กรุงเทพ--29 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2548 ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเรื่องผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคม 2548 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ นครเวียงจันทน์ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. การเยือนในครั้งนี้เป็นการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่าง เป็นทางการเป็นครั้งแรกของดร.กันตธีร์ ศุภมงคล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยเยือนลาวเป็นประเทศแรกเนื่องจากลาวเป็นประธานอาเซียน และเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประเทศไทยเสมือนญาติสนิท ทั้งนี้ คณะ ฯ ได้เดินทางเข้าเวียงจันทน์จากจังหวัดอุดรธานี โดยข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเพื่อตอกย้ำมิตรภาพระหว่างไทยกับลาวซึ่งกำลังจะเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 55 ปี ในเดือนธันวาคม 2548
2. ในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มีโอกาสพบกับพลเอกคำไต สีพันดอน ประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายบุนยัง วอละจิด นายกรัฐมนตรี และนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลาว
3. ฝ่ายลาวย้ำว่า ความสัมพันธ์ไทย — ลาว ในรอบ 4 ปี ที่ผ่านมามีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีความเข้าใจลาวเป็นอย่างดีมาก และ มีส่วนทำให้ความร่วมมือในทุกระดับได้ขยายไปอย่างรวดเร็วทั้งในระดับท้องถิ่น ชาติ ภูมิภาค และระหว่างประเทศ
4. การพบปะหารือได้ดำเนินไปในลักษณะที่เป็นกันเอง และมีความชัดเจน มีการแสดงเจตนารมย์ร่วมในการพัฒนาความสัมพันธ์ทั้ง 2 ฝ่าย ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจนโดยเฉพาะในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
4.1 การเจรจาปักปันเขตแดนทางบกซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้แล้วเสร็จภายใน ปี 2548 ซึ่งปัจจุบันเหลือประมาณร้อยละ 6-7
4.2 โครงการที่ไทยจะซื้อหลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำงึมของลาว โดยคาดว่าจะสามารถเจรจาในเรื่องราคาได้ก่อนช่วงสงกรานต์ โดยไทยได้หยิบยกเรื่องความเป็นไปได้ของการผันน้ำจาก แม่น้ำงึมเพื่อการแก้ปัญหาภัยแล้งในประเทศไทย ซึ่งฝ่ายลาวได้รับไปพิจารณาด้วยความสนใจ และ เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายหารือกันในรายละเอียด และศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้
4.3 ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ไขและปราบปรามยาเสพติด
4.4 ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงความสำคัญของการติดต่อระหว่างกันในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่เฉพาะการติดต่อ ผ่านทางช่องทางทางการทูตเท่านั้น แต่สามารถติดต่อกันได้ทางโทรศัพท์มือถือเมื่อจำเป็นได้ทุกเมื่อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดของทั้งสองประเทศ
4.5 ฝ่ายลาวย้ำการให้การสนับสนุนของลาวต่อรองนายกรัฐมนตรี ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผู้สมัครของไทยในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ และตกลงที่เสนอให้มีการ บรรจุประเด็นนี้ในวาระการประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกาปี 2548 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา
4.6 ในส่วนประเด็นการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของชาวเกาหลีเหนือเข้ามาลาวและไทยเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม นั้น ทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญของการมีความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ปัญหา
5. ในภาพรวม การเยือนในครั้งนี้สามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวให้แนบแน่นยิ่งขึ้น โดยนอกจากจะมีการสานต่อแนวนโยบายแล้ว ได้มีการหารือถึงทิศทางความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต การเข้าพบและหารือข้อราชการดำเนินไปในบรรยากาศที่เป็นกันเองซึ่งแสดงถึงความใกล้ชิดระหว่างไทยกับลาวในทุกด้านโดยเฉพาะด้านวัฒนธรรม ภาษา และการเมือง
6. ช่วงถาม-ตอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ดังนี้
6.1 ต่อข้อซักถามว่า มีการหารือเรื่องการที่พม่าจะเป็นประธานอาเซียนหรือไม่
รัฐมนตรีว่าการ ฯ ตอบว่า โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า เรื่องพม่าเป็นประเด็นละเอียดอ่อน จำเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ และได้ย้ำถึงความสำคัญของการปรึกษาหารือระหว่างกัน
6.2 ต่อข้อซักถามประเด็นความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลี รัฐมนตรีว่าการ ฯ ตอบว่า ในประเด็นด้านความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ ทั้งสองฝ่ายเห็นความสำคัญที่ ฝ่ายเกาหลีเหนือกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาหกฝ่าย และทั้งสองฝ่ายได้แสดงความคาดหวังว่า การเจรจาจะได้มีความคืบหน้าต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2548 ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเรื่องผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคม 2548 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ นครเวียงจันทน์ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. การเยือนในครั้งนี้เป็นการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่าง เป็นทางการเป็นครั้งแรกของดร.กันตธีร์ ศุภมงคล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยเยือนลาวเป็นประเทศแรกเนื่องจากลาวเป็นประธานอาเซียน และเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประเทศไทยเสมือนญาติสนิท ทั้งนี้ คณะ ฯ ได้เดินทางเข้าเวียงจันทน์จากจังหวัดอุดรธานี โดยข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเพื่อตอกย้ำมิตรภาพระหว่างไทยกับลาวซึ่งกำลังจะเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 55 ปี ในเดือนธันวาคม 2548
2. ในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มีโอกาสพบกับพลเอกคำไต สีพันดอน ประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายบุนยัง วอละจิด นายกรัฐมนตรี และนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลาว
3. ฝ่ายลาวย้ำว่า ความสัมพันธ์ไทย — ลาว ในรอบ 4 ปี ที่ผ่านมามีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีความเข้าใจลาวเป็นอย่างดีมาก และ มีส่วนทำให้ความร่วมมือในทุกระดับได้ขยายไปอย่างรวดเร็วทั้งในระดับท้องถิ่น ชาติ ภูมิภาค และระหว่างประเทศ
4. การพบปะหารือได้ดำเนินไปในลักษณะที่เป็นกันเอง และมีความชัดเจน มีการแสดงเจตนารมย์ร่วมในการพัฒนาความสัมพันธ์ทั้ง 2 ฝ่าย ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจนโดยเฉพาะในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
4.1 การเจรจาปักปันเขตแดนทางบกซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้แล้วเสร็จภายใน ปี 2548 ซึ่งปัจจุบันเหลือประมาณร้อยละ 6-7
4.2 โครงการที่ไทยจะซื้อหลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำงึมของลาว โดยคาดว่าจะสามารถเจรจาในเรื่องราคาได้ก่อนช่วงสงกรานต์ โดยไทยได้หยิบยกเรื่องความเป็นไปได้ของการผันน้ำจาก แม่น้ำงึมเพื่อการแก้ปัญหาภัยแล้งในประเทศไทย ซึ่งฝ่ายลาวได้รับไปพิจารณาด้วยความสนใจ และ เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายหารือกันในรายละเอียด และศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้
4.3 ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ไขและปราบปรามยาเสพติด
4.4 ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงความสำคัญของการติดต่อระหว่างกันในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่เฉพาะการติดต่อ ผ่านทางช่องทางทางการทูตเท่านั้น แต่สามารถติดต่อกันได้ทางโทรศัพท์มือถือเมื่อจำเป็นได้ทุกเมื่อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดของทั้งสองประเทศ
4.5 ฝ่ายลาวย้ำการให้การสนับสนุนของลาวต่อรองนายกรัฐมนตรี ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผู้สมัครของไทยในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ และตกลงที่เสนอให้มีการ บรรจุประเด็นนี้ในวาระการประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกาปี 2548 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา
4.6 ในส่วนประเด็นการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของชาวเกาหลีเหนือเข้ามาลาวและไทยเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม นั้น ทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญของการมีความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ปัญหา
5. ในภาพรวม การเยือนในครั้งนี้สามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวให้แนบแน่นยิ่งขึ้น โดยนอกจากจะมีการสานต่อแนวนโยบายแล้ว ได้มีการหารือถึงทิศทางความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต การเข้าพบและหารือข้อราชการดำเนินไปในบรรยากาศที่เป็นกันเองซึ่งแสดงถึงความใกล้ชิดระหว่างไทยกับลาวในทุกด้านโดยเฉพาะด้านวัฒนธรรม ภาษา และการเมือง
6. ช่วงถาม-ตอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ดังนี้
6.1 ต่อข้อซักถามว่า มีการหารือเรื่องการที่พม่าจะเป็นประธานอาเซียนหรือไม่
รัฐมนตรีว่าการ ฯ ตอบว่า โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า เรื่องพม่าเป็นประเด็นละเอียดอ่อน จำเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ และได้ย้ำถึงความสำคัญของการปรึกษาหารือระหว่างกัน
6.2 ต่อข้อซักถามประเด็นความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลี รัฐมนตรีว่าการ ฯ ตอบว่า ในประเด็นด้านความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ ทั้งสองฝ่ายเห็นความสำคัญที่ ฝ่ายเกาหลีเหนือกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาหกฝ่าย และทั้งสองฝ่ายได้แสดงความคาดหวังว่า การเจรจาจะได้มีความคืบหน้าต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-