แท็ก
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
ประชาชาติ
รัฐบาลไทย
กรุงเทพ--10 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยที่เคารพ
วันนี้เป็นวันครบรอบ ๓๙ ปีของการจัดตั้งสมาคมแห่งประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ผมขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังรัฐบาลและพี่น้องประชาชนของมิตรประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยความจริงใจ
อาเซียนได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ จากความพยายามของ ๕ ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และไทย ที่จะรวมกลุ่มกันภายในภูมิภาคนี้เพื่อสร้างความสมานฉันท์ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือระหว่างกันในท่ามกลางของบรรยากาศยุคสงครามเย็น ในปัจจุบันนี้ อาเซียนมีสมาชิกเพิ่มเป็น ๑๐ ประเทศ และกำลังพัฒนาจากการเป็นกลุ่มความร่วมมือในภูมิภาคไปสู่การเป็น “ประชาคมอาเซียน” ภายในปีพุทธศักราช ๒๕๖๓ หรืออีก ๑๔ ปีข้างหน้า ซึ่งประกอบด้วย ๓ เสาหลัก คือประชาคมความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจ และประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียน
ประชาคมความมั่นคงอาเซียนจะทำให้ประเทศสมาชิกมีความพร้อมในการป้องกันและจัดการกับความขัดแย้งระหว่างกันมากขึ้น ด้วยการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันทั้งในภูมิภาคนี้และในระดับโลก พร้อมทั้งมีมาตรการที่จะรับมือกับภัยความมั่นคงในรูปแบบใหม่ อาทิ ภัยจาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ นอกจากนี้ อาเซียนยังได้ตระหนักถึงการจะส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยและสนับสนุนสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในเด็กและสตรี ซึ่งจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและสมานฉันท์
ส่วนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น อาเซียนกำลังเร่งการรวมตัวทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างเขตการค้าเสรีอาเซียนและเขตการลงทุนอาเซียน เพื่อพัฒนาให้อาเซียนซึ่งมีประชากรกว่า ๕๕๐ ล้านคนและมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ เป็นตลาดและฐานการผลิตที่เป็นหนึ่งเดียวกันภายในปี ๒๕๕๘ ซึ่งจะทำให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจ น่าลงทุนและมีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจมากขึ้น
นอกจากนี้ อาเซียนยังมุ่งสร้างประชาคมสังคม-วัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนในภูมิภาคมีความเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน ร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติ และสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเอดส์และไข้หวัดนก รวมทั้งมุ่งเพิ่มมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ประเทศสมาชิกอาเซียนยังได้ให้ความสำคัญกับเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของอาเซียน โดยได้กำหนดหัวข้อการเฉลิมฉลองในปีนี้ว่า “อาเซียนและเยาวชนหรือ ASEAN and Young People” อีกด้วย
พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
ในยุคโลกาภิวัตน์ สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านของเราหรือในภูมิภาคอื่นของโลก ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งทางบวกและทางลบ ทั้งที่เป็นโอกาสและสิ่งท้าทาย เราจึงต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศในภูมิภาคนี้ เพราะการมีศักยภาพและความเข้มแข็งจากการรวมตัวในด้านต่าง ๆ จะทำให้อาเซียนเป็นที่สนใจของนานาประเทศ
ในปัจจุบัน อาเซียนมีกลไกที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศภายนอกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของโลก ๑๐ ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประชาคมยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน รัสเซีย อินเดีย และแคนาดา ทำให้อาเซียนได้รับประโยชน์จากประเทศเหล่านี้ ทั้งในด้านการส่งเสริมการพัฒนาทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และขณะนี้มีหลายประเทศกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับอาเซียน ซึ่งหมายถึงตลาดขนาดใหญ่สำหรับสินค้าไทยในอนาคตด้วย
คริสต์ศตวรรษที่ ๒๑ นี้ หลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน อินเดีย และเวียดนาม ต่างมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิคดวามพยายามที่จะสร้างประชาคมเอเชียตะวันออก ซึ่งมีประชากรรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชาคมโลก และประเทศเหล่านี้ ยอมรับให้อาเซียนมีบทบาทนำในการสร้างประชาคมเอเชียตะวันออก ดังนั้น การเป็นสมาชิกของอาเซียนจึงช่วยเสริมสร้างบทบาทและภาพพจน์ของประเทศไทยในภูมิภาค และนำประโยชน์มาสู่พี่น้องคนไทยและสังคมไทยอย่างแท้จริง
ในขณะที่อาเซียนกำลังเร่งพัฒนาและก้าวไกลในกระแสโลกาภิวัตน์ที่นำมาทั้งโอกาสและสิ่งท้าทายนานัปการนี้ ผมอยากให้ประชาชนอาเซียน โดยเฉพาะอย่ายิ่งเยาวชนของอาเซียน มีความปรองดองกันและหมั่นศึกษาหาความรู้ในวิทยากรใหม่ ๆ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันภัยคุกคามต่าง ๆ ทั้งจากภายในและภายนอก และเป็นพลังที่จะผลักดันให้พัฒนาการของประชาคมอาเซียนสำเร็จลุล่วงเป็นประชาคมที่นำประโยขน์สุขมาสู่ประเทศและประชาชนทุกคนต่อไป
ในโอกาสนี้ ผมขออำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลที่ทุกท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลให้พี่น้องประชาชนชาวไทย และพี่น้องประชาชนของมิตรประเทศสมาชิกอาเซียน จงประสบแต่ความผาสุขสวัสดีโดยทั่วกัน
ขอบคุณครับ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยที่เคารพ
วันนี้เป็นวันครบรอบ ๓๙ ปีของการจัดตั้งสมาคมแห่งประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ผมขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังรัฐบาลและพี่น้องประชาชนของมิตรประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยความจริงใจ
อาเซียนได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ จากความพยายามของ ๕ ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และไทย ที่จะรวมกลุ่มกันภายในภูมิภาคนี้เพื่อสร้างความสมานฉันท์ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือระหว่างกันในท่ามกลางของบรรยากาศยุคสงครามเย็น ในปัจจุบันนี้ อาเซียนมีสมาชิกเพิ่มเป็น ๑๐ ประเทศ และกำลังพัฒนาจากการเป็นกลุ่มความร่วมมือในภูมิภาคไปสู่การเป็น “ประชาคมอาเซียน” ภายในปีพุทธศักราช ๒๕๖๓ หรืออีก ๑๔ ปีข้างหน้า ซึ่งประกอบด้วย ๓ เสาหลัก คือประชาคมความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจ และประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียน
ประชาคมความมั่นคงอาเซียนจะทำให้ประเทศสมาชิกมีความพร้อมในการป้องกันและจัดการกับความขัดแย้งระหว่างกันมากขึ้น ด้วยการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันทั้งในภูมิภาคนี้และในระดับโลก พร้อมทั้งมีมาตรการที่จะรับมือกับภัยความมั่นคงในรูปแบบใหม่ อาทิ ภัยจาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ นอกจากนี้ อาเซียนยังได้ตระหนักถึงการจะส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยและสนับสนุนสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในเด็กและสตรี ซึ่งจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและสมานฉันท์
ส่วนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น อาเซียนกำลังเร่งการรวมตัวทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างเขตการค้าเสรีอาเซียนและเขตการลงทุนอาเซียน เพื่อพัฒนาให้อาเซียนซึ่งมีประชากรกว่า ๕๕๐ ล้านคนและมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ เป็นตลาดและฐานการผลิตที่เป็นหนึ่งเดียวกันภายในปี ๒๕๕๘ ซึ่งจะทำให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจ น่าลงทุนและมีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจมากขึ้น
นอกจากนี้ อาเซียนยังมุ่งสร้างประชาคมสังคม-วัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนในภูมิภาคมีความเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน ร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติ และสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเอดส์และไข้หวัดนก รวมทั้งมุ่งเพิ่มมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ประเทศสมาชิกอาเซียนยังได้ให้ความสำคัญกับเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของอาเซียน โดยได้กำหนดหัวข้อการเฉลิมฉลองในปีนี้ว่า “อาเซียนและเยาวชนหรือ ASEAN and Young People” อีกด้วย
พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
ในยุคโลกาภิวัตน์ สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านของเราหรือในภูมิภาคอื่นของโลก ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งทางบวกและทางลบ ทั้งที่เป็นโอกาสและสิ่งท้าทาย เราจึงต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศในภูมิภาคนี้ เพราะการมีศักยภาพและความเข้มแข็งจากการรวมตัวในด้านต่าง ๆ จะทำให้อาเซียนเป็นที่สนใจของนานาประเทศ
ในปัจจุบัน อาเซียนมีกลไกที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศภายนอกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของโลก ๑๐ ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประชาคมยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน รัสเซีย อินเดีย และแคนาดา ทำให้อาเซียนได้รับประโยชน์จากประเทศเหล่านี้ ทั้งในด้านการส่งเสริมการพัฒนาทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และขณะนี้มีหลายประเทศกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับอาเซียน ซึ่งหมายถึงตลาดขนาดใหญ่สำหรับสินค้าไทยในอนาคตด้วย
คริสต์ศตวรรษที่ ๒๑ นี้ หลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน อินเดีย และเวียดนาม ต่างมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิคดวามพยายามที่จะสร้างประชาคมเอเชียตะวันออก ซึ่งมีประชากรรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชาคมโลก และประเทศเหล่านี้ ยอมรับให้อาเซียนมีบทบาทนำในการสร้างประชาคมเอเชียตะวันออก ดังนั้น การเป็นสมาชิกของอาเซียนจึงช่วยเสริมสร้างบทบาทและภาพพจน์ของประเทศไทยในภูมิภาค และนำประโยชน์มาสู่พี่น้องคนไทยและสังคมไทยอย่างแท้จริง
ในขณะที่อาเซียนกำลังเร่งพัฒนาและก้าวไกลในกระแสโลกาภิวัตน์ที่นำมาทั้งโอกาสและสิ่งท้าทายนานัปการนี้ ผมอยากให้ประชาชนอาเซียน โดยเฉพาะอย่ายิ่งเยาวชนของอาเซียน มีความปรองดองกันและหมั่นศึกษาหาความรู้ในวิทยากรใหม่ ๆ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันภัยคุกคามต่าง ๆ ทั้งจากภายในและภายนอก และเป็นพลังที่จะผลักดันให้พัฒนาการของประชาคมอาเซียนสำเร็จลุล่วงเป็นประชาคมที่นำประโยขน์สุขมาสู่ประเทศและประชาชนทุกคนต่อไป
ในโอกาสนี้ ผมขออำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลที่ทุกท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลให้พี่น้องประชาชนชาวไทย และพี่น้องประชาชนของมิตรประเทศสมาชิกอาเซียน จงประสบแต่ความผาสุขสวัสดีโดยทั่วกัน
ขอบคุณครับ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-