กรุงเทพ--28 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ได้พบหารือกับนาง Amanda Vanstone วุฒิสมาชิก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและพหุวัฒนธรรมออสเตรเลีย เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านตรวจคนเข้าเมือง และการตรวจลงตราระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ณ ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้
1. ความร่วมมือเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนและการต่อต้านการก่อการร้าย
ดร.กันตธีร์ฯ เปิดเผยถึงกรอบความร่วมมือ Bali Process ว่า ไทยและออสเตรเลียร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในเรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนและการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยที่นาง Amanda Vanstone รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและพหุวัฒนธรรมออสเตรเลียพร้อมที่จะแลกแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อป้องกันการเดินทางเข้าประเทศของบุคคลต้องห้าม โดยที่ฝ่ายไทยสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับระบบ API/APP (Advance Passenger Information and Advance Passenger Processing) ของออสเตรเลีย รวมทั้งระบบ E-Visa ด้วย
2. โครงการแลกเปลี่ยนสัตว์พื้นเมือง
ดร. กันตธีร์เปิดเผยว่า รัฐมนตรีออสเตรเลียได้ขอให้ไทยส่งมอบช้างไทยจำนวน 8 เชือกไปยังสวนสัตว์ซิดนีย์และเมลเบิร์นตามความตกลงด้านการอนุรักษ์และแลกเปลี่ยนสัตว์พื้นเมืองระหว่างไทยและออสเตรเลีย อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังไม่สามารถส่งมอบช้างได้เนื่องจากมีการประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์ช้างและ NGOs ซึ่งก็ได้ทำความเข้าใจกับกลุ่ม NGOs ในเบื้องต้นแล้ว และย้ำว่า ช้างไทยที่จะส่งไปออสเตรเลียทั้งหมดนั้นจะได้อยู่ในที่ที่ดี อาหารที่เหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน
นอกจากนั้น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับช้างไทย ทางการออสเตรเลียจะส่งโคอาลาให้แก่ประเทศไทยจำนวน 2 คู่ ในเดือนกรกฎาคม 2549 สำหรับสวนสัตว์เชียงใหม่และ ไนท์ซาฟารี ในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศเผยว่า ไทยได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องสถานที่เลี้ยงดู และการปลูกยูคาลิปตัสพันธุ์ที่เป็นอาหารเลี้ยงโคอาลา อย่างไรก็ดี การแลกเปลี่ยนสัตว์พื้นเมืองของทั้งสองประเทศสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีของประชาชนชาวไทยและออสเตรเลีย
3. โครงการ Work and Holiday Visas
รัฐมนตรีต่างประเทศเผยถึงความคืบหน้าของ เรื่อง Work and Holiday Visa Programme ว่าในปัจจุบันมีคนไทยเข้าร่วมโครงการเพื่อเดินทางไปออสเตรเลียจำนวนประมาณ 40 คนและมีผู้เข้าร่วมโครงการจากออสเตรเลียที่จะเดินทางมายังประเทศไทย 1 คน ซึ่งเห็นว่าควรสนับสนุนให้มีการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากโครงการนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการหารายได้แก่เยาวชนและ ยังจะเป็นส่วนสำคัญของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมของไทย-ออสเตรเลียด้วย
4. Humanitarian Assistance Cooperation
รัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวถึงประเด็นเรื่องผู้หนีภัยชาวพม่าว่า ออสเตรเลียพร้อมที่พร้อมที่จะรับผู้หนีภัยชาวพม่าที่พักพิงในไทยไปตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น ทางการออสเตรเลียได้รับผู้หนีภัยชาวพม่าจากไทยเป็นจำนวน 400 คนในปี 2548 และ 900 คนในปี 2549 และคาดว่าจะรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นถึง 1,400 คนในปี 2550 ยิ่งไปกว่านั้นออสเตรเลียยังได้ให้เงินบริจาคแก่ UNHCR จำนวน 500,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อสนับสนุนการทำงานเรื่องผู้ลี้ภัย ซึ่งนับว่า ออสเตรเลียเป็นผู้บริจาคอันดับที่ 3 รองจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
5. สถานการณ์การเมืองของไทย
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวภายหลังที่อัยการสูงสุดเสนอให้ยุบพรรคการเมืองหลายพรรครวมทั้งพรรคไทยรักไทยนั้น นายกันตธีร์ฯ กล่าวว่า ไม่มีผลต่อการดำเนินงานของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้แสดงให้เห็นถึงผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้งต่อคนไทยและคนต่างชาติ อย่างไรก็ดีรัฐมนตรีเผยว่า เสียดายโอกาสที่จะขับเคลื่อนประเทศต่อไป พร้อมทั้งเปิดเผยว่านาง Amanda Vanstone เข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย ทั้งยังกล่าวว่าในเวทีการเมืองนั้นจะต้องเผชิญทั้งประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี แต่สิ่งสำคัญคือต้องมองในภาพรวมของการพัฒนาประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ได้พบหารือกับนาง Amanda Vanstone วุฒิสมาชิก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและพหุวัฒนธรรมออสเตรเลีย เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านตรวจคนเข้าเมือง และการตรวจลงตราระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ณ ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้
1. ความร่วมมือเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนและการต่อต้านการก่อการร้าย
ดร.กันตธีร์ฯ เปิดเผยถึงกรอบความร่วมมือ Bali Process ว่า ไทยและออสเตรเลียร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในเรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนและการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยที่นาง Amanda Vanstone รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและพหุวัฒนธรรมออสเตรเลียพร้อมที่จะแลกแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อป้องกันการเดินทางเข้าประเทศของบุคคลต้องห้าม โดยที่ฝ่ายไทยสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับระบบ API/APP (Advance Passenger Information and Advance Passenger Processing) ของออสเตรเลีย รวมทั้งระบบ E-Visa ด้วย
2. โครงการแลกเปลี่ยนสัตว์พื้นเมือง
ดร. กันตธีร์เปิดเผยว่า รัฐมนตรีออสเตรเลียได้ขอให้ไทยส่งมอบช้างไทยจำนวน 8 เชือกไปยังสวนสัตว์ซิดนีย์และเมลเบิร์นตามความตกลงด้านการอนุรักษ์และแลกเปลี่ยนสัตว์พื้นเมืองระหว่างไทยและออสเตรเลีย อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังไม่สามารถส่งมอบช้างได้เนื่องจากมีการประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์ช้างและ NGOs ซึ่งก็ได้ทำความเข้าใจกับกลุ่ม NGOs ในเบื้องต้นแล้ว และย้ำว่า ช้างไทยที่จะส่งไปออสเตรเลียทั้งหมดนั้นจะได้อยู่ในที่ที่ดี อาหารที่เหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน
นอกจากนั้น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับช้างไทย ทางการออสเตรเลียจะส่งโคอาลาให้แก่ประเทศไทยจำนวน 2 คู่ ในเดือนกรกฎาคม 2549 สำหรับสวนสัตว์เชียงใหม่และ ไนท์ซาฟารี ในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศเผยว่า ไทยได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องสถานที่เลี้ยงดู และการปลูกยูคาลิปตัสพันธุ์ที่เป็นอาหารเลี้ยงโคอาลา อย่างไรก็ดี การแลกเปลี่ยนสัตว์พื้นเมืองของทั้งสองประเทศสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีของประชาชนชาวไทยและออสเตรเลีย
3. โครงการ Work and Holiday Visas
รัฐมนตรีต่างประเทศเผยถึงความคืบหน้าของ เรื่อง Work and Holiday Visa Programme ว่าในปัจจุบันมีคนไทยเข้าร่วมโครงการเพื่อเดินทางไปออสเตรเลียจำนวนประมาณ 40 คนและมีผู้เข้าร่วมโครงการจากออสเตรเลียที่จะเดินทางมายังประเทศไทย 1 คน ซึ่งเห็นว่าควรสนับสนุนให้มีการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากโครงการนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการหารายได้แก่เยาวชนและ ยังจะเป็นส่วนสำคัญของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมของไทย-ออสเตรเลียด้วย
4. Humanitarian Assistance Cooperation
รัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวถึงประเด็นเรื่องผู้หนีภัยชาวพม่าว่า ออสเตรเลียพร้อมที่พร้อมที่จะรับผู้หนีภัยชาวพม่าที่พักพิงในไทยไปตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น ทางการออสเตรเลียได้รับผู้หนีภัยชาวพม่าจากไทยเป็นจำนวน 400 คนในปี 2548 และ 900 คนในปี 2549 และคาดว่าจะรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นถึง 1,400 คนในปี 2550 ยิ่งไปกว่านั้นออสเตรเลียยังได้ให้เงินบริจาคแก่ UNHCR จำนวน 500,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อสนับสนุนการทำงานเรื่องผู้ลี้ภัย ซึ่งนับว่า ออสเตรเลียเป็นผู้บริจาคอันดับที่ 3 รองจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
5. สถานการณ์การเมืองของไทย
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวภายหลังที่อัยการสูงสุดเสนอให้ยุบพรรคการเมืองหลายพรรครวมทั้งพรรคไทยรักไทยนั้น นายกันตธีร์ฯ กล่าวว่า ไม่มีผลต่อการดำเนินงานของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้แสดงให้เห็นถึงผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้งต่อคนไทยและคนต่างชาติ อย่างไรก็ดีรัฐมนตรีเผยว่า เสียดายโอกาสที่จะขับเคลื่อนประเทศต่อไป พร้อมทั้งเปิดเผยว่านาง Amanda Vanstone เข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย ทั้งยังกล่าวว่าในเวทีการเมืองนั้นจะต้องเผชิญทั้งประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี แต่สิ่งสำคัญคือต้องมองในภาพรวมของการพัฒนาประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-