แหล่งข่าวกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมศุลกากรคุนหมิง ได้แจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2548 สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมลงนามความตกลงลดภาษีนำเข้าฝ่ายเดียวเหลือร้อยละ 0 สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากกัมพูชา ลาวและพม่า โดยมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 ซึ่งจะครอบคลุมสินค้านำเข้าจากกัมพูชา 83 รายการ ลาว 91 รายการและพม่า 87 รายการ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร แร่ และเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ จาง เจี้ยน หัว ประธานศูนย์ค้นคว้าอาเซียนของมหาวิทยาลัยยูนนาน กล่าวว่า การปฏิบัติต่อ 3 ประเทศดังกล่าวเป็นพิเศษทางด้านภาษี จะเป็นโอกาสที่ดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจของ 3 ประเทศ และของจีนเอง เนื่องจากการลงทุนของจีนในกัมพูชา ลาวและพม่า เป็นการลงทุนด้านผลิตภัณฑ์แร่ การเพาะปลูกและการเกษตร การแปรรูปสินค้า ป่าไม้ เพื่อใช้ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปส่งออกต่อไปยังจีน ทั้งนี้นักธุรกิจยูนนานที่ประกอบธุรกิจในพม่ามีจำนวน 100 กว่าราย ซึ่งรวมถึงโรงงานไฟฟ้า 10 กว่าโรง โรงงานน้ำตาล 20 กว่าโรง รวมทั้งยังมีโรงงานแร่และโรงงานแปรรูปอีกด้วย การลดภาษีเหลือศูนย์ฝ่ายเดียวในครั้งนี้จะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจของยูนานไปลงทุนมากขึ้นทุกปีทั้งในพม่า ลาวและกัมพูชา
การดำเนินการลดภาษีเหลือศูนย์ฝ่ายเดียวระหว่างจีนกับทั้งสามประเทศ ถือเป็นความพยายามหนึ่งของจีนในการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามามีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือประเทศ CLMV (ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน ได้แก่ ลาว พม่า กัมพูชาและเวียดนาม) ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์ และยังมีภูมิศาสตร์ที่ใกล้ชิดกับจีน ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อความเจริญและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งสามแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นคงสำหรับแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญและเครือข่ายการผลิตของจีนด้วย นอกจากนี้การที่จีนลดภาษีในครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับไทยและประเทศอื่นๆ ที่คิดจะไปลงทุนใน กัมพูชา ลาวและพม่า ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากการลดภาษีในครั้งนี้เพื่อส่งสินค้าไปจีนได้อีกด้วย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-