เศรษฐกิจของภาคใต้ ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ผลกระทบจาก ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักธุรกิจลดลงต่อเนื่อง สำหรับปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจขยายตัว ได้แก่ การบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออก ส่วนการลงทุนก่อสร้างลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ราคาวัสดุก่อสร้างปรับสูงขึ้น
ทางด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลที่สำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 เป็นการเพิ่มขึ้นราคาเป็นสำคัญ โดยเฉพาะราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพาราตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
ทางด้านอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นจากการที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในปี 2547 มีดังนี้
1.ภาคเกษตร ผลผลิตพืชผลที่สำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ตามผลผลิตยางพารา และน้ำมันปาล์ม ทางด้านราคาพืชผลที่สำคัญสูงขึ้นร้อยละ 16.3 ตามการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18.2 ตามความต้องการของต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน และปาล์มน้ำมัน ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.41 บาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.5 เนื่องจากมีการแข่งขันกันรับซื้อวัตถุดิบจากการขยายกำลังการผลิตและจัดตั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น
ทางด้านประมง ทะเล ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เรือประมงบางส่วนหยุดทำการประมง และการทำประมงนอกน่านน้ำ มีการเข้มงวดและค่าใช้จ่ายสูง ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำนำขึ้นท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาในภาคใต้ ในปี 2547 มีจำนวน 505,043 เมตริกตัน มูลค่า 15,024.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.6 และร้อยละ 0.6 ตามลำดับ
ส่วนการเพาะเลี้ยงกุ้งในช่วงครึ่งแรกของปี ผลผลิตกุ้งต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนประมาณร้อยละ 20-30 และเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส3 ซึ่งคาดว่า ทั้งปีจะมีผลผลิตประมาณ 300,000 เมตริตัน ใกล้เคียงกับผลผลิตปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นผลผลิตกุ้งขาวประมาณร้อยละ 80 เนื่องจากการเลี้ยงกุ้งขาวมีความเสี่ยงน้อย ให้ผลผลิตสูง
2.ภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตอุตสาหกรรมยางพาราขยายตัวตามความต้องการที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2547 มีปริมาณส่งออกยาง 2.5 ล้านเมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.2 เป็นการเพิ่มขึ้นของยางแท่งร้อยละ 9.7 และน้ำยางข้นร้อยละ 9.2 ส่วนยางแผ่นรมควันลดลงร้อยละ 10.0
ทางด้านไม้ยางพาราแปรรูปและเฟอร์นิเจอร์ ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในบางช่วง ส่วนตลาดขยายตัวดี จาการเปิดตลาดของจีน โดยในปี 2547 ส่งออกได้ทั้งสิ้น 837,990 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.5
สำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋อง ประสบปัญหาวัตถุดิบและต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี แต่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายในไตรมาส 4 ประกอบกับผู้ประกอบการได้มีการขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น จึงทำให้การผลิตดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกในปี 2547 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็งการผลิตลดลงเนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ มาตรการกีดกันทางการค้าและการแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตอื่น โดยปริมาณการส่งออกอาหารแช่แข็งลดลงร้อยละ 11.0
ส่วนอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ผลผลิตลดลงร้อยละ 2.1 ตามการลดลงของผลผลิตในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าในช่วงครึ่งหลังผลผลิตจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
3.การท่องเที่ยว ขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2547 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการเพิ่มขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันตก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 ส่วนกนึ่งเป็นผลจาการขยายตัวของธุรกิจการบินทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ถูกลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่วนธรณีพิบัติส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในปีนี่ไม่มากนัก เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ส่วนภาคใต้ตอนล่างนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลง เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยนัก ท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาจังหวัดสงขลาลดลงร้อยละ 18.6 นอกจากนี้นักท่องเที่ยวบางส่วนเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น เช่น ตรัง ภูเก็ต
4.การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนขยายตัว เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับสูง การจ้างงานมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และการส่งเสริมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยอุปสงค์ต่อสินค้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 และรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 ขณะเดียวกันภาษีมูลค่าเพิ่ม(ไม่รวมภาษีศุลกากร)เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มชะลอลง ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงจากผลกระทบราคาน้ำมันอัตราดอกเบี้ยและสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
5.การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนด้านการก่อสร้างชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในเขตเทศบาลลดลงร้อยละ 6.5 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาวัสดุก่อสร้างปรับสูงขึ้น สำหรับการลงทุนทางการผลิตขยายตัว โดยกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมีเงินทุนเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับยางพารา ปาล์มน้ำมันและสัตว์น้ำนอกจากนี้มีนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 และการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนรายและทุนจดทะเบียน
6.ระดับราคา ในปี 2547 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.1 ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวของราคาสินค้า ในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ตามราคาเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ส่วนราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ตามราคาสินค้าในหมวดยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิง
7.การค้าระหว่างประเทศ การส่งออกขยายตัว มีมูลค่า เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 19.7 ตามการเพิ่มขึ้นของการส่งออกยางพารา ถุงมือยาง และไม้ยางพาราแปรรูปเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 ตามมูลค่าการนำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้าง น้ำมันเชื้อเพลิงและสัตว์น้ำแช่แข็ง
8.การคลัง ในปี 2547 นี้ ส่วนราชการมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 และจัดเก็บรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.4 เนื่องจากจัดเก็บภาษีสรรพากรและภาษีสรรพสามิตได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.5 และร้อยละ 54.6 ตามลำดับ
9.การเงิน สินเชื่อของสาขาธนาคาร ณ สิ้น ธันวาคม 2547 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนเดียวกันปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่ออุตสาหกรรม การค้าปลีกค้าส่ง และสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ส่วนเงินฝากขยายตัวประมาณร้อยละ 11.6
แนวโน้มเศรษฐกิจภาคใต้ปี 2548
ในปี 2548 คาดว่าเศรษฐกิจของภาคใต้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปี 2547 จากการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน ผลจากการปรับเพดานราคาน้ำมันดีเซล สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ จังหวัดกระบี่ พังงาและภูเก็ต ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกหลายปัจจัย ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญได้แก่ยาง และปาล์มน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง การขยายสินเชื่อของสถาบันการเงิน การให้ความช่วยเหลือและบูรณะฟื้นฟูผู้ประสบภัย และการใช้จ่ายเพื่อชดเชยสินทรัพย์ที่สูญเสีย
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ทางด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลที่สำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 เป็นการเพิ่มขึ้นราคาเป็นสำคัญ โดยเฉพาะราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพาราตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
ทางด้านอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นจากการที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในปี 2547 มีดังนี้
1.ภาคเกษตร ผลผลิตพืชผลที่สำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ตามผลผลิตยางพารา และน้ำมันปาล์ม ทางด้านราคาพืชผลที่สำคัญสูงขึ้นร้อยละ 16.3 ตามการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18.2 ตามความต้องการของต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน และปาล์มน้ำมัน ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.41 บาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.5 เนื่องจากมีการแข่งขันกันรับซื้อวัตถุดิบจากการขยายกำลังการผลิตและจัดตั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น
ทางด้านประมง ทะเล ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เรือประมงบางส่วนหยุดทำการประมง และการทำประมงนอกน่านน้ำ มีการเข้มงวดและค่าใช้จ่ายสูง ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำนำขึ้นท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาในภาคใต้ ในปี 2547 มีจำนวน 505,043 เมตริกตัน มูลค่า 15,024.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.6 และร้อยละ 0.6 ตามลำดับ
ส่วนการเพาะเลี้ยงกุ้งในช่วงครึ่งแรกของปี ผลผลิตกุ้งต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนประมาณร้อยละ 20-30 และเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส3 ซึ่งคาดว่า ทั้งปีจะมีผลผลิตประมาณ 300,000 เมตริตัน ใกล้เคียงกับผลผลิตปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นผลผลิตกุ้งขาวประมาณร้อยละ 80 เนื่องจากการเลี้ยงกุ้งขาวมีความเสี่ยงน้อย ให้ผลผลิตสูง
2.ภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตอุตสาหกรรมยางพาราขยายตัวตามความต้องการที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2547 มีปริมาณส่งออกยาง 2.5 ล้านเมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.2 เป็นการเพิ่มขึ้นของยางแท่งร้อยละ 9.7 และน้ำยางข้นร้อยละ 9.2 ส่วนยางแผ่นรมควันลดลงร้อยละ 10.0
ทางด้านไม้ยางพาราแปรรูปและเฟอร์นิเจอร์ ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในบางช่วง ส่วนตลาดขยายตัวดี จาการเปิดตลาดของจีน โดยในปี 2547 ส่งออกได้ทั้งสิ้น 837,990 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.5
สำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋อง ประสบปัญหาวัตถุดิบและต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี แต่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายในไตรมาส 4 ประกอบกับผู้ประกอบการได้มีการขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น จึงทำให้การผลิตดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกในปี 2547 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็งการผลิตลดลงเนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ มาตรการกีดกันทางการค้าและการแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตอื่น โดยปริมาณการส่งออกอาหารแช่แข็งลดลงร้อยละ 11.0
ส่วนอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ผลผลิตลดลงร้อยละ 2.1 ตามการลดลงของผลผลิตในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าในช่วงครึ่งหลังผลผลิตจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
3.การท่องเที่ยว ขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2547 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการเพิ่มขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันตก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 ส่วนกนึ่งเป็นผลจาการขยายตัวของธุรกิจการบินทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ถูกลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่วนธรณีพิบัติส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในปีนี่ไม่มากนัก เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ส่วนภาคใต้ตอนล่างนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลง เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยนัก ท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาจังหวัดสงขลาลดลงร้อยละ 18.6 นอกจากนี้นักท่องเที่ยวบางส่วนเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น เช่น ตรัง ภูเก็ต
4.การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนขยายตัว เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับสูง การจ้างงานมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และการส่งเสริมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยอุปสงค์ต่อสินค้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 และรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 ขณะเดียวกันภาษีมูลค่าเพิ่ม(ไม่รวมภาษีศุลกากร)เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มชะลอลง ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงจากผลกระทบราคาน้ำมันอัตราดอกเบี้ยและสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
5.การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนด้านการก่อสร้างชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในเขตเทศบาลลดลงร้อยละ 6.5 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาวัสดุก่อสร้างปรับสูงขึ้น สำหรับการลงทุนทางการผลิตขยายตัว โดยกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมีเงินทุนเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับยางพารา ปาล์มน้ำมันและสัตว์น้ำนอกจากนี้มีนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 และการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนรายและทุนจดทะเบียน
6.ระดับราคา ในปี 2547 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.1 ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวของราคาสินค้า ในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ตามราคาเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ส่วนราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ตามราคาสินค้าในหมวดยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิง
7.การค้าระหว่างประเทศ การส่งออกขยายตัว มีมูลค่า เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 19.7 ตามการเพิ่มขึ้นของการส่งออกยางพารา ถุงมือยาง และไม้ยางพาราแปรรูปเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 ตามมูลค่าการนำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้าง น้ำมันเชื้อเพลิงและสัตว์น้ำแช่แข็ง
8.การคลัง ในปี 2547 นี้ ส่วนราชการมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 และจัดเก็บรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.4 เนื่องจากจัดเก็บภาษีสรรพากรและภาษีสรรพสามิตได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.5 และร้อยละ 54.6 ตามลำดับ
9.การเงิน สินเชื่อของสาขาธนาคาร ณ สิ้น ธันวาคม 2547 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนเดียวกันปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่ออุตสาหกรรม การค้าปลีกค้าส่ง และสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ส่วนเงินฝากขยายตัวประมาณร้อยละ 11.6
แนวโน้มเศรษฐกิจภาคใต้ปี 2548
ในปี 2548 คาดว่าเศรษฐกิจของภาคใต้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปี 2547 จากการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน ผลจากการปรับเพดานราคาน้ำมันดีเซล สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ จังหวัดกระบี่ พังงาและภูเก็ต ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกหลายปัจจัย ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญได้แก่ยาง และปาล์มน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง การขยายสินเชื่อของสถาบันการเงิน การให้ความช่วยเหลือและบูรณะฟื้นฟูผู้ประสบภัย และการใช้จ่ายเพื่อชดเชยสินทรัพย์ที่สูญเสีย
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--