วันที่ 11 ธ.ค. 49 นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังจากที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ได้มีมติให้ดำเนินคดีอาญาและลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือและไม่นำข้อเท็จจริงกรณีการจัดเก็บภาษีของนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่รัฐ โดยการดำเนินคดีนี้ได้ดำเนินคดีกับอธิบดีกรมสรรพากร นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ กับเจ้าหน้าที่ข้าราชการของกรมสรรพากร 4 คน นั้น นายสาธิตเห็นด้วยกับการที่คณะกรรมการปปช. เอาจริงเอาจังกับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่หวังเติบโตและหวังก้าวหน้าด้วยการร่วมมือกับนักการเมืองที่มีพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง โดยไม่ได้ยึดหลักกฎหมายและความถูกต้อง เมื่อขณะนี้รัฐบาลชุดใหม่มาปฎิบัติหน้าที่แล้วก็ต้องมีการเอาจริงเอาจังและมีบทลงโทษ เพื่อให้สังคมได้รับรู้และยึดถือความถูกต้องว่าสังคมควรจะทราบว่าถ้าทำดีก็ได้ดี ถ้าทำผิดกฎหมายก็จะต้องถูกลงโทษเช่นกัน
“ผมเคยได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาไว้กับ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยได้กล่าวโทษว่าเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือคนในรัฐบาลในขณะนั้น คือไม่ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ในกรณีที่กฎหมายเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าถ้าทำผิดต้องอายัติและยึดทรัพย์ของคุณสมชาย คุณปลื้ม”
จากกรณีนี้นายสาธิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาไว้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2548 คดีอาญาเลขที่ 1837/2548 และพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้และสอบสวนเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยและดำเนินการส่งเรื่องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ซึ่งขณะนี้ปปช.ได้รับเรื่องนี้ไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2549 ตามเลขที่หนังสือ 0519 ทั้งนี้จะได้มีการติดตามว่าคดีนี้ได้มีการดำเนินการไปถึงไหน พร้อมกันนี้จะได้มอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมบางส่วนซึ่งเป็นสิทธิของผู้กล่าวโทษที่จะเอาพยานหลักฐานส่วนนี้ไปชี้แจงกับปปช.แล้วขอให้มีการตั้งอนุกรรมการเพื่อดำเนินการสอบสวนสืบสวนเรื่องนี้ เพื่อที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ
นายสาธิตได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ตนกล่าวโทษในขณะนั้นเป็นผู้ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมีพฤติกรรมที่สนองการเมือง โดยเรื่องนี้เป็นที่แน่ชัดว่าในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีการทำความผิดคดีปฎิบัติหน้าที่มิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ไม่ได้ดำเนินการและอายัติ ยึดทรัพย์ไว้ ดังนั้นในสัปดาห์หน้าจะทำการนัดหมายปปช.เพื่อที่จะไปติดตามและไปดำเนินการและให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ธ.ค. 2549--จบ--
“ผมเคยได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาไว้กับ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยได้กล่าวโทษว่าเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือคนในรัฐบาลในขณะนั้น คือไม่ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ในกรณีที่กฎหมายเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าถ้าทำผิดต้องอายัติและยึดทรัพย์ของคุณสมชาย คุณปลื้ม”
จากกรณีนี้นายสาธิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาไว้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2548 คดีอาญาเลขที่ 1837/2548 และพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้และสอบสวนเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยและดำเนินการส่งเรื่องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ซึ่งขณะนี้ปปช.ได้รับเรื่องนี้ไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2549 ตามเลขที่หนังสือ 0519 ทั้งนี้จะได้มีการติดตามว่าคดีนี้ได้มีการดำเนินการไปถึงไหน พร้อมกันนี้จะได้มอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมบางส่วนซึ่งเป็นสิทธิของผู้กล่าวโทษที่จะเอาพยานหลักฐานส่วนนี้ไปชี้แจงกับปปช.แล้วขอให้มีการตั้งอนุกรรมการเพื่อดำเนินการสอบสวนสืบสวนเรื่องนี้ เพื่อที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ
นายสาธิตได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ตนกล่าวโทษในขณะนั้นเป็นผู้ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมีพฤติกรรมที่สนองการเมือง โดยเรื่องนี้เป็นที่แน่ชัดว่าในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีการทำความผิดคดีปฎิบัติหน้าที่มิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ไม่ได้ดำเนินการและอายัติ ยึดทรัพย์ไว้ ดังนั้นในสัปดาห์หน้าจะทำการนัดหมายปปช.เพื่อที่จะไปติดตามและไปดำเนินการและให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ธ.ค. 2549--จบ--