กรุงเทพ--17 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ (plenary) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ กรุงฮานอย เวียดนาม สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. เอเปคเป็นกรอบการประชุมทางเศรษฐกิจพหุภาคีที่มีประโยชน์ เนื่องจากช่วยส่งเสริมความสะดวกและเพิ่มขีดความสามารถด้านการค้าการลงทุนของสมาชิกฯ นอกจากนี้ เอเปคยังเป็นกรอบความร่วมมือที่เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคประกอบด้วยเอเชียและแปซิฟิก อเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
2. ที่ประชุมฯ ได้รับรองร่างแผนปฏิบัติการฮานอย (Hanoi Action Plan) กำหนดกรอบเวลาเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายโบกอร์ (Bogor Goals) ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมากคือ 1) บทบาทของเอเปคในการส่งเสริมการเจรจาการค้ารอบโดฮาขององค์การการค้าโลก 2) แผนปฏิบัติการของแต่ละสมาชิกฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายโบกอร์ 3) กรอบการค้าเสรีในภูมิภาค (RTA/FTA) 4) การอำนวยความสะดวกด้านการค้า 5) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ (ECOTECH) ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของสมาชิกเอเปค และสอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในกรอบต่างๆ อาทิ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเจ้าพระยา-อิรวดี-แม่น้ำโขง (ACMECS) 6) ความร่วมมือด้านสาธารณสุข ซึ่งไทยพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับสมาชิกเอเปคในเรื่องไข้หวัดนก 7) ความร่วมมือด้านพลังงานและพลังงานทดแทน และ 8) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs)
3. ในช่วงเช้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการหารือระหว่างอาหารเช้า ของรัฐมนตรีต่างประเทศเอเปค ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งการเจรจา 6 ฝ่าย ซึ่งในส่วนของไทยพร้อมที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1718
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยยังได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ชิลี เปรู เวียดนาม คณะผู้แทนสหรัฐฯ และจะพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น รัสเซีย และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะลงนามความตกลงยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับฝ่ายเกาหลีใต้ด้วย ในการพบปะดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงให้ประเทศเหล่านี้ทราบข้อเท็จจริงและเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดำเนินการต่างๆ เพื่อนำประเทศกลับสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ (plenary) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ กรุงฮานอย เวียดนาม สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. เอเปคเป็นกรอบการประชุมทางเศรษฐกิจพหุภาคีที่มีประโยชน์ เนื่องจากช่วยส่งเสริมความสะดวกและเพิ่มขีดความสามารถด้านการค้าการลงทุนของสมาชิกฯ นอกจากนี้ เอเปคยังเป็นกรอบความร่วมมือที่เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคประกอบด้วยเอเชียและแปซิฟิก อเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
2. ที่ประชุมฯ ได้รับรองร่างแผนปฏิบัติการฮานอย (Hanoi Action Plan) กำหนดกรอบเวลาเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายโบกอร์ (Bogor Goals) ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมากคือ 1) บทบาทของเอเปคในการส่งเสริมการเจรจาการค้ารอบโดฮาขององค์การการค้าโลก 2) แผนปฏิบัติการของแต่ละสมาชิกฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายโบกอร์ 3) กรอบการค้าเสรีในภูมิภาค (RTA/FTA) 4) การอำนวยความสะดวกด้านการค้า 5) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ (ECOTECH) ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของสมาชิกเอเปค และสอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในกรอบต่างๆ อาทิ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเจ้าพระยา-อิรวดี-แม่น้ำโขง (ACMECS) 6) ความร่วมมือด้านสาธารณสุข ซึ่งไทยพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับสมาชิกเอเปคในเรื่องไข้หวัดนก 7) ความร่วมมือด้านพลังงานและพลังงานทดแทน และ 8) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs)
3. ในช่วงเช้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการหารือระหว่างอาหารเช้า ของรัฐมนตรีต่างประเทศเอเปค ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งการเจรจา 6 ฝ่าย ซึ่งในส่วนของไทยพร้อมที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1718
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยยังได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ชิลี เปรู เวียดนาม คณะผู้แทนสหรัฐฯ และจะพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น รัสเซีย และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะลงนามความตกลงยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับฝ่ายเกาหลีใต้ด้วย ในการพบปะดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงให้ประเทศเหล่านี้ทราบข้อเท็จจริงและเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดำเนินการต่างๆ เพื่อนำประเทศกลับสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-