สศก. เผย ผลผลิตข้าวนาปรังปี 49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.72 ส่งผลราคาไม่หวือหวาเหมือนปี 48 แต่ผลผลิตประเทศคู่แข่งลดลง บวกกับภัยพิบัติในหลายภูมิภาคของโลก อาจทำให้ความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น แนะรัฐเร่งระบายสต๊อกสู่ต่างประเทศ ก่อนผลผลิตออกสู่ตลาด
นางอัญชลี อุไรกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ผลผลิตข้าวนาปรัง ปี 2549 ว่ามีประมาณ 6.520 ล้านตัน เมื่อเทียบกับ 5.888 ล้านตัน ในปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.72 ส่งผลให้ราคาข้าวนาปรังปีนี้ น่าจะลดลงต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แต่จากการที่สต๊อกปลายปี 2548/49 ของโลกลดลงถึงร้อยละ 9.53 ประกอบกับผลผลิตของประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทย ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และอินเดียลดลง รวมทั้งเกิดภัยภิบัติในหลายภูมิภาคของโลก อาจทำให้ความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแถบเอเชียแปซิฟิก จึงทำให้ราคาข้าวนาปรังน่าจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ราคาในประเทศอาจจะอ่อนตัวลงในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก คือ ช่วงเดือนมีนาคม ถึง เมษายน เนื่องจากเกษตรกรมีการเก็บเกี่ยวมากที่สุดถึง 3.03 ล้านตัน หรือร้อยละ 46.47 ของผลผลิตทั้งหมดที่คาดว่าจะได้ 6.52 ล้านตัน และเป็นช่วงเดียวกับที่เวียดนามเก็บเกี่ยวมากที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้ ผลผลิตข้าวนาปรังมักจะมีความชื้นสูง เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้รถเก็บเกี่ยวและขายหมดทันทีรวมทั้งเกษตรกรไม่นิยมเก็บข้าวนาปรังไว้บริโภค ประกอบกับข้าวในโครงการรับจำนำปี 2547/48 ยังไม่ได้มีการระบาย และเมื่อรวมกับสต๊อกข้าวโครงการรับจำนำข้าวนาปี 2548/49 แล้ว อาจส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศอ่อนตัวลงได้ ดังนั้น รัฐจึงควรเร่งระบายข้าวในสต๊อกออกสู่ตลาดต่างประเทศ ก่อนที่ผลผลิตข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาด รวมทั้งเตรียมมาตรการรองรับในช่วงที่ผลผลิตข้าวนาปรังปี 2549 จะออกด้วยเช่นกัน นางอัญชลีกล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นางอัญชลี อุไรกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ผลผลิตข้าวนาปรัง ปี 2549 ว่ามีประมาณ 6.520 ล้านตัน เมื่อเทียบกับ 5.888 ล้านตัน ในปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.72 ส่งผลให้ราคาข้าวนาปรังปีนี้ น่าจะลดลงต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แต่จากการที่สต๊อกปลายปี 2548/49 ของโลกลดลงถึงร้อยละ 9.53 ประกอบกับผลผลิตของประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทย ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และอินเดียลดลง รวมทั้งเกิดภัยภิบัติในหลายภูมิภาคของโลก อาจทำให้ความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแถบเอเชียแปซิฟิก จึงทำให้ราคาข้าวนาปรังน่าจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ราคาในประเทศอาจจะอ่อนตัวลงในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก คือ ช่วงเดือนมีนาคม ถึง เมษายน เนื่องจากเกษตรกรมีการเก็บเกี่ยวมากที่สุดถึง 3.03 ล้านตัน หรือร้อยละ 46.47 ของผลผลิตทั้งหมดที่คาดว่าจะได้ 6.52 ล้านตัน และเป็นช่วงเดียวกับที่เวียดนามเก็บเกี่ยวมากที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้ ผลผลิตข้าวนาปรังมักจะมีความชื้นสูง เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้รถเก็บเกี่ยวและขายหมดทันทีรวมทั้งเกษตรกรไม่นิยมเก็บข้าวนาปรังไว้บริโภค ประกอบกับข้าวในโครงการรับจำนำปี 2547/48 ยังไม่ได้มีการระบาย และเมื่อรวมกับสต๊อกข้าวโครงการรับจำนำข้าวนาปี 2548/49 แล้ว อาจส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศอ่อนตัวลงได้ ดังนั้น รัฐจึงควรเร่งระบายข้าวในสต๊อกออกสู่ตลาดต่างประเทศ ก่อนที่ผลผลิตข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาด รวมทั้งเตรียมมาตรการรองรับในช่วงที่ผลผลิตข้าวนาปรังปี 2549 จะออกด้วยเช่นกัน นางอัญชลีกล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-