แท็ก
พรรคประชาธิปัตย์
วันนี้ (1 ก.ย.49) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ รองหหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีการลอบวางระเบิดหลายพื้นที่ใน จ.ยะลา ว่าขอแสดงความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ยะลาเมื่อวานนี้ที่มีระเบิด 20 แห่งมีประชาชนเสียชีวิต 1 คนบาดเจ็บเกือบ 30 คนมันสะท้อนถึงวิธีคิดวีธีแก้ปัญหาที่ยังไม่เป็นเอกภาพ และยังคลำทางอยู่เหมือนเดิมทั้งๆ ที่ยื่นยันมาโดยตลอดว่า เดินมาถูกทางว่ารู้ตัวมาก่อน มีข่าวมาก่อน
พร้อมกันนี้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ลักษณะที่เกิดขึ้นระยะหลัง มักจะเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายพื้นที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งกำลังดำเนินไปในทิศทางที่นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีพูดเมี่อวานนี้ (31 ส.ค.49) ว่าเป็นรัฐที่กำลังล้มเหลว (failed state) น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง นอกจากการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ไม่มีเอกภาพ มีความขัดแย้งกันในการดำเนินการในการพยายามที่จะประสานงาน แต่ดูเหมือนจะสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันบ่อยขึ้นมากยิ่งขึ้น
“เมื่อไม่นานมานี้ พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 พูดชัดเจนว่า เป็นเรื่องของการเมืองภายในองค์กรและสถาบันที่พยายามที่จะแก้ปัญหากันเอง และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บอกว่าไม่ต้องการให้การเมืองเข้ามาก้าวก่ายซึ่งก็คงหมายถงการเมืองระดับประเทศในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้ง เต็มไปด้วยความไม่ลงรอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับรัฐบาลในองค์กรและสถาบันของทหารเองซึ่งเป็นเรื่องที่จะมีผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาในพื้นที่โดยตรง” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนเกิดความรุนแรงระเบิดขึ้น 50 แห่งใน 3 จังหวัดภาคใต้ปฏิกิริยาจากรัฐบาลจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ตามที่ออกมาให้สัมภาษณ์คือ รู้แล้วว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานนี้ เมื่อถูกถามบอกในลักษณะเดียวกันว่า ทราบทางการข่าวบอกล่วงหน้าว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น
“ประเด็นที่ต้องขอร้องและต้องตั้งข้อสังเกตว่า มันเป็นเรื่องของการไม่มีการประสานงาน ไม่มีการมอบอำนาจ ไม่มีการกระจายความรับผิดชอบเป็นลักษณะเดิมๆ ที่เคยตัดสินทุกอย่าง เคยกำหนดทุกอย่างและเคยมีความเห็นกับทุกเรื่อง ประโยคหนึ่งซึ่งฟังแล้วบาดใจมากก็คือ ประโยคที่ไม่ควรจะออกมานั่นก็คือประโยคที่บอกว่า ใหมุสลิมพูดกับมุสลิมให้รู้เรื่องเป็นการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายแบ่งพวกปัญหาที่มันเกิดขึ้นเพราะไม่ได้มอบหมายอำนาจ ไม่ได้มอบหมายภารกิจพร้อมกับอำนาจเคยรวบอำนาจอยู่อย่างไรก็ยังพยายามที่จะชักใยอยู่เหมือนเดิมจนกระทั่งผู้ปฏิบัติสับสนดังที่แม่ทัพภาคที่ 4 เคยออกมาบ่นเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า เหมือนกับที่ พล.อ.สนธิพูดเมื่อเช้านี้ว่า อย่าให้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องการเมืองนี้คงไม่ใช่การเมืองท้องถิ่น แต่การเมืองนี้เป็นการเมืองทีผู้บังคับบัญชาการเมืองในรัฐบาลที่ก้าวก่ายการเมืองที่แย่งผลงานกันที่แย่งเครดิตกันจนกระทั่งงานไม่เป็นเอกภาพ
“ เพราะฉะนั้นขอความกรุณาว่าถ้าจะมอบหมายให้ใครไปทำงานก็ต้องมอบหมายพร้อมกับอำนาจที่ชัดเจนและต้องยอมรับด้วยว่า ความผิดพลาดทั้งหมดทั้หลายที่เกิดขึ้นนั้น เพราะประเมินสถานการณ์ผิดมาโดยตลอดลึงจะถึงเวลาที่จะต้องประเมินวิธิคิดวิธีทำงานที่จะนำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงรุนแรงขยายวงกว้างขวางยิ่งขึ้น ไม่ควรจะลอยตัวอยู่เหนือปัญหาอีกต่อไป ไม่ควรที่จะปัดปฏิเสธว่าเป็นหน้าที่ของคนโน้น เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของผู้นั้นที่ได้รับมอบหมายไปแล้วเอาเข้าจริงๆ มันเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องจากการไม่เคยมอบอำนาจ ไม่เคยให้อำนาจกับคนที่จะลงไปแก้ไขปัญหาก้าวก่ายตลอดเหมือนที่ทุกฝ่าย ผู้ปฏิบัติบ่นกันอยู่ตลอดเวลา” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อไปอีกว่า วันนี้แสดงความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่งและก็อยากจะเห็นการประเมินสถานการณ์อย่างจริงจังและก็ไม่ปัดความรับผิดชอบและก็ไม่พูดจาในเชิงที่จะแบ่งแยกเหมือนที่พูดออกมาเมื่อคืนนี้
“พรรคประชาธิปัตย์จะแถลงวาระที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภาคใต้โดยเฉพาะภายในสัปดาห์หน้าหรือ 10 วัน (11 กันยายน 2549) ข้างหน้านี้กำลังรวบรวมเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อแถลงละเอียดครอบคลุมอีกครั้งหนึ่ง” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ก.ย. 2549--จบ--
พร้อมกันนี้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ลักษณะที่เกิดขึ้นระยะหลัง มักจะเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายพื้นที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งกำลังดำเนินไปในทิศทางที่นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีพูดเมี่อวานนี้ (31 ส.ค.49) ว่าเป็นรัฐที่กำลังล้มเหลว (failed state) น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง นอกจากการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ไม่มีเอกภาพ มีความขัดแย้งกันในการดำเนินการในการพยายามที่จะประสานงาน แต่ดูเหมือนจะสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันบ่อยขึ้นมากยิ่งขึ้น
“เมื่อไม่นานมานี้ พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 พูดชัดเจนว่า เป็นเรื่องของการเมืองภายในองค์กรและสถาบันที่พยายามที่จะแก้ปัญหากันเอง และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บอกว่าไม่ต้องการให้การเมืองเข้ามาก้าวก่ายซึ่งก็คงหมายถงการเมืองระดับประเทศในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้ง เต็มไปด้วยความไม่ลงรอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับรัฐบาลในองค์กรและสถาบันของทหารเองซึ่งเป็นเรื่องที่จะมีผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาในพื้นที่โดยตรง” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนเกิดความรุนแรงระเบิดขึ้น 50 แห่งใน 3 จังหวัดภาคใต้ปฏิกิริยาจากรัฐบาลจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ตามที่ออกมาให้สัมภาษณ์คือ รู้แล้วว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานนี้ เมื่อถูกถามบอกในลักษณะเดียวกันว่า ทราบทางการข่าวบอกล่วงหน้าว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น
“ประเด็นที่ต้องขอร้องและต้องตั้งข้อสังเกตว่า มันเป็นเรื่องของการไม่มีการประสานงาน ไม่มีการมอบอำนาจ ไม่มีการกระจายความรับผิดชอบเป็นลักษณะเดิมๆ ที่เคยตัดสินทุกอย่าง เคยกำหนดทุกอย่างและเคยมีความเห็นกับทุกเรื่อง ประโยคหนึ่งซึ่งฟังแล้วบาดใจมากก็คือ ประโยคที่ไม่ควรจะออกมานั่นก็คือประโยคที่บอกว่า ใหมุสลิมพูดกับมุสลิมให้รู้เรื่องเป็นการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายแบ่งพวกปัญหาที่มันเกิดขึ้นเพราะไม่ได้มอบหมายอำนาจ ไม่ได้มอบหมายภารกิจพร้อมกับอำนาจเคยรวบอำนาจอยู่อย่างไรก็ยังพยายามที่จะชักใยอยู่เหมือนเดิมจนกระทั่งผู้ปฏิบัติสับสนดังที่แม่ทัพภาคที่ 4 เคยออกมาบ่นเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า เหมือนกับที่ พล.อ.สนธิพูดเมื่อเช้านี้ว่า อย่าให้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องการเมืองนี้คงไม่ใช่การเมืองท้องถิ่น แต่การเมืองนี้เป็นการเมืองทีผู้บังคับบัญชาการเมืองในรัฐบาลที่ก้าวก่ายการเมืองที่แย่งผลงานกันที่แย่งเครดิตกันจนกระทั่งงานไม่เป็นเอกภาพ
“ เพราะฉะนั้นขอความกรุณาว่าถ้าจะมอบหมายให้ใครไปทำงานก็ต้องมอบหมายพร้อมกับอำนาจที่ชัดเจนและต้องยอมรับด้วยว่า ความผิดพลาดทั้งหมดทั้หลายที่เกิดขึ้นนั้น เพราะประเมินสถานการณ์ผิดมาโดยตลอดลึงจะถึงเวลาที่จะต้องประเมินวิธิคิดวิธีทำงานที่จะนำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงรุนแรงขยายวงกว้างขวางยิ่งขึ้น ไม่ควรจะลอยตัวอยู่เหนือปัญหาอีกต่อไป ไม่ควรที่จะปัดปฏิเสธว่าเป็นหน้าที่ของคนโน้น เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของผู้นั้นที่ได้รับมอบหมายไปแล้วเอาเข้าจริงๆ มันเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องจากการไม่เคยมอบอำนาจ ไม่เคยให้อำนาจกับคนที่จะลงไปแก้ไขปัญหาก้าวก่ายตลอดเหมือนที่ทุกฝ่าย ผู้ปฏิบัติบ่นกันอยู่ตลอดเวลา” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อไปอีกว่า วันนี้แสดงความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่งและก็อยากจะเห็นการประเมินสถานการณ์อย่างจริงจังและก็ไม่ปัดความรับผิดชอบและก็ไม่พูดจาในเชิงที่จะแบ่งแยกเหมือนที่พูดออกมาเมื่อคืนนี้
“พรรคประชาธิปัตย์จะแถลงวาระที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภาคใต้โดยเฉพาะภายในสัปดาห์หน้าหรือ 10 วัน (11 กันยายน 2549) ข้างหน้านี้กำลังรวบรวมเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อแถลงละเอียดครอบคลุมอีกครั้งหนึ่ง” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ก.ย. 2549--จบ--