1. อินเดียเป็นตลาดนำเข้าสำคัญอันดับ 22 ของโลก โดยมีมูลค่าการนำเข้า 97,312.729 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.71 ( 2547) ในขณะที่ปี 2548 เป็นตลาดนำเข้าอันดับที่ 17 ของโลก มีมูลค่าการนำเข้า
138,743.491 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.19
2. แหล่งผลิตสำคัญที่อินเดียนำเข้าในปี 2548 ได้แก่
- จีน ร้อยละ 7.26 มูลค่า 10,047.731 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.23
- สหรัฐฯ ร้อยละ 5.54 มูลค่า 7,670.749 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.28
- สวิตเซอร์แลนด์ ร้อยละ 5.17 มูลค่า 7,148.777 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.72
- เยอรมนี ร้อยละ 3.96 มูลค่า 5,475.164 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.31
ไทยอยู่อันดับที่ 23 ร้อยละ 0.87 มูลค่า 1,196.310 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.82
3. อินเดียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 16 ของไทย โดยมีสัดส่วนร้อยละ 1.25 ของมูลค่าการส่งออก 759.16 ล้าน
เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.25 (ม.ค.-มิ.ย. 2549) หรือคิดเป็นร้อยละ 31.01 ของเป้าหมายการส่งออก
ปี 2549 ที่มูลค่า 2,448 ล้านเหรียญสหรัฐ
5 .การค้าระหว่างประเทศไทย-อินเดีย
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ
2546 2547 2548 2549 อัตราการขยายตัว (ร้อยละ)
(ม.ค-มิ.ย) (ม.ค-มิ.ย) 2546 2547 2548 2549
(ม.ค-มิ.ย)
มูลค่าการค้า 1,508.49 2,049.16 1,455.86 1,508.30 27.32 35.84 37.01 3.60
สินค้าออก 638.59 913.58 746.32 759.16 54.36 43.06 67.66 1.72
สินค้าเข้า 869.90 1,135.58 709.54 749.13 12.81 30.54 12.36 5.58
ดุลการค้า -231.31 -222.00 36.78 10.03 -35.28 -4.02 - -72.74
6. สินค้าไทยส่งออกไปอินเดีย 2549 (ม.ค-มิ.ย.) 25 อันดับแรกมีสัดส่วนรวมกันร้อยละ 81.42 ของ
มูลค่าการส่งออกโดยรวมไปตลาดนี้ สินค้าสำคัญที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 100 มี 5 รายการ
และสินค้าที่มีมูลค่าลดลงเกินกว่าร้อยละ 20 มี 2 รายการ
สถิติการส่งออกสินค้าไทยไปอินเดียที่มีมูลค่าการเปลี่ยนแปลงสูง ปี 2549
อันดับที่ มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่า %เปลี่ยนแปลง สัดส่วน ร้อยละ2549
ตลาด 2548 2549 เปลี่ยนแปลง 2549 2548 (ม.ค-มิ.ย)
(ม.ค-มิ.ย) (ม.ค-มิ.ย) (ม.ค-มิ.ย)
1. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปอินเดีย
เพิ่มขึ้นสูงมากกว่าร้อยละ 100 มี 5 รายการ
(1) เคมีภัณฑ์ 3 17.26 57.36 40.10 232.42 2.90 7.56
(2) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 8 11.37 24.00 12.63 111.06 1.70 3.16
(3) ทองแดงและของทำด้วยทองแดง 14 5.13 14.83 9.70 189.05 0.76 1.95
(4) หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ 19 2.75 11.28 8.53 310.65 0.44 1.49
(5) แผงวงจรไฟฟ้า 25 1.02 7.11 6.09 600.47 0.14 0.94
2. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปอินเดีย
ลดลงมากกว่าร้อยละ 20 มี 2 รายการ
(1) เม็ดพลาสติก 1 95.46 63.53 -31.93 -33.45 13.20 8.37
(2) สิ่งทออื่น 12 21.92 17.41 -4.51 -20.60 2.79 2.29
รวบรวมโดย : ศูนย์สารสนเทศการค้าระหว่างประเทศ
จากสถิติการส่งออกดังกล่าวมีข้อสังเกต ดังนี้
เคมีภัณฑ์ (HS.38) MISCELLANEOUS CHEMICAL PRODUCT
อินเดีย นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 24 มูลค่า 4.020 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 0.37
เพิ่มขึ้นร้อยละ 107.97 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของอินเดีย มูลค่า 1,100.444 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.20 นำเข้าจาก สหรัฐฯ เยอรมนี จีน เป็นหลัก (2548)
เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (HS.8415) AIR CONDITION
อินเดีย นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 2 มูลค่า 31.428 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 16.20
เพิ่มขึ้นร้อยละ 102.68 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของอินเดีย มูลค่า 194.021 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 44.84 นำเข้าจาก จีน ไทย เกาหลีใต้ เป็นหลัก (2548)
ทองแดงและของทำด้วยทองแดง (HS.74) COPPER & ARTICLES THEREOF
อินเดีย นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 18 มูลค่า 11.868 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 1.46
เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.37 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของอินเดีย มูลค่า 815.092 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 69.83 นำเข้าจาก ศรีลังกา รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหลัก (2548)
หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ (HS.8504) ADP POWER SUPPLIES
อินเดีย นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 16 มูลค่า 5.096 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 1.36
เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.72 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของอินเดีย มูลค่า 375.280 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 42.65 นำเข้าจาก จีน เยอรมนี สหรัฐฯ เป็นหลัก (2548)
แผงวงจรไฟฟ้า (HS.8542) INTEGRATED CIRCUITS
อินเดีย นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 12 มูลค่า 9.610 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 1.93
เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.14 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของอินเดีย มูลค่า 498.215 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 11.63 นำเข้าจาก สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน เป็นหลัก (2548)
เม็ดพลาสติก (HS.3901) ETHYLENE, PRIMARY FORM
อินเดีย นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 10 มูลค่า 17.858 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 4.43
เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.36 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของอินเดีย มูลค่า 403.037 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 63.72 นำเข้าจาก ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สหรัฐฯ เป็นหลัก ( 2548)
สิ่งทออื่นๆ (HS.6306) TARPAULINS, SAIL, AWNING, TENTS, ETC
อินเดีย นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 31 มูลค่า 0.000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 0.00
ลดลงร้อยละ 96.01 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของอินเดีย มูลค่า 0.792 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 173.72 นำเข้าจาก สหรัฐฯ จีน สหราชอาณาจักร เป็นหลัก (2548)
7. ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็นเรื่องการค้าระหว่างไทย-อินเดีย
7.1 หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เอเชีย รายงานว่า เศรษฐกิจอินเดียในช่วงไตรมาสสุดท้าย
ของปีงบประมาณที่ 2548 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 มีอัตราการขยายตัว 9.3% เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีก่อน เป็นการแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของชมพูทวีปมีแรงส่งที่สามารถเทียบเคียงได้กับเศรษฐกิจ
จีนที่กำลังเติบโตร้อนแรง
การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียที่ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งในด้านการผลิตภาคการเกษตร
และค่าใช้จ่ายผู้บริโภคอยู่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนมากและดีกว่าการประเมิณตัวเลขของทาง
การก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามขณะทีเศรษฐกิจจีนและอินเดียเป็นพลังขับเคลื่อน
เศรษฐกิจโลก ตลาดโภคภัณฑ์กลับมีความตึงเครียดต่อความต้องการใหม่ๆ ซึ่งทั้งจีนและอินเดียต้อง
นำเข้าน้ำมันเป็นจำนวนมาก ประกอบกับจีนต้องซื้อโลหะพื้นฐานส่งผลให้ราคาสินค้าดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นและมีทีท่า
ว่าจะยังไม่ปรับลดลงในเร็ววันนี้
7.2 นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ในมุมไบ นายสุจิตะ เมห์ตา ให้ความเห็นว่าทั้ง
จีนและอินเดียได้พยายามส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจ เพื่อช่วยยกระดับประชากรที่มีอยู่จำนวนมากให้หลุดพ้น
จากความยากจน อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจอินเดียก็ยังคงต้องเผชิญอุปสรรค หลายประการ เช่น ความทรุดโทรม
ของถนน ท่าเรือ และสนามบินในอินเดีย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อ
การขนส่งสินค้า รวมทั้งขัดขวางการลงทุนและกิจกรรมทางธุรกิจ นอกจากนี้การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ของเศรษฐกิจอินเดียยังก่อให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ ซึ่งขยายตัวมากขึ้นเมื่อ
น้ำมันนำเข้ามีราคาสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อค่าเงิน ในขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
(โออีซีดี) ได้รายงานการคาดการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจในเอเซีย อาทิ
จีน อินเดีย ว่าทั้งสองประเทศมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อนแรง โดยโออีซีดีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ
อินเดียจะเติบโต 7% ตลอดในปีนี้และปีหน้า ทั้งนี้สินค้าราคาถูกจากเอเซียโดยเฉพาะจีนและอินเดีย จะมีส่วนสำคัญ
ในการลดภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐและยุโรป
7.3 องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ได้ระบุในรายงานภายใต้
หัวข้อ “วิเคราะห์เกษตรกรรม 2549-2558” ว่าประเทศอินเดียคือหนึ่งในประเทศที่กำลังพัฒนาเพิ่มขอบเขต
มากขึ้นในโลกเกษตรกรรม โดยอินเดีย จีน และบราซิล จะกลายเป็นศูนย์กลางของมหาอำนาจในการกำหนด
โฉมหน้าการผลิตด้านการเกษตรและการค้าของโลก ทั้งนี้การเติบโตที่ถูก วางแผนไว้ของการค้าสินค้าโภคภัณฑ์
จากภาคเกษตร จะอยู่ภายใต้การดำเนินการส่วนใหญ่ที่ถูกควบคุม โดยกำแพงภาษีทางการค้าที่สูงขึ้นสำหรับสินค้า
เกษตรไปจนถึงปี 2558
ที่มา: http://www.depthai.go.th