EXIM BANK รุกปล่อยกู้โครงการ Contract Farming ช่วยผู้ประกอบการไทยเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตพลังงานทดแทนของไทย เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของไทยและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในระยะยาว
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในการพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อลดการพึ่งพิงการนำเข้าน้ำมันและลดต้นทุนพลังงานของผู้ประกอบการไทยปัจจุบัน ความสามารถในการบริหารจัดการวัตถุดิบให้มีปริมาณเพียงพอและไม่มีความผันผวนด้านราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตพลังงานทดแทนของไทยเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน EXIM BANK จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนเข้าร่วมโครงการทำฟาร์มสัญญา (Contract Farming) เพื่อขยายการเพาะปลูกพืชพลังงาน เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมันเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดต้นทุนในขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบของผู้ประกอบการไทยได้ โดยอาศัยความพร้อมด้านผลผลิตการเกษตรและแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ EXIM BANK พร้อมจะพิจารณาให้สินเชื่อแก่ผู้รับซื้อผลผลิตในไทยหรือผู้ที่เข้าไปลงทุนทำการเกษตรในต่างประเทศ
ประธานกรรมการบริหาร EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า นอกจากนี้ การเชื่อมโยงโครงการทำฟาร์มสัญญาเข้ากับการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตพลังงานทดแทนของไทยยังเป็นการสร้างงานและรายได้ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เป็นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมโดยใช้ความแข็งแกร่งของภาคเกษตรกรรมที่มีอยู่ร่วมกันในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อประโยชน์ของภาคเศรษฐกิจท่ามกลางปัญหาราคาน้ำมันผันผวนในปัจจุบัน รวมทั้งลดปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของไทยและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในระยะยาว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140-6
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2549--
-พห-
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในการพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อลดการพึ่งพิงการนำเข้าน้ำมันและลดต้นทุนพลังงานของผู้ประกอบการไทยปัจจุบัน ความสามารถในการบริหารจัดการวัตถุดิบให้มีปริมาณเพียงพอและไม่มีความผันผวนด้านราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตพลังงานทดแทนของไทยเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน EXIM BANK จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนเข้าร่วมโครงการทำฟาร์มสัญญา (Contract Farming) เพื่อขยายการเพาะปลูกพืชพลังงาน เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมันเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดต้นทุนในขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบของผู้ประกอบการไทยได้ โดยอาศัยความพร้อมด้านผลผลิตการเกษตรและแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ EXIM BANK พร้อมจะพิจารณาให้สินเชื่อแก่ผู้รับซื้อผลผลิตในไทยหรือผู้ที่เข้าไปลงทุนทำการเกษตรในต่างประเทศ
ประธานกรรมการบริหาร EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า นอกจากนี้ การเชื่อมโยงโครงการทำฟาร์มสัญญาเข้ากับการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตพลังงานทดแทนของไทยยังเป็นการสร้างงานและรายได้ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เป็นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมโดยใช้ความแข็งแกร่งของภาคเกษตรกรรมที่มีอยู่ร่วมกันในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อประโยชน์ของภาคเศรษฐกิจท่ามกลางปัญหาราคาน้ำมันผันผวนในปัจจุบัน รวมทั้งลดปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของไทยและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในระยะยาว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140-6
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2549--
-พห-