สินค้าอุตสาหกรรมไทยไปได้สวยภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 14, 2006 13:45 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  เปิดเผยว่า  ในปี 2548 ที่ผ่านมา  การค้าสินค้าอุตสาหกรรมของไทยภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีกับประเทศออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์ อาเซียน-จีน และอินเดีย (82 รายการ) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.6  โดยส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.9 และนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.8 
ในช่วง 5 เดือนแรก ที่ผ่านมาของปี 2549 (ม.ค.-พ.ค.) การค้าของไทยภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีกับ 4 ประเทศ ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2548 ร้อยละ 17.2 เป็นการขยายตัวด้านการส่งออก ร้อยละ 28.6 โดยส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.2 และนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าอุตสาหกรรมร้อยละ 8.3
สินค้าที่ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นในแต่ละประเทศ คือ ออสเตรเลีย ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยางและเม็ดพลาสติก นิวซีแลนด์ ได้แก่ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ จีน ได้แก่ ยางพารา เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก แผงวงจรไฟฟ้า และอินเดีย (ม.ค.-ต.ค.48) ได้แก่ โทรทัศน์สี เครื่องปรับอากาศ หลอดภาพแคโธดเรย์ของโทรทัศน์สี วิดีโอ และพลาสติก
โดยสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัญมณีและครื่องประดับ เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องปรับอากาศ เม็ดพลาสติก ยางพารา โทรทัศน์สี หลอดภาพแคโธดเรย์ของโทรทัศน์สีและวิดีโอ สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกลดลง ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เนื่องจากต้องแข่งขันกับจีน
การที่ไทยทำความตกลงการค้าเสรีกับ 4 ประเทศ นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยจะได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ โดยผู้ประกอบการควรศึกษาว่าแต่ละตลาดมีความต้องการอย่างไร เช่น ในตลาดออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ น่าจะส่งเสริมด้านบริการมากๆ เพราะไทยค่อนข้างได้เปรียบและมีศักยภาพ สำหรับในตลาดอินเดีย ในวันที่ 1 กันยายน 2549 นี้ ภาษีจะลดเหลือ 0 จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งส่งสินค้า (82 รายการ) เข้าสู่ตลาดอินเดียให้มากขึ้น และตลาดอาเซียน-จีน สินค้าผัก-ผลไม้น่าจะเป็นสินค้าที่ไทยควรเร่งส่งเสริม
แม้ว่าการทำความตกลงการค้าเสรีกับ 4 ประเทศ จะช่วยให้การค้าระหว่างประเทศของไทยเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าของไทยยังคงประสบปัญหาด้านการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ อาทิเช่น ในตลาดออสเตรเลีย ไทยต้องแข่งขันกับสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และจีน ในตลาดนิวซีแลนด์ ต้องแข่งขันกับจีน มาเลเซีย ไต้หวันและสิงคโปร์ ส่วนในตลาดจีน ต้องแข่งขันกับมาเลเซีย เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ดังนั้นหนทางที่จะทำให้ไทยแข่งขันกับประทศต่างๆ เหล่านี้ได้ นอกจากผู้ประกอบการไทยต้องปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานตามที่ตลาดต้องการแล้ว ก็ต้องมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำด้วยเพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกอื่นๆ ได้
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ