เครื่องชี้เศรษฐกิจโดยรวมเดือนมกราคม 2549 ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยด้านอุปสงค์ ดัชนีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม ภาคต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมูลค่าการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าการนำเข้าขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนเพียงเล็กน้อย
ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยนอกจากปัจจัยด้านราคาที่ยังเพิ่มขึ้นในเกณฑ์สูงแล้ว ผลผลิตพืชผลหลักก็ปรับตัวดีขึ้น เพราะสภาวะอากาศที่เอื้ออำนวย ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยบางส่วนเป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานและอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในบางสินค้า สำหรับภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยรวมและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในภาคใต้ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากฐานปีก่อนที่อยู่ในระดับต่ำเพราะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยด้านฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวดีต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย ตามการปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวจากเดือนก่อน
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนมกราคม 2549 มีดังนี้
1. การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2549 ขยายตัวจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.8 ชะลอลงจากเดือนก่อน อันเป็นผลจากการผลิตหดตัวในบางหมวดอุตสาหกรรม ได้แก่ หมวดยาสูบ เพราะการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน หมวดเครื่องหนัง เพราะเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับสินค้าจากประเทศจีน หมวดอาหาร เพราะภัยแล้งทำให้การผลิตน้ำตาลลดลง และ หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ทำให้ปริมาณลดลง อย่างไรก็ตาม สินค้าในหลายหมวดยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี ตามอุปสงค์จากต่างประเทศ ได้แก่ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ หมวดสิ่งทอ และหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 73.3 ลดลงจากร้อยละ 74.2 ในเดือนก่อน
2. ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (เบื้องต้น) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.7 ชะลอลงจากเดือนธันวาคมที่ขยายตัวร้อยละ 2.2 เป็นผลมาจากการลดลงของปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคได้เร่งซื้อในช่วงที่ผ่านมา และดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (เบื้องต้น) ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.7 จากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ลดลงเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่การลงทุนในหมวดก่อสร้างลดลงตามภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
3. ภาคการคลังเดือนมกราคม 2549 รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บ 111.0 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน รายได้ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกฐานภาษี โดยภาษีจากฐานรายได้ขยายตัวร้อยละ 13.1 จากภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา เป็นสำคัญ สำหรับภาษีจากฐานการบริโภคขยายตัวร้อยละ 7.9 โดยเฉพาะจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับภาษีสรรพสามิตเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 0.50 บาทต่อลิตร ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2548 สำหรับรายได้ที่มิใช่ภาษีลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากฐานสูงในเดือนเดียวกันปีก่อน ที่มีการนำส่งรายได้จากบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ถึง 3 พันล้านบาท สำหรับดุลเงินสดรัฐบาลในเดือนนี้ขาดดุล 13.4 พันล้านบาท
4. ภาคต่างประเทศเดือนมกราคม 2549 ดุลการค้าขาดดุล 388 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับเดือนธันวาคมที่ขาดดุล 176 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกมีมูลค่า 8,807 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.5 ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะและชิ้นส่วน และอัญมณีและเครื่องประดับ สำหรับการนำเข้ามีมูลค่า 9,195 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.4 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการลดลงของการนำเข้าที่สำคัญโดยเฉพาะหมวดวัตถุดิบและยานพาหนะและชิ้นส่วน ซึ่งในปีก่อนมีการนำเข้าเหล็กสูงมาก ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุล 893 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่เกินดุล 577 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการลดลงของรายจ่ายดอกเบี้ยและเงินปันผล ประกอบกับรายได้จากการท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ดี ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 504 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากที่เกินดุล 401 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน ดุลการชำระเงินเกินดุล 625 ล้านดอลลาร์ สรอ. เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2549 อยู่ที่ระดับ 53.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 5.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคม 2549 อยู่ที่ร้อยละ 5.9 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5.8 โดยเป็นผลจากการปรับขึ้นราคาในหมวดพลังงาน ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยราคาน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 3 ครั้งในเดือนมกราคมรวม 1.20 บาท สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5 โดยเป็นการลดลงของราคาในหมวดการสื่อสาร (ค่าบริการใช้โทรศัพท์มือถือ) และอาหารที่บริโภคนอกบ้าน
ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.5 ตามการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมืองและหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จากต้นทุนที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
6. ภาวะการเงินเดือนมกราคม 2549 เงินฝากธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 228.5 พันล้านบาท และขยายตัวถึงร้อยละ 10.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ ซึ่งเมื่อหักผลดังกล่าวออกแล้ว เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 6.3 เร่งขึ้นต่อเนื่องจากช่วงกลางปี 2548 เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นน่าจะมีส่วนช่วยจูงใจผู้ฝากเงิน สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของธนาคารพาณิชย์ (รวมการถือครองหลักทรัพย์ของภาคเอกชน) ขยายตัวร้อยละ 8.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เมื่อหักผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ และบวกกลับผลของการตัดหนี้สูญสินเชื่อออกจากบัญชีและการโอนทางบัญชีกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) แล้วจะขยายตัวร้อยละ 8.6 เร่งขึ้นต่อเนื่องจากช่วงกลางปีก่อนเช่นกัน
ฐานเงินขยายตัวร้อยละ 9.9 จากระยะเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น 11.8 พันล้านบาทจากเดือนก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินสดในมือประชาชนจากความต้องการใช้เงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 10.7 7.5 และ 7.5 ตามลำดับ และอยู่ในแนวโน้มเร่งตัวต่อเนื่องจากช่วงกลางปี 2548
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนมกราคม 2549 ทั้งอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันเฉลี่ยเท่ากันที่ร้อยละ 4.03 ต่อปี สูงขึ้นจากค่าเฉลี่ยของเดือนก่อนตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2549
7. ค่าเงินบาท ในเดือนมกราคม 2549 เฉลี่ยอยู่ที่ 39.62 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นจากค่าเฉลี่ย 41.07 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนธันวาคม 2548 จากการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศเพื่อมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยและความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์ สรอ. ที่ลดลงเนื่องจากตลาดในขณะนั้นเห็นว่าวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในสหรัฐฯ อาจสิ้นสุดเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
ระหว่างวันที่ 1-22 กุมภาพันธ์ 2549 ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ สรอ. เฉลี่ยแข็งค่าขึ้นอีกสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของเงินทุนต่างประเทศเพื่อมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค
ธนาคารแห่งประเทศไทย
28 กุมภาพันธ์ 2549
ข้อมูลเพิ่มเติม: คุณคุณทิพย์ ตรงธรรมกิจโทร. 0-2283-5639, 0-2283-5648 e-mail: kuntipt@bot.or.th
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยนอกจากปัจจัยด้านราคาที่ยังเพิ่มขึ้นในเกณฑ์สูงแล้ว ผลผลิตพืชผลหลักก็ปรับตัวดีขึ้น เพราะสภาวะอากาศที่เอื้ออำนวย ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยบางส่วนเป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานและอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในบางสินค้า สำหรับภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยรวมและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในภาคใต้ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากฐานปีก่อนที่อยู่ในระดับต่ำเพราะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยด้านฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวดีต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย ตามการปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวจากเดือนก่อน
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนมกราคม 2549 มีดังนี้
1. การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2549 ขยายตัวจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.8 ชะลอลงจากเดือนก่อน อันเป็นผลจากการผลิตหดตัวในบางหมวดอุตสาหกรรม ได้แก่ หมวดยาสูบ เพราะการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน หมวดเครื่องหนัง เพราะเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับสินค้าจากประเทศจีน หมวดอาหาร เพราะภัยแล้งทำให้การผลิตน้ำตาลลดลง และ หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ทำให้ปริมาณลดลง อย่างไรก็ตาม สินค้าในหลายหมวดยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี ตามอุปสงค์จากต่างประเทศ ได้แก่ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ หมวดสิ่งทอ และหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 73.3 ลดลงจากร้อยละ 74.2 ในเดือนก่อน
2. ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (เบื้องต้น) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.7 ชะลอลงจากเดือนธันวาคมที่ขยายตัวร้อยละ 2.2 เป็นผลมาจากการลดลงของปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคได้เร่งซื้อในช่วงที่ผ่านมา และดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (เบื้องต้น) ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.7 จากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ลดลงเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่การลงทุนในหมวดก่อสร้างลดลงตามภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
3. ภาคการคลังเดือนมกราคม 2549 รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บ 111.0 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน รายได้ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกฐานภาษี โดยภาษีจากฐานรายได้ขยายตัวร้อยละ 13.1 จากภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา เป็นสำคัญ สำหรับภาษีจากฐานการบริโภคขยายตัวร้อยละ 7.9 โดยเฉพาะจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับภาษีสรรพสามิตเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 0.50 บาทต่อลิตร ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2548 สำหรับรายได้ที่มิใช่ภาษีลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากฐานสูงในเดือนเดียวกันปีก่อน ที่มีการนำส่งรายได้จากบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ถึง 3 พันล้านบาท สำหรับดุลเงินสดรัฐบาลในเดือนนี้ขาดดุล 13.4 พันล้านบาท
4. ภาคต่างประเทศเดือนมกราคม 2549 ดุลการค้าขาดดุล 388 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับเดือนธันวาคมที่ขาดดุล 176 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกมีมูลค่า 8,807 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.5 ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะและชิ้นส่วน และอัญมณีและเครื่องประดับ สำหรับการนำเข้ามีมูลค่า 9,195 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.4 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการลดลงของการนำเข้าที่สำคัญโดยเฉพาะหมวดวัตถุดิบและยานพาหนะและชิ้นส่วน ซึ่งในปีก่อนมีการนำเข้าเหล็กสูงมาก ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุล 893 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่เกินดุล 577 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการลดลงของรายจ่ายดอกเบี้ยและเงินปันผล ประกอบกับรายได้จากการท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ดี ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 504 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากที่เกินดุล 401 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน ดุลการชำระเงินเกินดุล 625 ล้านดอลลาร์ สรอ. เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2549 อยู่ที่ระดับ 53.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 5.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคม 2549 อยู่ที่ร้อยละ 5.9 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5.8 โดยเป็นผลจากการปรับขึ้นราคาในหมวดพลังงาน ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยราคาน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 3 ครั้งในเดือนมกราคมรวม 1.20 บาท สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5 โดยเป็นการลดลงของราคาในหมวดการสื่อสาร (ค่าบริการใช้โทรศัพท์มือถือ) และอาหารที่บริโภคนอกบ้าน
ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.5 ตามการเพิ่มขึ้นของราคาหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมืองและหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จากต้นทุนที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
6. ภาวะการเงินเดือนมกราคม 2549 เงินฝากธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 228.5 พันล้านบาท และขยายตัวถึงร้อยละ 10.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ ซึ่งเมื่อหักผลดังกล่าวออกแล้ว เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 6.3 เร่งขึ้นต่อเนื่องจากช่วงกลางปี 2548 เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นน่าจะมีส่วนช่วยจูงใจผู้ฝากเงิน สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของธนาคารพาณิชย์ (รวมการถือครองหลักทรัพย์ของภาคเอกชน) ขยายตัวร้อยละ 8.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เมื่อหักผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ และบวกกลับผลของการตัดหนี้สูญสินเชื่อออกจากบัญชีและการโอนทางบัญชีกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) แล้วจะขยายตัวร้อยละ 8.6 เร่งขึ้นต่อเนื่องจากช่วงกลางปีก่อนเช่นกัน
ฐานเงินขยายตัวร้อยละ 9.9 จากระยะเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น 11.8 พันล้านบาทจากเดือนก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินสดในมือประชาชนจากความต้องการใช้เงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 10.7 7.5 และ 7.5 ตามลำดับ และอยู่ในแนวโน้มเร่งตัวต่อเนื่องจากช่วงกลางปี 2548
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนมกราคม 2549 ทั้งอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันเฉลี่ยเท่ากันที่ร้อยละ 4.03 ต่อปี สูงขึ้นจากค่าเฉลี่ยของเดือนก่อนตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2549
7. ค่าเงินบาท ในเดือนมกราคม 2549 เฉลี่ยอยู่ที่ 39.62 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นจากค่าเฉลี่ย 41.07 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนธันวาคม 2548 จากการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศเพื่อมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยและความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์ สรอ. ที่ลดลงเนื่องจากตลาดในขณะนั้นเห็นว่าวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในสหรัฐฯ อาจสิ้นสุดเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
ระหว่างวันที่ 1-22 กุมภาพันธ์ 2549 ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ สรอ. เฉลี่ยแข็งค่าขึ้นอีกสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของเงินทุนต่างประเทศเพื่อมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค
ธนาคารแห่งประเทศไทย
28 กุมภาพันธ์ 2549
ข้อมูลเพิ่มเติม: คุณคุณทิพย์ ตรงธรรมกิจโทร. 0-2283-5639, 0-2283-5648 e-mail: kuntipt@bot.or.th
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--