะต้องอพยพเจ้าหน้าที่สหประชาชาติทั้งหมดออกจากเลบานอน นอกจากนั้น อธิบดีกรมการกงสุลได้ติดต่อกับอุปทูตสุวัฒน์ฯ ซึ่งได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนไทยในสำนักงาน UNDOF — United Nations Disengagement Observer Force ซึ่งตั้งอยู่ที่ที่ราบสูงโกลาน
ในซีเรีย ทราบว่า มีการติดต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยใน UNIFIL ในเลบานอนและ UNDOF
ในซีเรียอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามสถานการณ์ต่อไป
2. คนไทยในอิสราเอล
- สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟรายงานว่า นับจนถึงวันที่ 27 ก.ค. 2549 สอท.ฯ ได้ประสานงานกับบริษัทจัดหางานอิสราเอล อพยพคนงานไทยจำนวน 379 ราย ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปสู่พื้นที่ที่ปลอดภัยกว่าในอิสราเอลแล้ว ในจำนวนนี้ มี 28 ราย ที่ได้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ออท. ณ กรุงเทลอาวีฟแจ้งว่า การเดินทางกลับของคนงานไทย 28 รายนี้ บริษัทจัดหางานอิสราเอลเป็นผู้ประสานงานส่งตัวกลับและจัดหาบัตรโดยสารเครื่องบิน ตามเงื่อนไขสัญญาจ้าง แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ (1) คนไทยที่ทำงานครบวาระสัญญาจ้าง ถึงกำหนดกลับพอดี และไม่ได้ต่ออายุสัญญาจ้างใหม่ (2) คนไทยที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านและพักผ่อน และ(3) คนไทยที่ขอเดินทางกลับเนื่องจากไม่ไว้ใจในสถานการณ์ และจะกลับถึงประเทศไทยวันนี้อีก 3 คน คือ นายสุพจน์ จันทรเสนา นายสวัสด์ โสมนัส และ นายรัตมะณี หิรัญอร
- ช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ค. 2549 กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้แจ้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง กระทรวงการต่างประเทศ ว่า จะมีคนงานไทยชุดใหม่อีก 17 คน เดินทางกลับประเทศไทย (จากการประสานงานกับ สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟ ทราบว่า
ออท. ณ กรุงเทลอาวีฟก็ได้รับแจ้งจาก อทป. แรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟแล้วเช่นกัน) กำหนดเดินทางกลับถึง กทม. โดยเที่ยวบินที่ LY 081 เวลา 14.30 น. วันอาทิตย์ที่ 30 ก.ค. 2549
- นับจนถึงขณะนี้ มีคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบแล้ว 3 คน คือ
นายเพย เจริญยิ่ง นายสุรพจน์ บุตรพรม และนายเสถียน บุญฤทธิ์ ทั้งนี้ 2 คนแรกได้รับการรักษาจนปลอดภัยแล้ว สอท.ฯ ยังติดตามอาการของนายเสถียน บุญฤทธิ์ อยู่ ในชั้นนี้
อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่แพทย์ยังให้พักอยู่ในห้อง ICU ของ รพ.เพื่อดูอาการต่อไป และได้มีการประสานแจ้งญาติที่ประเทศไทยทราบแล้ว
3. การติดต่อประสานงานกับรัฐบาลมิตรประเทศและองค์การระหว่างประเทศ
- เมื่อ 27 ก.ค. 2549 นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ รองปลัดกระทรวงฯ ได้พบกับนาง Irena Vojackova-Follorano ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน (International Organization on Migration - IOM) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้ขอให้ IOM ช่วยเหลือคนไทยที่จะอพยพลี้ภัยออกจากเลบานอนหากจำเป็นต้องอพยพออกมา และแจ้งชื่อคนไทยที่ยังคงอยู่ในเลบานอนให้ IOM ทราบ ซึ่งผู้แทน IOM รับที่จะให้ความช่วยเหลือคนไทย โดยแจ้งว่า IOM มีสำนักงานในซีเรีย และจะให้ จนท. IOM ประสานงานกับอุปทูตสุวัฒน์ฯ ต่อไป (เมื่อ 28 ก.ค. อุปทูตสุวัฒน์ฯ ยืนยันกับศูนย์ฯ ว่า IOM Operation Officer ประจำซีเรียได้ติดต่อประสานงานมาแล้ว)
- กระทรวงฯ ได้มีหนังสือถึง ออท. สหรัฐฯ และอังกฤษ ประจำประเทศไทย แจ้งชื่อคนไทยที่ยังอยู่ในเลบานอน และขอให้ทางการสหรัฐฯ และอังกฤษ ให้ความช่วยเหลือคนไทยในการอพยพหากจำเป็น
- รมว.กต. ออสเตรเลียแจ้งที่ประชุม AMM-PMC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า ออสเตรเลียกำลังดำเนินการอพยพคนออสเตรเลียออกจากเลบานอน และยินดีจะช่วยประชาชนประเทศอาเซียนที่อยู่ในเลบานอนด้วย แต่ต้องให้ความสำคัญกับคนออสเตรเลียก่อน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศในการช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง (เลบานอนและอิสราเอล) ดังนี้
1. คนไทยในเลบานอน
- จนถึงปัจจุบัน ยอดคนไทยจากเลบานอน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ (คณะเจ้าหน้าที่ภายใต้การนำของอุปทูต ณ กรุงริยาด ไปตั้งศูนย์เฉพาะกิจในซีเรีย) ได้ประสานงานให้เดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว มี 35 คน และมีเจ้าหน้าที่คนไทยที่ทำงานกับ UNIFIL 2 คน ที่กลับมาประเทศไทย
- ยังมีคนไทยอยู่ในเลบานอนอีกจำนวนหนึ่ง กล่าวคือ กลุ่มคนไทย 32 คน ซึ่งได้เดินทางออกจากกรุงเบรุตไปหลบในพื้นที่ปลอดภัยห่างจากกรุงเบรุตไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 25 กม. เจ้าหน้าที่คนไทยประจำสำนักงาน UNIFIL (2 คน คือ คุณประเสริฐ คงรักเกียรติยศ และคุณนิรัตน์ ล้อสกุล) ซึ่งยังมีภารกิจของสหประชาชาติต้องปฏิบัติ และคนไทยที่อยู่กับคนท้องถิ่นรวมทั้งที่แต่งงานกับชาวเลบานอนจำนวนหนึ่งซึ่งต้องการจะอยู่กับครอบครัว
- กระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อกับกลุ่มคนไทย 32 คน ดังกล่าวแล้ว ได้ทราบว่า ขณะนี้ยังปลอดภัยดีและมีที่พักและเครื่องอุปโภคบริโภค จึงยังไม่ประสงค์ที่จะออกมาจากเลบานอนในชั้นนี้ แต่กระทรวงการต่างประเทศได้ขอให้ติดต่อกับคณะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ศูนย์เฉพาะกิจในซีเรีย ทันทีที่สถานการณ์รุนแรงขึ้นและคนไทยต้องการจะอพยพออกมา
ศูนย์เฉพาะกิจของกระทรวงการต่างประเทศดังกล่าวซึ่งมีอุปทูต ณ กรุงริยาดเป็นหัวหน้าศูนย์ มีเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ สอท. ณ กรุงริยาดและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจากกรุงเทพฯ 2 คน รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงดามัสกัสและชุมชนไทยในซีเรีย
อนึ่ง โดยที่สถานการณ์ชายแดนซีเรีย-เลบานอนดูจะมีความตึงเครียดขึ้นโดยมีการวางกำลังทหารซีเรียตรึงตามแนวชายแดน และไม่มีกลุ่มคนไทยกลุ่มใหม่ประสงค์จะอพยพออกมา ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ได้มีการย้ายที่ตั้งเจ้าหน้าที่ไทยจากที่เดิมซึ่งห่างจากชายแดนเพียง 20 กม. เข้ามาในกรุงดามัสกัสห่างจากชายแดน 60 กม.
- เจ้าหน้าที่คนไทยใน UNIFIL ทั้ง 2 คน ยังปลอดภัยดี และไม่ได้รับผลกระทบจากการที่กองกำลังอิสราเอลโจมตีที่ตั้งของสหประชาชาติในเลบานอนเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี สหประชาชาติได้สั่งอพยพ non-essential staff ออกจากเลบานอนแล้ว และหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นก็อาจจะต้องอพยพเจ้าหน้าที่สหประชาชาติทั้งหมดออกจากเลบานอน นอกจากนั้น อธิบดีกรมการกงสุลได้ติดต่อกับอุปทูตสุวัฒน์ฯ ซึ่งได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนไทยในสำนักงาน UNDOF — United Nations Disengagement Observer Force ซึ่งตั้งอยู่ที่ที่ราบสูงโกลาน
ในซีเรีย ทราบว่า มีการติดต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยใน UNIFIL ในเลบานอนและ UNDOF
ในซีเรียอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามสถานการณ์ต่อไป
2. คนไทยในอิสราเอล
- สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟรายงานว่า นับจนถึงวันที่ 27 ก.ค. 2549 สอท.ฯ ได้ประสานงานกับบริษัทจัดหางานอิสราเอล อพยพคนงานไทยจำนวน 379 ราย ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปสู่พื้นที่ที่ปลอดภัยกว่าในอิสราเอลแล้ว ในจำนวนนี้ มี 28 ราย ที่ได้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ออท. ณ กรุงเทลอาวีฟแจ้งว่า การเดินทางกลับของคนงานไทย 28 รายนี้ บริษัทจัดหางานอิสราเอลเป็นผู้ประสานงานส่งตัวกลับและจัดหาบัตรโดยสารเครื่องบิน ตามเงื่อนไขสัญญาจ้าง แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ (1) คนไทยที่ทำงานครบวาระสัญญาจ้าง ถึงกำหนดกลับพอดี และไม่ได้ต่ออายุสัญญาจ้างใหม่ (2) คนไทยที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านและพักผ่อน และ(3) คนไทยที่ขอเดินทางกลับเนื่องจากไม่ไว้ใจในสถานการณ์ และจะกลับถึงประเทศไทยวันนี้อีก 3 คน คือ นายสุพจน์ จันทรเสนา นายสวัสด์ โสมนัส และ นายรัตมะณี หิรัญอร
- ช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ค. 2549 กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้แจ้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง กระทรวงการต่างประเทศ ว่า จะมีคนงานไทยชุดใหม่อีก 17 คน เดินทางกลับประเทศไทย (จากการประสานงานกับ สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟ ทราบว่า
ออท. ณ กรุงเทลอาวีฟก็ได้รับแจ้งจาก อทป. แรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟแล้วเช่นกัน) กำหนดเดินทางกลับถึง กทม. โดยเที่ยวบินที่ LY 081 เวลา 14.30 น. วันอาทิตย์ที่ 30 ก.ค. 2549
- นับจนถึงขณะนี้ มีคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบแล้ว 3 คน คือ
นายเพย เจริญยิ่ง นายสุรพจน์ บุตรพรม และนายเสถียน บุญฤทธิ์ ทั้งนี้ 2 คนแรกได้รับการรักษาจนปลอดภัยแล้ว สอท.ฯ ยังติดตามอาการของนายเสถียน บุญฤทธิ์ อยู่ ในชั้นนี้
อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่แพทย์ยังให้พักอยู่ในห้อง ICU ของ รพ.เพื่อดูอาการต่อไป และได้มีการประสานแจ้งญาติที่ประเทศไทยทราบแล้ว
3. การติดต่อประสานงานกับรัฐบาลมิตรประเทศและองค์การระหว่างประเทศ
- เมื่อ 27 ก.ค. 2549 นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ รองปลัดกระทรวงฯ ได้พบกับนาง Irena Vojackova-Follorano ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน (International Organization on Migration - IOM) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้ขอให้ IOM ช่วยเหลือคนไทยที่จะอพยพลี้ภัยออกจากเลบานอนหากจำเป็นต้องอพยพออกมา และแจ้งชื่อคนไทยที่ยังคงอยู่ในเลบานอนให้ IOM ทราบ ซึ่งผู้แทน IOM รับที่จะให้ความช่วยเหลือคนไทย โดยแจ้งว่า IOM มีสำนักงานในซีเรีย และจะให้ จนท. IOM ประสานงานกับอุปทูตสุวัฒน์ฯ ต่อไป (เมื่อ 28 ก.ค. อุปทูตสุวัฒน์ฯ ยืนยันกับศูนย์ฯ ว่า IOM Operation Officer ประจำซีเรียได้ติดต่อประสานงานมาแล้ว)
- กระทรวงฯ ได้มีหนังสือถึง ออท. สหรัฐฯ และอังกฤษ ประจำประเทศไทย แจ้งชื่อคนไทยที่ยังอยู่ในเลบานอน และขอให้ทางการสหรัฐฯ และอังกฤษ ให้ความช่วยเหลือคนไทยในการอพยพหากจำเป็น
- รมว.กต. ออสเตรเลียแจ้งที่ประชุม AMM-PMC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า ออสเตรเลียกำลังดำเนินการอพยพคนออสเตรเลียออกจากเลบานอน และยินดีจะช่วยประชาชนประเทศอาเซียนที่อยู่ในเลบานอนด้วย แต่ต้องให้ความสำคัญกับคนออสเตรเลียก่อน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-