ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศจีน นายโจว เสี่ยวฉวน แถลงเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าในอนาคตจีนอาจจะอนุญาตให้มีการค้าเงินตราอย่างเสรีมากขึ้น อันจะเป็นความเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่การปรับค่าเงินหยวนขึ้นในที่สุด ซึ่งขณะนี้จีนจะค่อยๆ ผ่อนปรนการควบคุมค่าเงินหยวนต่อไป
เมื่อวันศุกร์ผ่านมา (10 มี.ค.) เงินหยวนขยับค่าแข็งขึ้นอีก 0.76% นับตั้งแต่มีการประกาศปรับค่าครั้งแรก 2.1% เป็น 8.11 หยวนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8.0492 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้แม้จีนจะมีอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกๆ วัน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นเงินหยวนจะมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นตลอดทั้งปี และเมื่อถึงสิ้นปีค่าเงินหยวนก็จะแข็งค่าถึง 4-10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ อย่างไรก็ตามเหตุผลที่จีนปรับค่าเงินหยวนนั้นมาจากสาเหตุด้านเศรษฐกิจโดยพื้นฐาน โดยมิใช่การปรับเพราะแรงกดดันจากสหรัฐฯ อย่างแน่นอน
ประเด็นวิเคราะห์
เมื่อจีนปรับค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นจะส่งผลด้านบวกต่อภาคการส่งออกของประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ราคาของสินค้าจากจีนในตลาดโลกก็จะมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าไทยมีโอกาสในตลาดโลกมากขึ้นเพราะสินค้าไทยมีคุณภาพและรูปแบบที่ได้มาตรฐานของสินค้าไทย จึงเป็นโอกาสให้ไทยสามารถขยายตลาดได้กว้างขวางมากขึ้น
ที่มา: http://www.depthai.go.th