นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและ แนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 เศรษฐกิจไทยขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ การส่งออกที่ขยายตัวได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้ภาวะอุปสงค์ภาคเอกชนล่าสุด มีสัญญาณของการอ่อนตัว ประกอบกับการลงทุนของภาครัฐอาจล่าช้าไปบางส่วน ทำให้คณะกรรมการฯ มองว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจอาจจะชะลอลงในระยะต่อไปได้
แต่เนื่องจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นจากที่คาดไว้มาก และมีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้เดิมอย่างชัดเจน จึงเห็นว่าในครั้งนี้มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินนโยบายการเงินในแนวทางเดิม คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน ร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 4.75 เป็นร้อยละ 5.00 ต่อปี โดยมีผลทันที
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่า หากไม่มีเหตุการณ์ที่นอกเหนือจากความคาดหมาย โดยเฉพาะการเร่งตัวอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้น่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอันจะเอื้อต่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ข้อมูลเพิ่มเติม : คุณจิตตาภา ประจวบเหมาะ โทร 0 2356 7872 e-mail: jittapav@bot.or.th
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 เศรษฐกิจไทยขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ การส่งออกที่ขยายตัวได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้ภาวะอุปสงค์ภาคเอกชนล่าสุด มีสัญญาณของการอ่อนตัว ประกอบกับการลงทุนของภาครัฐอาจล่าช้าไปบางส่วน ทำให้คณะกรรมการฯ มองว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจอาจจะชะลอลงในระยะต่อไปได้
แต่เนื่องจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นจากที่คาดไว้มาก และมีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้เดิมอย่างชัดเจน จึงเห็นว่าในครั้งนี้มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินนโยบายการเงินในแนวทางเดิม คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน ร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 4.75 เป็นร้อยละ 5.00 ต่อปี โดยมีผลทันที
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่า หากไม่มีเหตุการณ์ที่นอกเหนือจากความคาดหมาย โดยเฉพาะการเร่งตัวอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้น่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอันจะเอื้อต่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ข้อมูลเพิ่มเติม : คุณจิตตาภา ประจวบเหมาะ โทร 0 2356 7872 e-mail: jittapav@bot.or.th
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--