ผลการพิจารณาจำหน่ายข้าวหอมมะลิในสต็อกของรัฐบาล

          นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอราคาซื้อข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2548/49 ปริมาณประมาณ 120,000 ตัน เพื่อส่งออกต่างประเทศ และข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ปริมาณประมาณ 300,000 ตัน เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและ/หรือส่งออกต่างประเทศ โดยกำหนดยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 27 มิถุนายน 2549 เวลา 10.00-12.00 น. และเปิดซองเสนอราคาเวลา 13.00 น. ในวันเดียวกัน เมื่อสิ้นสุดกำหนดเวลายื่นเสนอราคาซื้อปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นเสนอราคาซื้อข้าวสารฯดังนี้ 
          ข้าวสารปีการผลิต 2548/49 มีผู้เสนอราคาซื้อรวม 15 ราย ปริมาณเสนอซื้อทั้งสิ้น 212,337.002 ตัน โดยมีปริมาณเสนอซื้อรวมแต่ละรายอยู่ระหว่าง 2,095-156,619 ตัน ราคาเสนอซื้ออยู่ระหว่างตันละ 400-461 เหรียญสหรัฐฯ 
          ข้าวสารปีการผลิต 2547/48 มีผู้เสนอราคาซื้อรวม 36 ราย ในจำนวนนี้มี 2 ราย ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข โดยเสนอซื้อไม่ระบุลำดับกองและเสนอซื้อไม่ยกกอง คงเหลือผู้เสนอซื้อ 34 รายปริมาณเสนอซื้อทั้งสิ้น 590,956.616 ตัน โดยมีปริมาณเสนอซื้อรวมแต่ละรายอยู่ระหว่าง 2,007-305,554 ตัน ราคาเสนอซื้ออยู่ระหว่างตันละ 13,880-16,000 บาท 
          คณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสารซึ่งมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาการเสนอราคาซื้อข้าวสารดังกล่าวข้างต้น และได้วางหลักเกณฑ์และแนวทางการต่อรองก่อนเจรจากับ ผู้เสนอซื้อโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นหลักดังนี้ 
          ข้าวสารปีการผลิต 2548/49 
          - พิจารณาราคาอ้างอิงจากราคาข้าวส่งออก (FOB) ประจำสัปดาห์ของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2549 ข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปี 2548/49 ราคาตันละ 490 เหรียญสหรัฐฯ 
          - เจรจาต่อรองกับผู้ที่เสนอราคาซื้อใกล้เคียงราคาโดยต่อรองจากผู้ที่เสนอราคาต่ำไปหาผู้เสนอราคาสูง 
          ข้าวสารปีการผลิต 2547/48 
          - พิจารณาราคาขายข้าวหอมมะลิปีการผลิต 2547/48 เช่นเดียวกับการประมูลเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2549 
          - ราคาที่พิจารณาขายต้องไม่ต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่จำหน่ายข้าวหอมมะลิปีการผลิต 47/48 ในการประมูลเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2549 ซึ่งอยู่ที่ตันละ 15,500 บาท 
          คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการเจรจาตามหลักเกณฑ์และแนวทางดังกล่าวแล้ว ได้เสนอผลการพิจารณาต่อรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว พิจารณาอนุมัติการจำหน่ายข้าวหอมมะลิไทย ดังนี้ 
          1. ไม่จำหน่ายข้าวหอมมะลิไทยชนิดข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิตปี 2548/49 เพราะราคาที่ต่อรองแล้วได้ตันละ 460-465 เหรียญสหรัฐฯ ยังต่ำกว่าราคาตลาดมาก 
          2. จำหน่ายข้าวหอมมะลิไทย ชนิดข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ให้กับผู้เสนอซื้อจำนวน 2 ราย ที่เสนอราคาและเงื่อนไขดีที่สุดปริมาณรวม 305,554.18 ตัน คือ 
            2.1 บริษัทโกลเด้นฮาร์เวสท์ไรซ์มิลล์ จำกัด เสนอราคาสูงสุดตามหลักเกณฑ์การต่อรองในแต่ละกองที่มีการเสนอซื้อซ้ำกองกับรายอื่นคือ 16,500 บาท/ตัน ปริมาณ 3,257.91 ตัน 
            2.2 บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด จำนวนรวม 302,296.26 ตัน ราคาตันละ 15,930-16,200 บาท 
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ได้อนุมัติตามที่คณะทำงานฯ เสนอและให้องค์การคลังสินค้า (อคส) ทำสัญญาจำหน่ายข้าวสารให้กับผู้เสนอทั้ง 2 รายต่อไป 
          การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลครั้งนี้สามารถขายข้าวหอมมะลิไทยชนิดข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ให้กับผู้เสนอซื้อจำนวน 2 ราย ได้ในราคาระหว่างตันละ 15,930 - 16,500 บาท รวมปริมาณทั้งสิ้น 305,554.18 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ประกาศขายตามโครงการปี 47/48 ดังกล่าวทั้งหมด รัฐบาลได้ประโยชน์จากการจำหน่ายข้าวครั้งนี้คิดเป็นมูลค่า 4,888.31 ล้านบาท สามารถต่อรองราคาได้สูงขึ้นจากราคาที่เสนอซื้อ ทำให้ได้รับค่าข้าวมูลค่าเพิ่มขึ้นรวม 8.73 ล้านบาท อีกทั้ง ทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวดังกล่าวเดือนละประมาณ 38 ล้านบาท สำหรับข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปี 2548/49 ที่ไม่อนุมัติขายในครั้งนี้คณะทำงานฯ จะพิจารณาจำหน่ายในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไป 
          ที่มา: กรมการค้าต่างประเทศ