หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลเอเซีย รายงานผลการศึกษาล่าสุดของสถาบันแบทเทิล เมโมเรียล (องค์กรไม่หวังผลกำไรในสหรัฐฯ) ร่วมมือกับนิตยสารอาร์แอนด์ดีว่า ในจีนมีอัตราการขยายตัวด้านค่าใช้จ่ายอาร์ แอนด์ ดี ประมาณร้อยละ 17 ต่อปีซึ่งสูงกว่าระดับการเติบโตที่ร้อยละ 4 และ 5 ต่อปี ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป (อียู) ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้จีนยังมีการเติบโตที่น่าประทับใจด้านวิทยาศาสตร์เป็นอันดับที่ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และรัสเซีย ในปี 2546
ปัจจุบันการใช้จ่ายด้านอาร์แอนด์ดีของจีนเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละประมาณ 1.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากสัดส่วน 1% เมื่อ 5 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามจีนก็ยังคงอยู่ในระดับที่ห่างไกลจากสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนด้านการลงทุนด้านนี้ประมาณ 2.6% ของจีดีพี และของญี่ปุ่นที่ 3.2%
ประเด็นวิเคราะห์:
การที่จีนมีอัตราการขยายตัวด้านอาร์ แอนด์ ดี เพิ่มมากขึ้นสูง อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้จีนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเอเซีย ซึ่งประเทศไทยควรจะมุ่งเน้นการแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องการวิจัยและพัฒนา เช่นความร่วมมือกับอาเซี่ยนเนื่องจากต้นทุนด้านนี้มีราคาสูง จึงควรหาแนวร่วมในการศึกษาวิจัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
ที่มา: http://www.depthai.go.th