วันนี้ (7 ส.ค.2549) นายเจะอามิง โตะตาหยง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.นราธิวาสของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการขยายตัวรุนแรงมากขึ้นว่า เกิดจากความผิดพลาดที่ซ้ำซากจากนโยบายและแนวทางในการแก้ปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเป็นเหตุให้ภาคใต้กลายเป็นแผ่นดินเดือดผู้คนเสียชีวิตเป็นรายวัน แนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลในขณะนี้ยังมืดมน ผู้คนที่อยู่ในภาคใต้ต้องทนทุกข์หวั่นผวา จากเหตุการณ์ตลอดระยะเวลา ชีวิตประชาชนเหมือนหนูลองยาจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายเจะอามิง แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่ขยายความรุนแรงที่มีมากขึ้น ว่าความรุนแรงดังกล่าวเกิดจากปัญหาการจับกุมแบบเหวี่ยงแหข้อมูล ในการจับกุมไม่แม่นยำ การจับกุม และการใช้พระราชกำหนดเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยขาดความระมัดระวังในการนำไปใช้บังคับกับภาคประชาชน หลายๆครั้งมีการใช้อำนาจดังกล่าวเป็นไปแบบลุแก่อำนาจกลายเป็นยาพิษต่อราชการเสียเอง “ผู้ถูกกระทำที่สำคัญคือประชาชนส่วนหนี่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่มักจะถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เมื่อไปแสดงตนตามความเจตนาของเจ้าหน้าที่แล้ว ไม่พบว่ามีการกระทำความผิดก็ปล่อยตัวกลับ ต่อมากลับกลายมีชื่อเป็นแนวร่วมของผู้ก่อความไม่สงบเลยทำให้เกิดข้อครหาจากประชาชนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้อำนาจของรัฐ”นายเจะอามิง กล่าว
นายเจะอามิง กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าใช้นโยบายราดน้ำมันบนกองไฟ อย่าแก้ปัญหาบนหน้าสื่อ เวลาฝ่ายนโยบายพูดอะไรคิดก่อนพูดเพื่อแสดงภูมิปัญญาว่ามีความเข้าใจในปัญหา แต่แท้จริงแล้วเป็นข้อมูลที่กลวงไม่มีอะไรที่จะแสดงถึงกึ๋นในการแก้ปัญหา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ส.ค. 2549--จบ--
นายเจะอามิง แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่ขยายความรุนแรงที่มีมากขึ้น ว่าความรุนแรงดังกล่าวเกิดจากปัญหาการจับกุมแบบเหวี่ยงแหข้อมูล ในการจับกุมไม่แม่นยำ การจับกุม และการใช้พระราชกำหนดเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยขาดความระมัดระวังในการนำไปใช้บังคับกับภาคประชาชน หลายๆครั้งมีการใช้อำนาจดังกล่าวเป็นไปแบบลุแก่อำนาจกลายเป็นยาพิษต่อราชการเสียเอง “ผู้ถูกกระทำที่สำคัญคือประชาชนส่วนหนี่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่มักจะถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เมื่อไปแสดงตนตามความเจตนาของเจ้าหน้าที่แล้ว ไม่พบว่ามีการกระทำความผิดก็ปล่อยตัวกลับ ต่อมากลับกลายมีชื่อเป็นแนวร่วมของผู้ก่อความไม่สงบเลยทำให้เกิดข้อครหาจากประชาชนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้อำนาจของรัฐ”นายเจะอามิง กล่าว
นายเจะอามิง กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าใช้นโยบายราดน้ำมันบนกองไฟ อย่าแก้ปัญหาบนหน้าสื่อ เวลาฝ่ายนโยบายพูดอะไรคิดก่อนพูดเพื่อแสดงภูมิปัญญาว่ามีความเข้าใจในปัญหา แต่แท้จริงแล้วเป็นข้อมูลที่กลวงไม่มีอะไรที่จะแสดงถึงกึ๋นในการแก้ปัญหา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ส.ค. 2549--จบ--